รบกวนถามป้าพอลเรื่องกฎหมาย Schwarzarbeit หน่อยค่ะ

Previous topic - Next topic

Spa

สว้สดีค่ะคุณโจ้ และคุณฝน2008
แหมแทบรับมุกไม่ทันเอาอย่างนี้จะอธิบายให้ฟังค่ะขอเรียกตัวเองว่าพี่ก็แล้วกันนะคะถ้าบวกลบวันเดือนปีเกิดก็จะห่างกับคุณโจ้สิบเอ็ดปี
พี่มาอยู่ที่นี่ก็ประมาณสิบสี่ปีถ้าไม่นับติดตามสามีออกไปอยู่ต่างประเทศ นับตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่มีความรู้สืกว่าเรามาทำอะไรที่นี่,ความรู้ความสามารถที่เรามีไม่ได้เอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์อะไรเลยนอกจากเกาะสามีกินลักษณะก็คล้ายคุณโจ้และคนไทยที่มาอย่ใหม่อื่นๆที่มีความเป็นอิสระในการใช้เงินไม่ต้องมาแบมือขอเงินสามีเพราะไม่ได้ทำงานก็มีความคิดที่จะออกไปหางานทำ จำได้ว่าไปกับเพื่อนรุ่นพี่จบปริญญาโทเดินไปหางานสมัยนั้นไม่มีอินเตอร์เนตเหมือนตอนนี้ไปทุกที่ที่เค้ามีประกาศปรากฎว่าไม่มีใครรับเข้าทำงานเลย(ลูกๆก็ยังเล็กมีลูกสองคนชายหนื่งหญิงหนื่ง)ก็เลยตัดสินใจไปเรียนภาษาเพิ่มทั้งๆที่เคยเรียนภาษาเยอรมันมาจากเกอร์เธร์ที่เมืองไทยมาแล้วแต่ก็ใช้ได้แบบงูๆปลาๆพอเวลาผ่านไปภาษาใช้ได้แบบเอาตัวรอดได้ก็คิดอีกว่าลูกๆเข้าโรงเรียนแล้วเรามีเวลาเป็นของเราแล้วทำงานสักวันละสองชั่วโมงจะเป็นอะไรไปก็ตัดสินใจคุยกับสามีเรามีความเห็นตรงกันแต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องจัดการเรื่องในครอบครัวให้ลงตัวนะ

พี่ก็คิดว่าจะทำอย่างไรดีเลยตัดสินใจเปิดร้านขายของมือสองจำพวกของเล่นเด็กๆ และอีกหลายๆอย่างเท่าที่จะทำได้รวมทั้งเอาของมาจากเมืองไทยมาขายขอบอกว่ามีความสุขมากเพราะว่ามีรายได้เป็นกอบเป็นกำไม่ได้คิดเรื่องภาษีขอให้ฉันได้ทำแล้วมีความสุขพอเจอภาษีเข้าสามีก็มีความเข้าใจไม่ได้ต่อว่ามันมีแต่ก็คือลูกๆที่เราคิดว่าเด็กๆไปโรงเรียนแล้วไม่มีปัญหาแต่ปัญหามันค่อยๆฝังตัวอย่างช้าๆ คือเวลาและกำลังที่เรามีอยู่เราทุ่มเทให้กับสิ่งที่เราต้องการ(คือการได้ทำงานและมีเงินเป็นของตัวเองแต่เราลืมไปว่าเรามีลูกที่ต้องการเราในทุกๆเรื่อง)จากที่เราเคยให้เวลาเต็มที่เราก็จะบอกว่าให้แม่ทำงานให้เสร็จก่อนแล้วค่อยมาจัดการพวกเธอและจากประสบการณ์ที่เห็นเพื่อนๆที่ทำงานเอาลูกไปให้คนอื่นเลี้ยงเด็กเริ่มสับสนจากพี่เลี้ยงและการเลี้ยงของเราถ้าได้คนที่เลี้ยงดีอบรมสั่งสอนเด็กในทางที่ดีก็เป็นความโชคดีของเราและเด็กถ้าไปเจอพี่เลี้ยงที่ไม่ดีจะซีมซับสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีมีความก้าวร้าวและมีปัญหากับทางโรงเรียนซึ่งถ้าใครมีลูกเข้าโรงเรียนและอยู่ในวัยเจริญเติบโต(ลูกเล็กปัญหาเล็กถ้าลูกโตปัญหาก็เพิ่มขึ้นตามวัย)และปัญหานี้ก็จะเกี่ยวโยงไปถึงจิตแพทย์ซึ่งเราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ถีงแม้ว่าเราจะต่อสู้อย่างไรก็ตามซื่งเห็นมามากต่อมากแล้วจากคนสวิสเองและคนไทยด้วยกัน

