ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจจากคุณnidnid

Previous topic - Next topic

baby

สวัสดีค่ะคุณnidnid
ขอบคุณมากน่ะค่ะที่เป็นกำลังใจให้ฉันและลูก      อย่างน้อยก็มีคุณที่เห็นใจฉัน  ดีใจมากที่ได้อ่านจดหมายจากคุณ
คนอื่นอาจไม่รู้สึกอะไรที่ได้อ่านจ.ม.คุณ แต่สำหรับฉันกับลูกนั้นมันมีความหมายมาก มันทำให้ฉันมีกำลังที่จะเดินหน้าต่อไป
ถามว่าฉันมีญาติไหม? ฉันมีญาติทางฝ่ายฉันเองเขารวยมากแต่ฉันพึ่งอะไรเขาไม่ได้หรอกน่ะเพราะเขากลายเป็นคนสวิส100%แล้ว
รวมทั้งนิสัยด้วย.ส่วนญาติทางแฟนมีแต่ไม่เคยติดต่อเลย...
ฉันจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อเรียกร้องสิทธิที่ลูกๆของฉันมี และจะสู้ให้ถึงที่สุด..
ในวันที่14พ.ค.นี้ฉันจะไปยื่นเรื่องทำวีซ่าท่องเทียว3เดือน  ถ้ายังไงก็ขอให้คุณช่วยเป็นกำลังใจให้ฉันและลูกๆอีกสักครั้งน่ะค่ะ
ขอให้คุณกับแฟนจงมีแต่ความสุขมากๆๆน่ะค่ะสวัสดีค่ะ

nidnid

ถึง คุณ เบบี๋

ไม่เป็นไรคะ หากแค่กำลังใจที่มีให้ ทำให้คุณมีแรงสู้ ก็พร้อมที่จะมีให้คะ

ถ้าแค่เหตุผลที่ว่า เรามีเงินไม่พอ มันคงดูเลวร้ายมาก อีกอย่างคนสวิตฯ เองแท้ ๆ ที่อยู่ที่นี้ ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรหรอกคะ บางคนยังต้องพึ่งเงินจากรัฐบาล
รัฐบาลสวิตฯ เอง จ่ายเงินมากมายเพื่อช่วยเหลือคนลี้ภัย แต่ลูกคุณคนสวิตฯ โดยกำเนิด พ่อเป็นคนสวิตฯ  ถ้าประเทศเขาไม่ดูแลคนของเขา
ก็ดูยังไงอยู่

การเดินเรื่องอาจต้องใช้เวลานานหน่อย แต่ก็ขอให้อดทน ดิฉันเชือว่าลูกคุณจะได้รับสิทธิ์ทุกอย่างเหมือนคนที่เกิดและโตในสวิตฯ คะ


ขอให้กำลังใจคุณคะ ถ้ามีข่าวดีอะไรก็แจ้งให้ทราบด้วยคะ

spa

สวัสดีค่ะคุณ baby
ก่อนที่จะให้คำตอบคุณได้ก็ต้องทราบที่มาที่ไปก่อนนะคะ
1. สามีของคุณอายุเท่าไหร่คะ
2. ถ้าสามีของคุณยังอายุไม่มากความเป็นไปได้ก็คือเค้าก็คงจะมีพ่อและแม่ถามต่อว่าพวกเค้ายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าคะ
3. ถ้าไม่มีพ่อและแม่สามีของคุณมีพี่น้องหรือเปล่า
4. สามีของคุณเคยอยู่ส่วนไหนของสวิสคะ
5. นามสกุลอะไรและมีที่อยู่ที่จะติดต่อได้บ้างหรือเปล่าบางทีอาจจะช่วยเหลือคุณได้นะคะ
สปาร์

