ใครที่มีแฟนทำงานด้านวิศวะ

Previous topic - Next topic

pinky

สวัสดีทุกๆ คนค่ะ ชื่อ pinky ค่ะ พอดีเข้ามาเว็บนี้เป็นครั้งแรก
ก็เลยอยากจะฝากคำถาม ใครที่มีแฟนทำงานด้านวิศวะบ้างค่ะ
คืออยากทราบเกี่ยวกับ Software Engineer ในประเทศสวิส
อยากรู้ค่ะว่า งานทางด้านนี้ทำเกี่ยวกับอะไร งานมั่นคงไหม
คืออยากทราบว่าฐานเงินเดือน ถ้าเปรียบเทียบกับบ้านเราวิศวกรถือว่าดีมาก
และถ้าในประเทศสวิส งานวิศวะ ถือว่าดีไหม ;D
ใครรู้ช่วยตอบด้วยนะคะ อยากรู้จริง

pinky

Giadanan

สวัสดีค่ะ

ตอนนี้คุณอยู่ที่สวิตรึยังหรือว่าคบกับแฟนที่เป็น Sofware Engineer  ตอนนี้ดิฉันอาศํยอยู่กับสามีที่สวิตสามีเป็นวิศวกร ก็ ทำงาน software Engineer ให้กับบริษัท ถามว่าเป็นงานที่ดีไหม ก็ดีเงินเดือนก็ใช้ได้ แต่ไม่ถึงกับร่ำรวยมาก  ขอแนะนำว่าถ้าคุณรักแฟนคุณ คุณไม่ต้องสนใจเรื่องเงินเดือนเขามากหรอก เพราะคุณจะอยูกับคนไม่ได้อยู่กับเงินเดือน  ที่สำคัญถ้าคุณไม่มีความรักเป็นพื้นฐานชีวิตที่นี่จะน่าเบื่อ  เพราะชีวตที่นี่เหงา  ญาติไม่มี ไม่สนุกสนานเหมือนเมืองไทย  ส่วนที่ว่าดีกว่าเงินเดือนวิศวกรที่เมืองไทยไหม ตอบได้เลยว่า ดีกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ค่าครองชีพที่นี่สูงมาก

หวังว่าข้อมูลนี้คงช่วยคุณได้บ้างนะคะ

NA-SP

เห็นด้วยกับคุณ Giadanan มากๆ ค่ะ
เพราะเราก็มีแฟนเป็นเด็กวิศวะ (แต่คนละด้านสายงาน เท่านั้นเอง)
เงินเดือนก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากๆ เลย
แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น ต้องรักกัน เข้าใจกันให้มากๆ
และอยู่กันแบบเพื่อน แบบแฟน แบบลูก  :-*  ปะปนกันไป มีฟามสุขค่ะ
ยังงัย ถ้าเขายอมรับเราแล้ว ยอมแต่งงานกับเรา
เขาก็คงไม่ปล่อยให้เราอดอยากในเมืองสวิสฯหรอกค่ะ
การมาอยู่ที่สวิสฯ ต้องอยู่อย่างสบายๆ ไม่คิดมากมาย ก่ายกอง เป็นดีที่สุดค่ะ
อยากไปเที่ยวใหน ก็ได้ไป วันหยุดก็ไปช๊อป มีฟามสุขมากๆ ค่ะ
โชคดีนะคะ

pinky

สวัสดีค่ะ พี่  Giadanan  และ พี่  Na ต้องขอขอบคุณมาก ๆ นะคะ สำหรับคำแนะนำดีๆ ค่ะ และทำให้เรามีความรู้เพิ่มมากขึ้น แต่ก่อนอื่น ต้องให้เกียรติเรียกว่าพี่แล้วนะคะ เพราะรู้ตัวว่าเราคงอายุน้อยกว่า ตอนนี้เรียนอยู่ค่ะ แล้วก็ใกล้จะจบแล้วในปีหน้าและ ยังไม่มีโครงการไปสวิสค่ะ เพียงแต่คบกับหนุ่มสวิสอยู่ค่ะ แฟนกลับไปได้ 2 เดือนแล้วค่ะ เหมือน 2 ปีเลย อิอิ คิดถึงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของแฟนนะคะ

จริงๆ ค่ะ ที่พี่ๆ บอกคนเราต้องมีความรักให้กัน ถ้าเรามีความรักให้กันทุกสิ่ง ก็ ถือว่าโอเคแล้ว แฟนพูดเสมอ บ้านเค้ากับบ้านเราแตกต่างกันมาก ๆ เพราะการใช้ชีวิตที่นั่นมันเหงามาก และถ้าเราไม่รู้ภาษา และไม่รู้จักใคร  แล้วไม่ปรับตัวเข้าหา เราก็คงเหมือนอยู่ตัวคนเดียว เพราะฉะนั้นสิ่งเดียวที่เราจะอยู่ได้ ก็ แฟนเรานี่แหล่ะ ต้องเข้าใจเราที่สุด  แฟนเป็นคนดีมาก ๆ ค่ะ ไม่ดื่มเหล้า  ไม่สูบบุหรี่ แล้วก็ไม่เที่ยวด้วย แค่นี้เค้าก็ชนะใจเราแล้ว 

ช่วงเวลาที่อยู่ กับแฟนยอมรับค่ะว่ามีความสุข หัวเราะทั้งวัน แฟนให้เกียรติเรามาก  เค้าเป็นผู้ชายเฉย  ๆ พูดน้อยค่ะ แต่การกระทำเค้าเยอะมากกว่าคำพูดซะอีก  เค้าดูเป็นผู้ชายที่เรียบร้อยมาก ค่ะ และเป็นคนมีมารยาท เวลาเราดูแลเค้า เค้าจะพูดคำว่า "ขอบคุณเราทุกครั้ง" จนบางครั้งเราอยากบอกเค้านะ ไม่ต้องพูดคำว่าขอบคุณหรอก เพราะบางสิ่งที่ทำให้นะ ฉันเต็มใจนะ แต่บางเวลาเราก็สงสัยเค้านะ เป็นเกย์อ่ะ เปล่า เนี่ย แต่ดูภาพรวมแล้วก็ ไม่มีอาการแต๋วออกนะ ก็ยอมเราว่าเราเป็นคนช่างสังเกตแล้วก็ลองใจเค้ามาก แฟนชอบเข้า  supermarket มากๆ ค่ะ เราแทบจะไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนกันเลย นอกจากจะไปหาของกินใน ห้างเอ็มโพเรียม แล้วตัวเราเองก็ชอบด้วย ชอบกินเหมือนกันอิอิ  มีบางครั้งเราก็สงสัยแล้วก็อยากรู้เค้าไม่ดื่มเหล้าเลยเหรอ เป็นไป ได้เหรอ

เราก็เริ่มปฎิบัติการ ลองใจซะเลย "ดื่ม Hineken สักขวดไหม " เค้าทำส่ายหน้า แล้วก็ไม่สนใจ แล้วก็ ไปหยิบ ขวดนมดัชมิลค์แทน เค้าดื่มนมทุกวันเลยอ่ะ  เราก็ เอ้า ยังไม่อดนมนี่หว่า ขำ มาก แต่ก็อมยิ้มอยู่ในใจนะ แล้วคิดว่า เราชอบผู้ชายแบบนี้ ที่เค้าไม่ดื่มเหล้าแล้วก็ไม่สูบบุหรี่ บางสิ่ง บางอย่างเค้า เหมือนเรา แต่บางอย่างเค้าก็ ไม่เหมือน เราก็ต้องมีเรียนรู้กันไป แฟนพูดกับเราเสมอว่า กรุณาอย่าเปลี่ยนตัวเราเองเพื่อเค้า ตอนแรกเราฟังก็นึกว่า แหม๋ขี้คุย ทำ มาเป็นพูดจาดี แต่พอได้พูดคุยกับเค้าแล้ว รู้สึกว่าเค้าคือใช่ แล้วโดนใจเรา อย่างแรง  ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน เราเป็นตัวของตัวเองมาก ๆ  เราอยู่กับเค้ารู้สึกอบอุ่นมาก ๆ เค้าเอาใจใส่เราและก็แคร์เราเป็นอย่าง มาก ได้เรียนรู้เค้าแล้วรู้สึกว่าเราเหมือนอยู่กับแม่ ถึงแม้เค้าจะไม่เหมือน ทั้งหมด แต่ในบางมุมเค้าเหมือนแม่ของเรามาก ๆ