น้องโจ้ถ้าน้องมีพ่อแม่ของแฟนคอยช่วยดูแลลูกก็เป็นโชดดีของเด็กแต่น้องคิดบ้างหรือเปล่าว่าพ่อแม่ของสามีจะมีเวลาให้กับเด็กได้ตลอดไปหรือเปล่ามันจะมีผลกระทบกับเวลางานของคุณเพราะว่างานที่ทำมันมีเวลาเฉพาะคุณก็ต้องมานั่งปวดหัวว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร
เดี๋ยวจะมีตอนด่อไปเกี่ยวกับตารางเทียบภาษีอากรขอเวลาไปทำธุระส่วนตัวก่อนค่ะ

Spa

สวัสดีคะคุณโจ้และทุกๆท่าน
ขอต่อเลยนะคะ,  ที่พี่มีมุมมองของพี่ก็เพราะว่าไม่อยากให้เกิดปัญหาแล้วก็มานั่งแก้กันทีหลังแต่ถ้ามองในมุมกลับอะไรที่เราได้ตัดสินใจไปแล้วไม่ว่าเราจะตัดสินใจถูกต้องหรือผิดมันดีทั้งนั้นถ้าถูกต้องก็เป็นประสบการณ์ที่ดีแต่ถ้าผิดก็เป็นบทเรียนของเรา
อะไรก็ตามที่คุณโจ้ตัดสินใจทำพี่คิดว่าคุณในขณะนี้สถานการณ์ของคุณตอนนี้มันก็คงจะถูกต้องสำหรับคุณเพียงแค่ต้องการชี้ให้เห็นเท่านั้นว่ามันจะคุ้มค่ากับการที่เราตัดสินใจไปหรือเปล่าเท่านั้นเอง
สำหรับพี่แล้วถ้าย้อนเวลากลับไปได้พี่จะเรียนภาษาเยอรมันให้มากกว่านี้, เอาเวลาใส่ใจกับลูกมากกว่านี้ เท่าที่อ่านทู้ของคุณโจ้คุณเป็นคนมีคุณภาพคนหนื่งและถ้าจำไม่ผิดคุณสามารถขับรถได้ทำไมไม่จัดการเรื่องสอบขับรถและได้ใบขับขี่มากอดเอาไว้ก่อน ให้เวลากับตัวเองซักนิดทบทวนดูสักหน่อยว่าเราต้องการอย่างนั้นจริงหรือเปล่าเดี๋ยวจะกลายเป็นอันนี้ก็ไม่ดีอันนั้นก็ไม่ดีในที่สุดตัวเราเองจะมานั่งเสียดายเวลาที่ผ่านไป
มัวแต่พรำอยูได้จะเข้าเรื่องเลยนะคะ

การเสียภาษีที่นี่ในที่นี้พี่จะไม่อธิบายขั้นตอนนะคะให้คุณโจ้และคุณฝน2008เข้าไปอ่านทู้เก่าของป้าพอลที่เขียนไว้ในเรื่องการเสียภาษีในสวิสเซอร๋แลนด์ในห้องนั่งเล่นหรือถ้าป้าพอลพอจะมีเวลาว่างขอรบกวนให้ป้าเข้ามาอธิบายนะคะพี่จะอธิบายถึงแค่ Tariff ของการเสียภาษีเพี่อที่คุณโจ้จะนืกภาพออกว่าทำไม

สมมตินะคะ
พูดเฉพาะ Steuerbares Einkommen(คือรายได้หลังจากคำนวณการหักค่าใช้จ่ายต่างๆที่คุณสามารถหักได้)ดังนั้นมันจะมีตารางในการจ่ายภาษีทาง Kanton จะเป็นผู้ส่งแบบฟอร์มอันนี้มาให้และมีตัวอย่างแสดงให้ดูด้วยว่าคิดอย่างไรในตอนท้ายๆ ก็จะมี Tariff ต่างๆ
ยกตัว่อย่างเช่น
สามีของคุณมี Steuerbares Einkommen ที่50`000 sfr./ปี พูดเฉพาะในตอนที่คุณยังไม่ได้มีรายได้เข้ามานะคะเพื่อการเปรียบเทียบ สามีของคุณก็จะต้องจ่ายภาษีรายได้ประมาณ 1`410sfr.ทั้งนี้และทั้งนั้นขิ้นอยู่กับ Gemeide ที่คุณอยู่นะคะไม่ได้กำหนดตามที่พี่บอกถ้าจะอธิบายที่มาที่ไปก็คงต้องใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนเลยหล่ะ