baby

สวัสดีจ๊ะคุณนิดนิด
สบายดีไหมค่ะ?ส่วนฉันกับลูกๆสบายดีค่ะ
วันนี้ไม่ได้ไปยื่นเรื่องเลยเพราะไปมาแล้วเมื่อวันอังคาร       เอาหนังสือปฏิเสธไปไห้ทางสถานถูตสวิสอธิบายให้ฟัง ก็ได้เรืองว่าที่เขาปฏิเสธมานั้นคือเพราะเราไม่มีเงินรองลงมาก็คือเขาว่าเราและลูกพูดสวิสไม่ได้และลูกก็เกิดและอยู่ที่ประเทศไทยตลอดจะมาอยู่ที่นี่ทำไมแล้วเขายังว่าทำไมก่อนที่สามีคุณยังไม่เสียชีวิตคุณถึงไม่มาอยู่ที่สวิสมันจะได้ไม่ยากอย่างนี้.....เอ้าแล้วใครจะรู้ว่าสามีจะตายตอนไหนใช่ไหมล่ะแปลกเนาะ  ???
แต่ที่เป็นปัญหาหลักๆก็คือเงิน  พอสถานถูตอธิบายเสร็จเขา(ผู้ชายฟรังที่ทำงานในสถานถูต)ถามว่าคุณจะตอบกลับไหม?ถ้าคุณจะตอบคุณต้องมีค่าใช้จ่ายพอสมควรแล้วไม่รู้ว่ามันจะนานไปอีกเท่าไหร่    เราก็เลยถามเขาว่าแล้วฉันจะทำวีซ่าไปเที่ยวได้ไหม เขาบอกว่าตอนนี้ยังไม่ได้ต้องรอก่อน30วันหลังจากได้รับหนังสือ   แต่ถ้าฉันจะตอบกลับก็ไม่สามารถยื่นเรื่องขอวีซ่าได้เพราะเขาต้องใช้เวลานาน    แล้วฉันก็คิดว่ายากเพราะฉันไม่มีเงินพอฉันก็เลยตัดสินใจที่จะไม่ตอบกลับไป  แต่ฉันจะทำเรื่องไปในฐานะนักท่องเที่ยวถ้าใครรู้บ้างว่าไปเที่ยวต้องมีเอกสารอะไรบ้างช่วยบอกด้วยน่ะค่ะ
ไม่มีใครรับรองแต่จะรับรองตัวเองต้องทำยังไงบ้างช่วยแนะนำด้วยน่ะจ๊ะ
ขับรถไปกรุงเทพเองเหนื่อยมากขับคนเดียวปวดตัวไปหมด  ทำไงได้เนาะตัวคนเดียวแต่สู้ๆๆๆๆเพื่ออณาคตลูกๆ  ดีน่ะที่ออกจากกรุงเทพมาถึงบ้านที่บุรีรัมย์เมื่อวานตอนบ่ายสี่โมงเย็นพอหกโมงกว่าๆดูทีวีที่กรุงเทพยิงกันสน่นเมืองกรุงเลย      เลยถามตัวเองว่านี่หรืออณาคตของลูกในเมืองไทย 
แล้วค่อยคุยกันใหม่น่ะค่ะคุณนิดวันนี้สวัสดีค่ะ

baby

สวัสดีค่ะคุณspa
สบายดีไหมค่ะ?คำถามที่คุณถามมานั้น
1.สามีเสียตอนอายุ55ส่วนพ่อแม่เขาก็เสียหมดแล้วค่ะ
2.สามี มีพี่น้องสามคนแฟนเป็นคนกลางส่วนพี่คนโตเป็นผู้หญิงคนสุดท้องก็ผู้หญิงค่ะ
3.แฟนเป็นคนเบิรน์ค่ะนามสกุล marti ค่ะ ตั้งแต่แฟนเสียหรือก่อนแฟนจะเสียก็ไม่เคยติดต่อกับใครเลยค่ะ
ส่วนฉันมีอาเขาเป็นน้องสาวพ่อของดิฉันเองนั้นติดต่อกันตลอดแต่กลับไม่ช่วยอะไรเลยทั้งๆที่เขาพูดเสมอว่าเขามีเงินพอที่จะเผ่าตัวเองสุกแต่อย่างว่าเนาะที่เขาว่า   ;D  ถึงมีชาติมีเชื้อแต่ไม่มีความเอื้อเฟื้อก็เหมือนเนื้ออยู่ในป่า  8) ถึงไม่มีชาติไม่มีเชื้อแต่มีความเอื้อเฟื้อก็เหมือนเนื้อเดียวกัน ;Dใช่ไหมค่ะหรือถ้าคุณรู้เรื่องการขอวีซ่าไปเที่ยวก็ขอให้คุณช่วยแนะนำด้วยน่ะค่ะ
ขอบคุณมากๆๆน่ะค่ะที่เขียนมาหาเราสู้ๆๆๆสวัสดีค่ะ

spa

สวัสดีค่ะคุณ baby
คุณชื่ออะไรคะพร้อมท้ังลูกๆของคุณด้วยสามีคุณชื่ออะไรนามสกุลอะไรเด็กๆอายุเท่าไหร่
มีที่อยู่ของพี่สาวและน้องสาวหรือเปล่า
ถ้ามีที่อยู่ด้วยได้ยิ่งดีจะพยายามช่วยคุณถ้ามีข้อมูลพอที่จะอธิบายให้ญาติทางสามีให้คุณเช้าใจ
สปาร์

