ช่วยด้วยเถอะนะคะ

Previous topic - Next topic

4854006204

คือหนูต้องการขอวีซ่าท่องเที่ยว แต่มีจดหมายเชิญเพื่อให้ไปพักที่บ้านแฟน เพราะจะไปแค่สองอาทิตย์ค่ะ

ต้องทำยังไงบ้างคะ รบกวนช่วยหนูหน่อยนะคะ กลัวไม่ผ่าน พอดีตั้งใจจะไปฉลแงวันเกิดกันน่ะค่ะ เกิดใกล้ๆกันทั้งคู่เลย

รบกวนแนะนำเรื่องเอกสาร และก็ที่แปลภาษาที่สถานฑูตรับรองด้วยนะคะ

ใครที่ผ่านหรือไม่ผ่านยังไง เข้ามาเล่าให้ฟังหน่อยนะคะ

ช่วยหนูด้วยนะคะ    :(

i_am_Da

สวัสดีค่ะ คุณ 4854006204 จากที่อ่านกระทู้ของคุณ ดาไม่แน่ใจเรื่องรายละเอียดของคุณ แต่จะพยายามแนะนำเท่าที่รู้นะคะ
คุณอยากไปพักบ้านแฟน แต่ยังเป็นนักศึกษา โดยให้แม่เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายใช่ไหมคะ ไม่แน่ใจว่าแบบนี้หรือเปล่า ตามความเข้าใจของดา น่าจะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวได้ แต่ให้แฟนมีจดหมายเชิญให้ไปพักที่บ้านเค้าแนบมาด้วย พร้อมทั้งให้ยื่นหลักฐานทางการเงินของแม่รับรองค่าใช้จ่ายของคุณ และหนังสือรับรองจากแม่ของคุณด้วย เพราะคุณยังเป็นนักศึกษา พร้อมทั้งให้มหาลัยออกหนังสือรับรองว่าคุณกำลังศึกษาอยู่ตอนนี้ ส่วนเอกสารอื่นๆ ก้อเหมือนทั่วๆไปค่ะ แต่ถ้าฐานะทางบัญชีของแม่คุณมั่นคงพอ ก้อไม่น่าจะมีปัญหาอะไรค่ะ เอาใจช่วยนะคะ

4854006204

พี่ดาเข้าใจถูกแล้วค่ะ แล้วจดหมายเชิญจากแฟนที่ให้เราไปพักนี่เค้าต้องเขียนยังไงเหรอคะ ต้องไปประทับตราอะไรหรือเปล่า หรือแค่เขียนส่งมาเฉยๆแบบอีเมลล์ได้หรือเปล่าคะ แล้วเอกสารที่อยู่ของแฟนหนูต้องแนบหรือเปล่าคะ .... ดีใจจังตั้งใจจะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวเพราะไปไม่กี่วันเอง กลัวว่าถ้าขอพักบ้านแฟนแล้วเรื่องจะนานจัง

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีดีนะคะ

อ่อ แล้ววีซ่าท่องเที่ยวนี่หนูต้องแปลเอกสารทุกอย่างรึเปล่าคะ

เอกสารที่หนูกำลังเตรียม ดังนี้ค่ะ

      1 แบบคำร้อง (นี่คงไม่ต้องแปล แต่เด๋วหนูคงต้องรบกวนพี่ๆช่วยหนูกรอกนะคะ)

   2 พาสปอร์ต + สำเนาพาสปอร์ต
   
      3 ประกัน

      4  จดหมายเชิญ/รับรองที่พักจากแฟน

      5 ใบรับรองของมหาวิทยาลัย (ขอแบบภาษาอังกฤษมาแล้วค่ะ)

   6 statment ของแม่ (ของหนูคงไม่ต้องใช้ใช่ไหมคะเพราะยังไงแม่ก็รับรองค่าใช้จ่ายให้)
     
   7 หนังสือรับรองจากแม่ (อันนี้นี่ให้แม่เขียนแล้วก็เซ็นชื่อใช่ไหมคะ ว่าแต่เขียนประมาณไหนคะ)