ในกรณีที่คุณหารายได้มาเพิ่มให้กับคุณสามีอย่าลืมนะคะว่าสามีกับภรรยาถ้าจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฏหมายแล้วถือว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันดังนั้นถ้าคุณมีรายได้มากกว่า 2`000sfr./ปีเอารายได้ของคุณมารวมกับสามี,แทนที่ Tariff ของคุณจะอยู่ที่ห้าหมื่นมันก็จะเพิ่มขิ้นแต่ถ้ามันเพิ่มขิ้นแต่ไม่มีผลกระทบกับ Tariff ที่สามีของคุณจ่ายมันก็โอเค

ในกรณีที่สามีคุณมีฐานรายได้ที่สูงอยู่แล้วเช่น
รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 400`000sfr.(ขอยกตัวอย่างแบบสุดกู่นะคะ)
ในตารางก็จะมีบอกว่าคุณจะต้องจ่ายในราคา 39`150sfr.อันนี้ในกรณีที่สามีมีรายได้เข้ามาคนเดียวนะคะเอาหล่ะถ้าคุณทำงานเพิ่มเข้ามาให้ต่อปีคุณทราบหรือเปล่าว่าทุกๆ rp.ที่คุณหามาเพิ่มให้คุณสามีนั้นมันจะทำให้ฐานรายได้ของสามีคุณเพิ่มขื้นมาอย่างมากมาย
ตอนที่เงินมันเข้ามาในกระเป๋าและใช้จ่ายนั้นมันมีความสุขแต่เวลาจะต้องจ่ายออกไปให้กับการเสียภาษีนะคะมันแสนจะทรมานใจมาก,ถ้าคุณรู้จักเก็บและแบ่งเงินเป็นสัดส่วน(ตามทษฏีใครๆก็ทำแต่ปฏิบัติจริงเป็นการยากมากที่จะทำได้นอกจากคนมีวินัยในตัวสูงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเท่านั้นที่จะทำได้)ก็โอเคแต่ถ้าทำไม่ได้ตอนกรอกแบบฟอร์มจ่ายภาษีนั้นคุณจะล้มทั้งยืนหยิบเครื่องคิดเลขมากดแทบไม่ทัน
เคยได้ยินคำนี้หรือเปล่าคะ "Death and Tax never go away from you"

พี่ก็หวังว่าคุณโจ้จะเข้าใจบ้างไม่มากก็น้อยต่อไปก็เป็นการตัดสินใจของคุณว่าคุณจะจัดการกับชีวิตอย่างไรเพราะทุกอย่างมีสองด้าน
สปาร์


nidnid

สวัสดีคะทุก ๆ คน

เข้ามาแสดงความยินดีกับคุณโจ้คะ "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น"

พูดถึงเรื่องภาษีที่ต้องเสีย หากเรารู้ว่าทุกสิ้นปีต้องเสียภาษี ก็ควรจะแบ่งเงินเก็บไว้สำหรับเสียภาษีตอนสิ้นปี
และมีวินัยในตัวเอง ก็คงไม่น่าจะเป็นปัญหา

สมมตินะคะ ถ้าสามีมีรายได้ไม่มาก ภรรยาก็ควรจะทำงานเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระต่าง ๆ ซึ่งมันก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี
แต่สำหรับคนที่สามีมีรายได้สูง มันก็แน่นอนที่ต้องจ่ายภาษีเยอะ ตัวภรรยาเองก็ต้องตระหนักว่า หากเราทำงาน
ภาษีที่ต้องจ่ายตอนสิ้นปีก็ต้องเพิ่มขึ้นแน่นอน ซึ่งคิดว่าทุกคนก็คงตระหนักถึง
ดังนั้น หากมีรายได้ไม่ว่าจะมากจะน้อย ก็ควรจะหักเก็บไว้เป็นค่าภาษีตอนสิ้นปี

สำหรับดิฉัน ขอเลือกทำงานดีกว่า ถึงแม้ว่าจะต้องจ่ายภาษีตอนสิ้นปีเยอะหรือเพิ่มขึ้นก็ตาม เพราะอนาคตมันไม่แน่นอน
เหมือนคุณโจ้ว่า หากวันหนึ่งไม่มีสามี ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ๆ เราก็ต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวและขาของเราเอง อีกอย่างไม่มีลูกด้วย
อยู่บ้านว่างมาก ทำให้ตัวเองเครียด อีกอย่างได้ใบขับขี่สวิสมานอนกอดแล้ว เรียนภาษาเยอรมันก็จบถึงขั้นซีหนึ่งแล้ว
ไม่มีลูกต้องให้ส่งเรียน ก็เลยขอส่งตัวเองเรียนแล้วกัน ที่เขียนมาก็ไม่ได้จะโชว์ออฟใคร
ต่างคนต่างเหตุผล แต่ทุก ๆ ประสบการณ์ที่นำมาแชร์กัน เป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ เพราะบางคนอาจจะลืมนึกถึงเรื่องการเสียภาษี
คิดคำนึงถึงแต่การหารายได้ ทำงาน ๆ ๆ