นันทนา

ก่อนอื่นขอเป็นกำลังใจให้คุณbaby  ทำอะไรเพื่อลูกนะคะ  ดิฉันอาศํยอยู่ที่สวิตฯกับสามีมีลูกเล็กๆหนึ่งคน เข้าใจเป็นอย่างดีค่ะ สำหรับคนเป็นแม่อยากให้สิ่ที่ดีที่สุดกับลูก ดิฉันคงช่วยอะไรคุณ baby ไม่ได้แต่ดิฉันอยากแสดงความคิดเห็นให้กับคุณเพื่อให้คุณเป็นข้อคิดประกอบการตัดสินใจ เพราะดิฉันอ่านกระทู้ของคุณแล้ว มีความคิดเห็นดังนี้ค่ะ
๑. ถ้าลูกคุณมาอยู่ที่สวิตฯแน่นอนว่าลูกคุณจะได้รับการศึกษาในดรงเรียนที่จัดได้ว่ามีมาตรฐาน แต่มันก็มีรายจ่ายจิปาถะมากมายนะคะ ยกตัวอย่างเช่น ค่าเสื้อผ้า ค่าทำกิจกรรมต่าง ค่าอุปกรณ์การเรียนที่ต้องซื้อบ้าง ไม่ใช่เรียนฟรีจะฟรีทุกอย่างนะคะ
๒. ถ้าคุณบอกว่าต้องการห้องอยู่เล็กๆนัน้ ที่นี่ อพาร์ทเม้นเล็กสุดก็ ๑ ๑/๒ ห้อง ซึ่งถือว่าเล็กมากสำหรับสามคน อันนี้ค่าเช่าก็อย่างต่ำประมาณ ๕๐๐ ฟรังส์ ยังไม่รวมค่านำ้ ค่าไฟ ค่าคนทำความสะอาดบริเวณส่วนรวมของตึก  ค่านำ้มันสำหรับเครื่องทำความร้อนซึ่งส่วนมากจะจ่ายกันเป็นปีแล้วเต่ที่ เรื่องค่าเช่าไม่ตายตัวขึ้นกับเมืองที่คุณจะมาอยู่
๓. คุณบอกว่าคุณได้เงินแม่ม่าย ๓๐๐๐ ฟรังส์นั้น สิ่งจำเป็นพื้นฐานที่คุณต้องจ่ายรายเดือน คือ ค่าเช่าห้อง ค่าประกันสุขภาพสามคนแม่ลูก  กรณีคุณนั้นไม่ทราบอายุเท่าใหร่แล้วคะถ้ามากกว่า ๓๕ ปีขึ้นไป จ่ายต่อเดือนก็ ประมาณ ๓๐๐ - ๔๐๐ ฟรังส์ ลูกคุณอีกสองคน อันนนี้แล้วแต่อายุนะคะ ไหนจะค่ากินอีก
๔. เรื่องภาษานั้นไม่ค่อยห่วงลูกคุณเท่าไหร่เพราะเด็กๆเรียนรู้เร็วมากเวลาไปโรงเรียน แต่ตัวคุณต้องเผชิญกับความเหงา ไม่รู้จักใคร ไม่มีเพื่อน ไม่มีญาติ  เท่าที่ดิฉันอ่านกระทู้คุณแล้ว ชวิตที่เมืองไทยคุณก็ดูสบายดีนะคะ แต่ถ้าคุณมาอยู่ที่สวิตฯคุณลำบากแน่นนอนค่ะ และงานที่นี่หายากมากๆค่ะ เพราะปัญหาใหญ่คือเขาบอกว่าเราไม่ได้ภาษาเขา  ดิฉันอยากให้แง่คิดคุณค่ะว่า หากคุณต้องเลือกที่จะลำบากที่เมืองไทย ที่มีญาติห้อมล้อม กับการที่คุณต้องมาลำบากที่สวิตฯและโดดเดี๋ยวไม่มีญาติคุณจะเลือกอย่างไหน  ชีวิตที่สวิตฯไม่ได้สวยหรูอะไร อย่าคาดหวังมากเกินไป รัฐบาลสวิตฯไม่ค่อยช่วยคนสวิตฯหรอกค่ะ