   8 บัตรประชาชน+สำเนา

   9 ทะเบียนบ้าน+สำเนาทะเบียนบ้าน

หนูคิดว่ามีเอกสารเท่านี้ใช่ไหมคะ   รบกวนพี่ๆช่วยตรวจสอบเอกสารให้ทีนะคะ แล้วอันไหนต้องแปลบ้างคะ

i_am_Da

เรื่องจดหมายเชิญจากแฟนให้แฟนดาว์นโหลดในเว็บนี้นะคะ


http://www.eda.admin.ch/etc/medialib/downloads/edactr/tha.Par.0036.File.tmp/Musterbrief%20Einladung%20Schengen.pdf


แล้วให้แฟนส่งเมล์กลับมา พร้อมทั้งสแกนสัญญาเช่าถ้าหากว่าแฟนเช่าอพาร์ทเม้นท์นะคะ พร้อมเซ็นรับรองด้วยค่ะ เอกสารทั้งหมดให้แฟนส่งเมล์มาค่ะ


- ส่วนเรื่อง statment นั้นใช้ของแม่อย่างเดียวค่ะ ถ่ายเอกสารพร้อมเซ็นต์รับรองสำเนา พร้อมสำเนาทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชนของแม่ด้วยนะคะ
- ส่วนหนังสือรับรองของแม่ พี่ดามีตัวอย่างน่ะค่ะ ตอนที่พี่ดายื่นเป็นภาษาอังกฤษนะค่ะ แต่อาจจะต้องปรับนิดนึง ไว้จะปรับแล้วส่งให้ทางเมล์นะคะ
- อย่าลืมรูปถ่าย 2 นิ้ว 2 รูป พื้นขาว เห็นใบหน้าและคอชัดๆนะคะ

ไว้ถ้าไม่แน่ใจตรงไหน ลองเมล์มาคุยกันก้อได้ค่ะ เผื่อจะพอช่วยๆกันได้ค่ะ da_8789@hotmail.com เอาใจช่วยนะคะ



i_am_Da

ถ่ายสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของแม่ พร้อมทั้งให้แม่เซ็นต์สำเนาถูกต้องด้วยนะคะ

4854006204

ขอบคุณมากค่ะ หนูแอดไปนะคะ

pang2529@hotmail.com

4854006204

ตอนนี้สบายใจเรื่องเอกสารมากๆเลยค่ะ ขอบคุณพี่ๆทุกคนมากเลยนะคะ


แต่มาหนักใจก็เมื่อเข้าไปอ่านกระทู้พี่ดาอะค่ะ ตอนที่สัมภาษณ์

ท่าทางหนูจะมีปัญหาตอนสัมภาษณ์แน่ๆ

คือ หนูก็เจอกับแฟนทาง social network เหมือนกันค่ะ

ตอนนี้ก็คบกันมา 1ปี 6เดือน 8วัน แล้วค่ะ คุยกันทุกวัน ทางสไกด์(หลับคาคอมกันมาตลอดปปีหกเดือนแหละค่ะ ทุกวันจริงๆ) กับคุยโทรศัพท์ แต่ไม่มีบิลนะคะเพราะเติมเงินค่ะ

แต่เรายังไม่เยเจอกันเลย จริงๆเค้าตั้งใจจะมาเมืองไทย แต่ว่าเพิ่งเปลี่ยนที่ทำงาน เลยติดช่วงทดลองงานสามเดือนค่ะ เค้าเลยอยากให้หนูไปหาแทนก่อน เพราะว่าเป็นช่วงวันเกิดเราทั้งคู่พอดีค่ะ

แต่หนูรู้จักกับแฟนหนูแล้วก็ทางครอบครัวของเค้านะคะ มีแม่(อยู่สวีเดน คุยกันบ่อยๆค่ะ) แล้วก็น้องสาวของเค้าเค้าก็อยู่ที่เบิร์นแหละค่ะ

ถ้าอย่างนี้เวลาเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์หนูจะมีปัญหาไหมคะ ไม่อยากให้ติดอะไร ช่วย คิดถึงน่ะค่ะ วันเกิดทั้งคู่ด้วย เกิดใกล้ๆกันเลย เราตั้งใจจะฉลแงวันเกิดด้วยกันเท่านั้นเองค่ะ เจ้าหน้าที่เค้าจะเห็นใจมั๊ยน๊าา เพราะยังไงก็ต้องกลับประเทศไทยค่ะ ไม่งั้นแม่งอนตาย 555