ขอบคุณป้าพอลที่มีเวบไซต์ดี ๆ แบบนี้ ให้คนได้ศึกษาและนำประสบการณ์มาแชร์กัน

pall

สวัสดีค่ะ คุณคุณโจ้,  , คุณFon2008 , คุณApi ,คุณ pan
สวัสดีค่ะ คุณสปา
สงสัยคงเขียนตอบจนตาลายแน่ๆเลย จึงให้คุณโจ้ไปเคาะห้องเพื่ออ่านภาษีผิดห้อง ไม่ใช่ห้องนั่งเล่นค่ะ แต่เป็นห้องที่2  ลงLinksให้เลยนะคะจะได้ไม่ต้องไปหาจนปวดหัว

DAS STEUERSYSTEM DER SCHWEIZ..ระบบภาษีอากรของสวิส
http://www.pallswiss.com/boards/index.php/topic,383.0.html

<<<STEUERERKLAERUNG 2005...(Kanton Bern)>>>
http://www.pallswiss.com/boards/index.php/topic,300.msg1911.html#msg1911

แต่งงาน+มีลูก...กับการเสียภาษี
http://www.pallswiss.com/boards/index.php/topic,992.0.html

การคำนวณการหักภาษีของแต่ละเขตที่พำนักที่จะคิดภาษีไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับเขตที่อยู่สามารถคำนวณได้ที่นี่
Steuerrechner
http://www.estv2.admin.ch/d/dienstleistungen/steuerrechner/steuerrechner.htm
http://www.swiss-tax.ch/2a.htm

การเปรียบเทียบการคิดภาษีของแต่ละเขตพำนัก ของรัฐที่อยู่
Steuerbares Einkommen(คือรายได้หลังจากคำนวณการหักค่าใช้จ่ายต่างๆออกแล้ว)
http://www.comparis.ch/steuern/steuervergleich/steuervergleich.aspx

Linksยังมีอีกแต่อยู่ในโน้ตบุคแล้วจะนำมาลงเพิ่มอีก

pall

สวัสดีค่ะ คุณJojo
ขอบคุณมากค่ะ ที่เข้ามาเขียนเล่าข้อมูลการทำงานที่เป็นประโยชน์ความรู้แก่คนอื่นเป็นวิทยาทานแก่กัน

อยากเสริมเกี่ยวกับคำว่า Schwarzarbeit นั้นหมายถึงการทำงานทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นงานอะไรที่ขัดต่อกฎหมายโดยหลีกเลี่ยงโดยไม่ไปลงทะเบียน  ไม่จ่ายประกันสังคมตามที่กม.บัญญัติไว้........และการหลีกเลี่ยงภาษี
หรือคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในสวิสที่ไม่มีใบอนุญาตในการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
http://www.keine-schwarzarbeit.ch/arbeitnehmende/00044/index.html?lang=de
http://www.keine-schwarzarbeit.ch/arbeitnehmende/index.html?lang=de

คำว่า Hausdienstarbeit หมายถึงงานอะไรบ้าง
เช่น งานทำความสะอาด งานดูแลเด็ก งานบ้าน...ฯลฯ
ข้อมูลกฎบัญญัติ การหักเงินประกันสังคม อุบัติเหตุ  สัญญาการทำงาน ฯลฯ สามารถอ่านได้ที่นี่
http://familienforum.liliput.ch/download/hausdienstarbeit_ahv_iv_merkblatt_2.06-d.pdf
http://familienforum.liliput.ch/topic.asp?topic_id=362

คำถาม10 ข้อที่ถูกถามเกี่ยวกับการทำงาน
http://www.keine-schwarzarbeit.ch/faq/index.html?lang=de