BUAKAO


baby

สวัสดีค่ะคุณนันทนาและคุณบัวขาว
ก่อนอื่นต้องขอกล่าวคำว่าขอบคุณมากสำหรับกำลังใจ
และความคิดเห็นของคุณทั้งสองคน         หนูเป็นลูกที่เกิดมากับครอบครัวที่ยากจนมากๆๆต้องนอนในบ้านที่มุงด้วยใบตาลน่ะค่ะก็เลยซึมซับกับความลำบากมามากเลยไม่เคยมีความคิดที่จะกลัวความลำบากเลยจริงๆ     หนูท้องลูกคนแรกที่สวิส ตอนท้องลูกคนแรกที่สวิสนั้นแฟนหนีมาที่เมืองไทย
คนเดียวโดยทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียวที่สวิสและเขาไปโดยที่ยังไม่ได้จ่ายค่าห้องอีก  แล้วเป็นครั้งแรกที่ไปสวิสแต่ฉันกลับเจอเรื่องแบบนี้อีกแต่ฉันก็ต้องสู้คนเดียวที่สวิส   และผ่านมาได้จนมีลูกคนที่สองอีก   และฉันเชื่อว่าคนสวิสหรือคนไทยที่อยู่ในสวิสต้องมีคนที่มีจิตใจที่ดีบ้างแน่นอน  เพราะฉะนั้นถามว่าฉันคาดหวังอะไรจากรัฐบาลสวิสไหม ? ไม่ แต่ฉันหวังกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมากกว่า ฉันเจอปัญหามามากมายแต่ฉันผ่านมันมาได้เพราะเพื่อนมนุษย์จริงๆ  เช่นคุณก็ยังช่วยฉันออกความคิดเห็นอีก หรือถ้าฉันได้ไปอยู่ที่สวิสจริงคุณนันทนากับคุณบัวขาวคงไม่ปล่อยให้ฉันกับลูกอดตายหรอกใช่ไหมค่ะ :'อยู่กับครอบครัวในเมืองไทยก็มีความสุขดีน่ะค่ะแต่ก็ยังยืนยันคำเดิมคืออนาคตลูก     อนาคตของลูกนั้ยิ่งใหญ่มาก      จนทำให้ฉันไม่กลัวกับความลำบากหรือแม้แต่ความเหงาเลยเพราะเราสามคนแม่ลูกคุยกันว่าจะสู้กับความลำบากด้วยกัน  ฉันถามลูกสาวฉันว่าพร้อมที่จะลำบากไหมเขาตอบว่าพร้อมขอให้แต่มีแม่อยู่ด้วย     ไม่ว่าอยู่ที่สวิสไม่มีญาติก็จริงแต่ฉันคิดว่าฉันอยู่ได้ขอให้มีลูกที่น่ารักสองคนของฉันก็พอและไม่เหงาแน่นอน  สิ่งที่คุณอธิบายมานั้นมันทำให้ฉันท้อมากกับเรื่องนี้  แต่คนเราไม่ลองก็ไม่รู้  สู้มาตั้งหลายตั้งแล้วคงไม่เป็นไรหรอกถ้าจะสู้อีกสักตั้ง ใช่ไหมค่ะ?....สวัสดีค่ะ

นันทนา

สวัสดีค่ะคุณbaby
อ่านกระทู้ของคุณแล้้วคุณมีกำลังใจที่ดี และมีปฏิธานแน่วแน่ที่จะต่อสู้เพื่อลูก ดีใจแทนลูกๆคุณนะคะที่มีแม่ที่ดีเช่นคุณ ที่ดิฉันเขียนแสดงความคิดเห็นบอกคุณนั้นไม่ได้อยากให้คุณท้อนะคะ แต่มันคือความจริงที่ต้องเผชิญแน่นอนค่ะ อ้อดิฉันไม่แน่ใจนะคะว่าหญิงที่ได้รับเงินแม่ม่ายนั้นยังต้องจ่ายภาษีอีกหหรือไม่ หรือว่าเงินที่คุณได้รับนันเขาหักภาษีแล้วคะ เพราะว่าคนแ่ที่ได้รับเงินบำนาญก็ยังต้องจ่ายภาษีนะค่ะ ดิฉันเล่าให้สามีฟังเรื่องของคุณสามีบอกว่าถ้ามาแล้วคุณช่วยตัวเองไม่ได้นั้น รัฐบาลอาจมาช่วย เช่นหาครอบครัวอุปถัมป์ให้ลูกคุณ อะไรประมาณนี้ค่ะ ยังไงรอผู้รู้มาช่วยตอบอีกทีนะคะ สู็ๆนะคะ

baby

ขอบคุณค่ะคุณนันทนาสำหรับคำชม
อย่าลืมน่ะค่ะถ้ามีอะไรที่จะแนะนำก็บอกได้น่ะค่ะฉันยินดีรับฟังเสมอ
สวัสดีค่ะ