ยังไงรบกสนช่วยหนูคิดหน่อยนะคะ นี่ก็ลงทุนไปซื้อหนังสือเกี่ยวกับประเทศสวิสมา2เล่มแล้ว T_T


หญิงม้อย

ขอเข้ามาตอบให้อีกนินึงนะคะ
พอดีไปเยื่อนเรื่องยื่นเอกสารทำเรื่องไปแ่ต่งงานที่สวิสเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ที่ผ่านมา
เอกสารอย่างเช่นจดหมายเชิญ จะให้เค้าเขียนหรือพิมพ์ก็ได้ค่ะ เป็นภาษาใดภาษาหนึ่ง
ที่เค้าใช้ อย่างเช่น ภาษาเยอรมัน หรือฝรังเศษ พักด้วยกี่วัน บอกจำนวนวันที่แน่นอน
และต้องไม่ลืม เซ็นชื่อ หรือลงลายเซ็นในจดหมายนั้นด้วย พร้อมทั้งต้องมีใบสำเนาถ่าย
หน้าพาสปอร์ตหน้าแรกของเค้าแนบมาด้วย
ส่วนเรื่องคำถาม ต้องโดนแน่ๆค่ะ เตรียมเอาไว้ให้ดีละกัน ต้องเตรียมตัวให้ดีให้พร้อม
อย่าให้พลาดได้ เค้าถามอะไรมา ต้องตอบได้ ไม่ว่าจะถามภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ
เจ้าหน้าที่เค้าจะดูตรงนี้ค่ะ
ส่วนเรื่องเอกสารทางฝ่ายเราทุกอย่าง นอกจากถ่ายสำเนาแล้ว ตัวจริงก็ต้องเอามาให้เค้าดู
ด้วยนะคะ เค้าจะเรียกดูจากเราเลย อย่างเช่นทะเบียนบ้านต้องโชว์ตัวจริงเท่านั้น เป็นต้น
ส่วนหนังสือรับรองจากแม่ หรือใบรับรองสถาณภาพทางการศึิกษา สามารถออกเป็นภาษาไทย
ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องไปแปล เนื่องจากเราออกค่าใช้จ่ายเอง ขอวีซ่าแบบท่องเีที่ยว ไม่ไ้ด้
ไปแต่งงาน เอกสารส่วนนี้ไม่จำเป็นต้องไปแปลให้เสียเงินแต่อย่างใด เนื่องจากคนที่ตรวจสอบ
เอกสารเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยค่ะ หนังสือยินยอมหรือรับรองจากผู้ปกครองก็ให้สามารถรู้ได้ว่า
มีีความสัมพันธ์กัน แม่ ลูก ส่วนหนังสือรับรองสถานภาพนักศึกษา ก็ต้องไปให้ฝ่ายทะเบียนทาง
ต้นสังกัตของคุณเป็นผู้ออกให้ค่ะ เค้ารู้ว่าจะต้องออกใบรับรองยังไง

ปล สุดท้าย ก็อย่าลืมไปไหว้พระ ขอพร บนบาน ด้วยนะคะ กันเหนียว ( เสริมเอง หุหุ )