คำถามข้อ1 เกี่ยวกับการจ้างคนมาทำความสะอาดบ้านจะต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งจะมีรายละเอียดเขียนบอกไว้เป็นขั้นตอนเช่น
1 Melden Sie sich bei der Ausgleichskasse Ihres Wohnsitzkantons als Arbeitgeber an....
นายจ้างไปแจ้งต่อ Ausgleichskasse เขตที่พำนักอยู่เพื่อขอแบบฟอร์มมากรอก หรืออย่างที่คุณโจ้เขียนเล่ามาข้างบนโดยการโหลดแบบฟอร์มจากเขตที่อยู่
ขั้นตอนต่างๆในการแจ้งคนมาทำงานสามารถอ่านได้ที่นี่
http://www.keine-schwarzarbeit.ch/faq/00120/index.html?lang=de
http://www.ahv-iv.info/andere/00150/00151/index.html?lang=de

ตัวอย่างแบบฟอร์มของAarau
http://www.wettingen.ch/dl.php/de/20070122183838/211%5B1%5D.111f.pdf_Anm_fr_Hausdienstarbeitgebende.pdf

การจ่ายเงิน (AHV, IV, EO und ALV)
http://www.keine-schwarzarbeit.ch/arbeitgebende/00069/index.html?lang=de

ขอเขียนลงคร่าวๆแค่นี้นะคะ

Lack

ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า แต่เคยได้ยินว่าถ้าไม่มีงานทำ ไม่เสียภาษี และพูดภาษาพื้นฐานของ Swiss ไม่ได้ ภายใน 3 ปี เค้าจะไม่ต่อ B Permit ให้ ใครพอจะมีข่้อมูลก็ขอความรู้หน่อยค่ะ
ถ้าเป็นแบบนี้ คุณโจ้ก็คงต้องเหนี่อยเป็น 3 เท่า เพราะต้องทำงาน เลี้ยงน้อง และเรียนภาษา สู้สู้นะคะ
ว่าแต่ร้านคุณโจ้อยู่แถวไหนค่ะ เลิกเรียนจะไปขอกินฟรีบ้าง eiei

Jojo

สวัสดีค่ะป้าพอล คุณSpa คุณแพน คุณฝน คุณApi คุณLack และทุก ๆ คน

ป้าพอล...ขอบคุณค่ะสำหรับลิงค์ เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม :-* :-*

คุณSpa...ขอบคุณค่ะพี่สำหรับคำแนะนำดี ๆ และข้อมูลเรื่องภาษี  :-* :-*
ขอยกมือเห็นด้วยกับเรื่องการแบ่งเวลาให้กับลูกค่ะพี่ ;D แต่สำหรับโจ้ประสบการณ์เรื่องไม่มีเวลาให้ลูกได้เกิดขึ้นกับตัวเองมาแล้วค่ะที่เมืองไทย เพราะส่วนใหญ่ชีวิตโจ้ก็ทำแต่งานๆๆ ให้พูดภาษาบ้าน ๆ ก็เรียกว่าบ้างานเลยค่ะ เวลาทำงานแล้วมันทุ่มสุดตัวกะหัวใจ ขออนุญาตท้าวความสักนิดส์นึงนะคะ โจ้เลี้ยงลูกเองตั้งแต่คลอดจนถึงขวบนิด ๆ พอลูกเดินได้ ความเหนื่อยในการเลี้ยงลูกมันก็น้อยลง เลยไปตื้อแม่มาให้เลี้ยงลูกให้ แล้วตัวเองก็ไปทำงาน ตอนนั้นคุณสามีก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วย แต่ห้ามไม่ได้เพราะความดื้อของเรา ได้ทำงานโรงแรมที่เกาะสมุย โรงแรม5ดาวเพิ่งเปิดใหม่ ทำอยู่ในส่วนของ F&B กับบ้านดึกตลอด บางทีไม่ดึกปกติเกือบเที่ยงคืนหรือเลยเที่ยงคืนก็มี สามีไม่พูดด้วยเป็นอาทิตย์ หลังจากนั้นย้ายมาอยู่พัทยาก็ยังดิ้นรนหางานทำอีกเป็นพนักงานขายผ้าม่านต้องออกไปดูหน้างานตามบ้านลูกค้า กลับบ้านไม่ค่อยเป็นเวลา คุณสามีก็ไม่ค่อยจะยินดียินร้ายเหมือนเดิมจนกระทั่งได้ท้องลูกคนที่สองก็ต้องขอลาออก แม่ก็กลับไปอยู่กรุงเทพฯ ตอนนี้เลยต้องเลี้ยงลูกเองเหมือนเดิม คุณสามีเป็นปลื้มกะว่าคงจะอยู่บ้านเป็นแม่บ้านเต็มตัวสักที แต่ป่าวเลย โชคไม่ดีแท้งลูกตอน 3 เดือน หลังจากพักฟื้นร่างกายได้ 2 เดือนเริ่มเบื่อกับการอยู่บ้าน ออกไปหางานทำต่อจนได้ ตอนนี้แหละค่ะมันเริ่มมีผลกระทบกับลูกแล้ว ไม่ใช่แค่สามี เพราะหน้าที่หลักโจ้คือไปรับ ไปส่งลูกไปโรงเรียนอนุบาล แต่พอเราไปทำงานเลิกงานไม่ทันมารับลูก ก็เลยจ้างครูที่โรงเรียนเพิ่มเป็นพิเศษให้ดูแลลูกหลังจากเลิกเรียนจนกระทั่งโจ้เลิกงาน ตอนนี้ล่ะที่สำนึกได้ เพราะเวลาไปรับลูก ลูกร้องไห้ทุกครั้งไม่ยอมกลับบ้าน จะขออยู่กับครู ร้องเหมือนตัวโจ้ไม่ใช่แม่เค้าเลย ร้องตั้งแต่โรงเรียนจนถึงบ้าน :'( :'( เสียใจมากค่ะน้ำตาตกในเลยล่ะ ไม่ใช่ว่าเป็นแค่วันสองวัน เป็นอยู่หลายอาทิตย์ จนกระทั่งต้องพยายามคุยกับลูกให้ลูกเข้าใจว่าทำไมเราต้องไปทำงาน แล้วแบ่งเวลาที่เหลือให้กับเค้าเสมอ เวลาลูกสาวมีกิจกรรมที่โรงเรียนก็ต้องหยุดงานไปดูเค้า ไปร่วมกิจกรรมกับเค้า หลังเลิกเรียนก็ไปเดินห้างด้วยกันเหมือนเดิม แต่ก็เป็นบางวัน จนเค้าเข้าใจเรา วันไหนลูกไม่มีเรียนก็ขอเจ้านาย ขอเอาลูกไปที่ออฟฟิศด้วย เจ้านายใจดีค่ะ เลยได้มีโอกาสให้ลูกได้เห็นเวลาเราทำงาน เห็นบรรยากาศของการทำงาน การเจอลูกค้า ตั้งแต่นั้นมาลูกเค้าก็เลยเข้าใจโจ้ว่า ทำไมโจ้ต้องทำงาน  ::)
พอเราย้ายมาอยู่สวิส ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวก็ต้องเปลี่ยนไป จะกินจะอยู่ใช้จ่ายสบาย ๆ แบบเมืองไทยไม่ได้ อย่างจะออกไปกินข้าวนอกบ้านทุกอาทิตย์น่ะ ลืมไปได้เลย สถานภาพของครอบครัวเป็นอย่างไร โจ้กับสามีจะคุยกับลูกเสมอ ๆ เพือให้ลูกได้เตรียมพร้อมและปรับตัวอยู่ให้ได้ในทุกสถานการณ์ที่มันอาจจะเกิดขึ้นกับครอบครัวเรา ลูกสาวโจ้เค้าจึงเข้าใจเหตุผลว่าทำไม โจ้ต้องทำงานเหมือนเดิม แบบว่าลูกเริ่มชินกะแม่แล้ว มีแม่ไฮเปอร์..555 ส่วนพ่อแม่สามีนั้น โจ้ก็เกรงใจพวกเค้าอยู่เหมือนกันที่ให้ดูลูกให้ เพราะชีวิตคนที่สวิสค่อนข้างจะมีกิจกรรมเยอะ อีกอย่างถึงเค้าจะเกษียณแต่พวกเค้าก็ยังทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ กันอยู่เหมือนกัน แต่ก็ได้ปรึกษาพวกเค้าแล้วเรื่องที่โจ้จะออกไปทำงาน เค้าก็ว่าออกไปทำได้แต่ไม่ให้ทำเต็มร้อย อาทิตย์ละสองสามวัน พวกเค้าดูลูกให้โจ้ได้ เพราะปกติพวกเค้าก็มักจะพาหลานไปเที่ยวหลังเลิกเรียนเสมอ หรือพาไปสภากาแฟกะเค้าด้วย..555 โชคดีอย่างนึงที่คุณสามีหาอพาร์ทเม้นต์ไม่ไกลจากอพาร์เม้นต์พ่อแม่เค้า ห่างกันแค่หนึ่งช่วงตึกเท่านั้นเดินไม่ถึง 3 นาทีถึง ;D
เรื่องความโหดของภาษีที่สวิส ก็เคยมีพี่ๆ ที่เค้าอยู่ที่สวิสมานาน ๆ เหมือนอย่างพี่สปาร์บอกไว้เหมือนกันว่า ถึงทำงานก็ไม่ค่อยจะเหลือเก็บเพราะโดนหักภาษีหมด แต่สำหรับครอบครัวโจ้ โจ้หวังกันว่าคงจะมีเหลือเก็บบ้างล่ะหน่า เพราะโจ้กะสามีก็คุยกับแล้วว่า เราย้ายไปอยู่สวิสกันเถอะ ไปทำมาหาเก็บแล้วค่อยกลับมาอยู่เมืองไทยใหม่ อย่างน้อยคุณภาพชีวิตก็คงจะดีกว่าที่เมืองไทย ที่มีแต่ปัญหาเสื้อแดง เสื้อเหลือง ???  ฉะนั้นการเงินภายในครอบครัวค่อนข้างจะมีแบบแผนแต่ละคนก็ทำบัญชีค่าใช้จ่ายของแต่ละคนไป อย่างโจ้หน้าที่จ่ายกับข้าวมีค่ากับข้าวให้เท่าเนี้ย ทำยังไงให้อยู่ให้ได้ต่อเดือน...โจ้ก็มองหาอย่างเดียวป้ายอักซิโอน อะไรลดราคาก็ซื้ออันนั้นแหละ ถือหลักประหยัดแต่ไม่อด...555 ;)ยิ่งถ้าไปจ่ายกับข้าววันเสาร์ช่วงมิโกร โคออปใกล้จะปิด ชอบมากขอบอก เพราะสินค้าป้ายแดงลด 50 เปอร์เซ็นต์เพี๊ยบ
สรุปว่า...พอมีโอกาสได้งานที่ทุกอย่างมันลงตัวและเหมาะเจาะทั้งวัน เวลา และตำแหน่งงาน สภาครอบครัวก็เลยยกมือสนับสนุนกันทุกคน ไม่โดนสกัดดาวรุ่งเหมือนงานที่ผ่าน ๆ มา จึงตัดสินใจว่าทำงานดีกว่าค่ะ ส่วนเรื่องไปโรงเรียนน่ะของชอบเลยค่ะยังไงก็จะเรียนมันไปเรื่อย ๆ ถึงภาษาเยอรมันจะแข็งแรงแล้ว(คงอีกหลายปีอยู่) ก็จะลงเรียนอย่างอื่นต่อ จนกว่าคุณสามีจะไม่ให้ทุน ;D ส่วนเรื่องขับรถ ต้องลุ้นวันที่ 4 พ.ย.นี้ วันสอบค่ะ จะสอบผ่านหรือไม่ผ่านเดี๋ยวจะเข้ามาเล่าให้ฟังกันอีกที ;D
ยังไงก็ขอขอบคุณพี่สปาร์ที่เข้ามาแชร์ประสบการ์นะคะ ชอบค่ะและยินดีรับฟัง ทำให้ได้แง่คิดและมุมมองใหม่ ๆ เพิ่ม และอยากให้คนอื่นๆ ได้อ่านด้วย เพราะการที่จะมาอยู่ที่สวิสใครว่ายาก เพียงแค่ตื้อยื่นเรื่องที่สถานฑูตไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ได้มา แต่มาแล้วจะใช้ชีวิตอยู่ให้ได้ยังไงนี่ล่ะยากกว่า ::)