Lack

สวัสดีค่ะ ทุกๆคน

ตอนแรกว่าจะเข้ามาแนะนำเรื่องขอวีซ่า เพราะตอนขอครั้งแรกพี่ก็ขอแบบท่องเที่ยวและให้แม่เป็นคนรับรองเหมือนกัน แต่มาสะดุดตอนเห็นคุณ 4854006204 (รหัสนักศึกษาหรือเปล่าเนี๊ยะ  ;D) บอกว่า แต่เรายังไม่เคยเจอกันเลย จริงๆเค้าตั้งใจจะมาเมืองไทย แต่ว่าเพิ่งเปลี่ยนที่ทำงาน เลยติดช่วงทดลองงานสามเดือนค่ะ เค้าเลยอยากให้หนูไปหาแทนก่อน เพราะว่าเป็นช่วงวันเกิดเราทั้งคู่พอดีค่ะ เลยเปลี่ยนใจจะบอกว่า ใจเย็นๆดีกว่าค่ะ ให้เขาหาเวลามาเจอเราที่เมืองไทยดีกว่า อย่างน้อยสักครั้งก็ยังดี ให้พอรู้นิสัยใจคอและพอไว้เนื้อเชื่อใจได้ นอกจากว่าคุณมีญาติที่นี่ หรือมีคนรู้จัก พอจะช่วยเหลือในกรณีที่เกิดปัญหาที่นี่ มาที่นี่ครั้งแรก อาทิตย์แรกยอมรับว่ามันมืดจริงๆ ถ้าแฟนไม่พาออกจากบ้าน ก็ไปไหนไม่ถูกเหมือนกัน คิดว่าเป็นกันทุกคนนะ หรือถ้าคุณคิดว่าเป็นโอกาสดีจะได้มาเที่ยว มาฉลองวันเกิดกัน ก็ลองขอให้เขาจองโรงแรมให้เราพักแทน เกิดผิดใจหรือไม่ชอบมาพากลอย่างไร อย่างน้อยๆ เราเองจะได้ปลอดภัย เคยดูสารคดี เป็นคู่รักเจอกันทาง internet คุยกันเป็นปีๆ (แต่ผู้ชายคุยไว้หลายคน) พอผู้หญิงมาถึงที่นี่ก็ถูกหลอกมาทำงานอย่างว่า คนเราก็มีหลายประเภทค่ะ

ถึงอย่างไรสถานทูตก็ต้องถามอยู่แล้วว่า เจอกันเมื่อไหร่ วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ เจอกันกี่ครั้ง ที่ไหนบ้าง ขอดูวันที่เดินทางจากพาสปอร์ตของฝ่ายชาย ขอดูรูปถ่ายด้วยกัน ซึ่งถ้ายังไม่เคยเจอกัน แต่จะไปพักกับเขานี่ดูเลื่อนลอยมากเลยค่ะ อย่างที่บอกก็คือ ถ้าอยากมาจริงๆ ทำจองโรงแรม และพักโรงแรม น่าจะดีกว่า ถ้าเขารักเราจริงก็ควรจะเคารพความคิดเราด้วย (แถมทดสอบนำ้หนักกระเป๋าของเขาไปในตัว  ;))

ทั้งติงทั้งแนะนำนะคะ มีอะไรก็หลังไมค์ได้ค่ะ ยังไงก็ขอให้โชคดีนะคะ

ลักษณ์

หญิงม้อย

เห็นด้วยกับคุณลักษณ์ค่ะ
โอกาสที่จะถูกหลอก เป็นไปได้สูง เพราะไม่เคยได้พบตัวจริงกันเลย จู่ๆก็จะเป็นฝ่ายเดินทาง
ไปพบเค้าเอง หากขอวีซ่า เปอร์เซ็นที่จะถูกปฎิเสธการให้วีซ่า เป็นไปได้ค่อนข้างสูงค่ะ เนื่องจาก
หลักฐานทางความสัมพันธ์ มีไม่เพียงพอ ไม่เคยเจอกันด้วยซ้ำ มันเลื่อนลอยค่ะที่เค้าจะให้วีซ่าเรา
พูดตามหลักความเป็นจริงน่ะค่ะ ต่อให้คุณตอบคำถามเค้าได้ถูกเป๊ะ ถูกต้องครบถ้วนยังไง หากฝ่ายชายไม่เคยมาเมืองไทย ไม่เคยมาพบเจอกับเราแบบตัวเป็นๆเลย โอกาสที่จะเสียค่าวีซ่าให้กับ
สถานทูตสวิสให้เค้ากินเปล่าเป็นไปได้สูงค่ะ นอกเสียจากว่าคุณจะไปเอง ยื่นวีซ่าท่องเทียวแบบออกสตางค์เอง หรือทางบ้านเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ ซึ่งหลักฐานทางการเงินของทางบ้านคุณจะต้องมั่นคงพอค่ะแล้วเวลาเค้าถามเรื่องต่างๆ จะต้องไม่โยงเอาแฟนคุณเข้ามาเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น เช่นว่า คุณออกค่าใช้จ่ายเอง มีหลักฐานไปยืนยันว่าคุณจองโรงแรมที่พักเอง จ่ายเอง ไม่ได้ไปอยู่กับใคร ไม่ต้องมีใบเชิญจากใคร ไม่ได้รู้จักใครในสวิสเลย อันนี้ก็อีกเรื่องนึงค่ะ คุณได้วีซ่าแบบท่องเที่ยวแน่นอน
  แต่หากว่าคุณมีจดหมายเชิญจากแฟน แต่ไม่เคยพบเคยเจอกันแบบตัวเป็นๆเลยซักครั้ง ความ
สัมพันธ์ที่คุณแจ้งเค้าไปว่า รู้จักกันมาได้ หนึ่งปีหกเดือนกับอีกแปดวัน มันไม่มีความหมายเลยค่ะ
กเค้ากลัวว่าคุณจะโดนหลอก หรือตั้งใจจะไปเป็นโรบินฮู๊ดค่ะ