คุณแพน...สบายดีป่าว นานเลยไม่ค่อยเห็นในบอร์ด ภาษาเยอรมันไปถึงซี 1 แล้วเหรอค่ะ โจ้ยังอยู่เอ 1 อยู่เลยอ่ะ มันไม่กระเตื้องไปไหนเลย  :'( :'(

คุณLack...ร้านอาหารอยู่ที่บานโฮบ โอลเตลค่ะ คนไทยด้วยกันก็อยากจะให้กินฟรีอ่ะนะ แต่ว่าครัวมันอยู่ชั้นใต้ดินนะซิ ไม่รู้จะเอาออกมาให้กินยังไง..555

ส่วนคนอื่นๆ สบายดีกันนะคะ...โชคดีกันทุกคนค่ะ ;)






อย่าหยุดที่จะเดินหาโอกาส

Jojo

สวัสดีดีค่ะทุก ๆ คน

ได้มีเวลาเข้าไปอ่านลิงค์ต่าง ๆ ที่คุณป้าพอลให้มา แล้วก็ลองคำนวณภาษีคร่าว ๆ (ในเว๊บไซด์มีให้เล่นค่ะ คำนวนให้เราอัตโนมัติ)
โอ้แม่เจ้า....ภาษีสุดยอดมหาโหด   เงินเดือนเราเพิ่มมาแค่นิดหน่อย แต่เรทภาษีต้องเสียเกือบครึ่งจากที่คุณสามีจ่ายปกติ

ขอขอบคุณพี่สปาร์อย่างสูงเลยค่ะ ที่เข้ามาให้ข้อคิดสะกิดใจเรื่องภาษี เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เลยจริง ๆ มัวแต่ไปคิดถึงค่าแรงคูณกลับมาเป็นเงินบาทแล้วมันตาโต    เจอค่าภาษีทีเจ็บปวดเลยค่ะ ไหนจะโดนหัก AHVต่าง ๆ อีก...555

แต่ยังไงก็ยังยืนกระต่ายขาเดียวว่า โจ้ขอทำงานค่ะ  ทำงานแค่ 30 เปอร์เซ็นต์อย่างนี้พอแล้วค่ะ คงไม่งกไปกว่านี้แล้ว เอาแค่นี้พอแล้วค่ะมักน้อย..555 ส่วนต่างภาษีที่รับปากคุณสามีว่าจะเป็นคนรับผิดชอบเอง บวกลบคูณหารแล้ว รายได้ตัวเองก็พอเหลืออยู่ที่จะช่วยเหลือเรื่องส่วนตัวของตัวเองโดยไม่ต้องไปรบกวนคุณสามี มีเวลากับครอบครัว มีเวลาสำหรับเรียนภาษา และได้ประสบการณ์จากการทำงาน สรุปว่าลงตัวจริง ๆ ค่ะ

อยากให้คนอื่น ๆ ที่กำลังจะวางแผนหางานทำ ลองเข้าไปอ่านลิงค์แล้วคำนวณเล่น ๆ ดูนะคะ แต่อย่าลืมว่า กรณีของโจ้นั้น โจ้รับผิดชอบเฉพาะภาษีส่วนต่างจากที่คุณสามีจ่ายเพิ่มจากเดิม กับAHV ของตัวเองเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ คุณสามียังรับผิดชอบเหมือนเดิม ค่าประกันสุขภาพ ค่าเช่าห้อง ค่ากับข้าว ฯลฯ ถึงบอกได้ว่ามันก็คุ้มพอที่จะทำงาน แต่สำหรับคนอื่น ๆ ต้องตกลงกะสามีคุณให้เรียบร้อยก่อนนะ เกิดเค้าเห็นว่าคุณทำงานได้แล้วเค้าให้คุณรับผิดชอบหลาย ๆ เรื่องร่วมกับเค้าด้วย โจ้ว่ามันก็ไม่ค่อยจะคุ้มสักเท่าไหร่ เหนื่อยป่าว สู้อยู่บ้านเฉย ๆ ดีกว่า ยังไงก็ลองคิดและตัดสินใจกันเองนะคะ   

**โทษทีค่ะ เมื่อกี้เข้าไปตอบผิดกระทู้ ** ;D
อย่าหยุดที่จะเดินหาโอกาส

Spa

สวัสดีค่ะน้องโจ้และทุกๆท่าน
พี่เข้าใจและขอให้คุณโจ้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆได้ลุล่วงด้วยดีนะคะสู้ๆๆๆๆๆๆและขอให้กำลังใจ
สปาร์

Jojo

ขอบคุณอีกครั้งค่ะพี่สปาร์สำหรับข้อคิด และกำลังใจ :-* :-*
ใครว่าอยู่เมืองนอกสบาย :'( ฉะนั้นชีวิตไม่สิ้นมันก็ต้องดิ้นกันไป ขอดิ้นขอเหนื่อยที่สวิส แล้วจะกลับไปสิ้นที่เมืองไทย ;D
นี่ก็ซื้อล็อตโตอยู่เกือบทุกอาทิตย์ เผื่อฟลุ๊กได้แจ๊กพ๊อต+พลัส..555 ทุกวันนี้ถูกทีละ 2 ฟรังเองอ่ะ ;D
อย่าหยุดที่จะเดินหาโอกาส

Spa

สวัสดีค่ะน้องโจ้
น้องยังจะต้องพบเจอประสบการณ์อีกมากมายในต่างแดนทั้งที่ทำให้เรามีความประทับใจในน้ำใจของคนไทยรวมทั้งที่ไม่น่าประทับใจทั้งนี้ทั้งนั้นมันขึ้นอยู่ที่ตัวเราด้วย
อยู่ที่นี่หรือที่ไหนๆในโลกเบี้ยวๆใบนี้ถ้าจิตใจของเรามีความสุขอยู่ที่ไหนก็ดีนะคะ

ขอให้คุณโจ้ถูกรางวัลที่หนื่งนะคะ

สปาร์