ลองกลับไปคิดทบทวนดูให้ดีนะคะ ว่ายังอยากไปพบเค้าอยู่มั้ย แล้วลองเอาที่ที่บอกมาข้างต้น
ไปทบทวนดูว่าควรจะขอวีซ่าแบบไหนให้ผ่าน คือไม่อยากให้โดนปฏิเสธน่ะค่ะ เพราะกรณีของคุณ
มันเป็นไปได้สูงว่าจะไม่รับวีซ่าแน่นอน ทั้งแบบเยี่ยมเยือนหรือวีซ่าท่องเที่ยว คุณต้องทำการบ้านค่ะ

โชคดีนะคะ

labelle

สวัสดีคะ

กรณีนี้ ขอเป็นแบบท่องเที่ยวดีกว่าไหมคะ แล้วจองโรงแรมผ่าน Booking.com สามารถยกเลิกได้ทีหลังคะ โดนไม่หักอะไรเลย แต่คงยังเสี่ยงมาก ๆ กับการที่จะวีซ่าไม่ผ่านคะ เนื่องจากเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว ไม่มีรายได้ แล้วไปช่วงปิดเทอมด้วยรึเปล่าคะ แต่ถ้าจะตอบตามความเป็นจริงนั้น และหากไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศแบบต้องขอวีซ่าด้วย  โอกาสสูงมากเข้าไปอีก

ส่วนเรื่องส่วนตัวคะ อยากแนะนำถ้าเป็นไปได้ ให้เค้ามาหาก่อนดีไหมคะ เรียนรู้นิสัยกันแบบตัวจริงกับ virtual ไม่เหมือนกันนะคะ  จากประสบการณ์ของตัวเองคะ ขนาดเจอกันที่นี่ 2 ครั้ง ครั้งละ 3 อาทิตย์ รู้จักกันปีกว่า ๆ  พอไปที่สวิส คนละเรื่องเลยคะ อยากจะกลับมากใน 3 วันแรกเลยคะ แต่สักพักค่อย ๆ อธิบายด้วยเหตุผลที่ว่าเราคนละ Culture เรื่องหยิบย่อยมากมายคะ 

บางที่รอโอกาสและเวลาที่เหมาะสมดีกว่านะคะ อีกทั้งยังได้พิสูจน์ความอดทนด้วยคะ รอให้เค้าทำงานสักพักหนึ่งแล้วเค้าก็สามารถพักร้อนได้แล้วคะ หรือช่วงคริสมาส ปีใหม่ หยุดหลายวันอยู่นะคะ

ยังงัยก็ขอให้โชคดีนะคะ

orncm

สวัสดีค่ะ
อ่านเรื่องราวแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ เห็นด้วยกับความคิดเห็นของหลายๆคนที่เตือนนะคะ ลองหาไปแบบทัวร์ก่อนก็น่าจะดีนะคะ หรือไม่ก็แบบท่องเที่ยวจองโรงแรมเองก็น่าจะดีค่ะ ไหนๆก็คุณแม่เป็น sponser เรื่องเงินลองชวนท่านไปเที่ยวด้วยกันสิคะ จะได้ช่วยกันดูนิสัยของฝ่ายชายด้วย  อย่างไรก็ตามเอาใจช่วยค่ะ
อร