เค้าจะชอบให้เราออกความคิดเห็น แล้วเค้าก็ไม่เคยเอาความคิดเห็นของเค้าเป็นหลัก  หรือเป็นตัวกำหนดว่า เธอต้องเป็นแบบนี้ แบบนั้นนะ หรือแม้กระทั่งเวลากินก็ถามเราทุกครั้งจะกินอะไร แล้วฝรั่งเนี่ยส่วนใหญ่จะชอบกิน พิซซ่ามาก   แต่เราไม่ชอบกินอ่ะ แล้วมีอยู่วันหนึ่งเค้าก็ถามเราว่า  "กินพิซซ่าไหม" เราก็อ้ำอึ้ง ก็เราไม่ชอบนี่หน่า แต่เค้าคงมองจากสีหน้า เรา แล้ว เค้า ก็ ถามอีกว่า
"ที่รักคุณชอบกินพิซซ่าไหม" แล้วเราก็บอกเค้า ว่า คุณไปกินนะ ฉันจะนั่งมองคุณกินเอง มันโอเคนะ แล้วเค้าก็หัวเราะ แล้วก็พูดว่า อะไรที่คุณชอบกิน เราก็ตอบเค้าไปว่า อาหารไทย เค้าก็โอเค ไปกินกัน พูดง่าย ก็คือ อยู่กับเรากินแต่อาหารไทยนะ เค้าก็ตามใจเราดีจัง มีวันสุดท้ายนะที่ได้กินอาหาร Mexican เพราะนั่นเป็นวันสุดท้ายที่เราต้องจากกัน ก็ต้องจำใจไป

เค้าเป็นฝรั่ง แล้วกินอาหารไทย กินข้าวไทย แล้วเค้ากินอย่างอร่อยมาก ๆ กินข้าวไม่เหลือสักเม็ด แต่เรานี่สิ เหลือข้าวเต็มจาน ขนาดเราเป็นคนไทยแท้ ๆ บางครั้งก็รู้สึกอายเค้านะ มันไม่อร่อยเลย กินแล้วผะอืดผะอม แต่พอเราเห็นเค้ากิน อะไรหลาย ๆ อย่าง ความคิดเราก็เปลี่ยน จากที่กินข้าวไม่หมดก็ต้องหมดนะ อายเค้านะ เรากินข้าวเหลือ อิอิ แล้วแฟนเป็นคนรักสุขภาพมากเลยค่ะ เค้าจะสอนเราทุกครั้งว่า ควรจะเลือกกินอาหารให้ดี ๆ ผักผ่อนให้เพียงพอ ที่สำคัญต้องดื่มน้ำเยอะๆ ด้วย  จากที่เราดื่มน้ำน้อย ตอนนี้ ดื่มน้ำเป็นลิตรเลย  แล้วเค้าก็ไม่ชอบให้เราไปซื้อของที่แช่แข็ง แล้วอุ่นด้วยไมโครเวฟ เค้าจะบอกว่ามันไม่ดีกับสุขภาพนะ แต่เค้าก็ไม่ได้บังคับเรา แต่เค้าก็จะคอย บอกคอยสอนเรา อะไรดีไม่ดี แล้วให้เราได้ออกความคิดเห็นทุกครั้ง

เวลาที่ไปไหนเค้าจะจับมือเราทุกครั้ง เลยอ่ะ จับแบบไม่ปล่อย เลย แต่บางครั้งเราเองก็แอบ ปล่อย เพราะมือ เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ อิอิ แล้วเวลาเดินเค้าก็กลัวเราจะโดนรถชนแล้วผลักให้เราเดินข้างใน ส่วนตัวเค้าเองเดินออกข้างนอก ตัวเราเองจะบี้ติดกับฝาผนังอยู่แล้ว ไอ้เราก็อยากจะบอกว่า จะบ้าเหรอเราไม่ใช่เด็กแล้ว ใครจะเดินให้รถวิ่งมาชน แต่ก็ไม่อยากพูด เพราต้องการรักษาน้ำใจเค้า เวลาที่เค้าถือของเยอะ ก็เหมือนกัน เราก็จะช่วยถือให้ เพราะเราอยากช่วย เค้าก็ไม่ให้เราถือ แล้วก็บอกเราว่า มันโอเคนะ

มีอยู่ครั้งหนึ่ง จำไม่ได้แล้ว ว่าแฟนพูดอะไร เพราะว่าเราไม่รู้ศัพท์ภาษาอังกฤษคำนั้นเลย แต่เราตอบเค้าไป ก่อน ว่า yes no ok   แล้วเค้าก็ย้อนถามเราอีกนะ ถามจริงเข้าใจไหมที่พูดนะ เราก็ตอบไปว่า ไม่เข้าใจ แล้ว เค้าก็ถามว่า ไม่เข้าใจแล้วทำไมถึงได้ตอบ  เค้า อมยิ้ม ด้วย เราก็ตอบเค้าไปว่าก็กลัวคุณจะรำคาญ อะไร ยัยนี่พูดหลายรอบแล้วไม่เข้า เราก็กลัวเค้าเกลียดแล้วก็เบื่อเรา  แล้วเค้าก็พูดมาคำเดียว ซึ้งใจสุด ๆ ว่า เค้าไม่ชอบนะถ้าใครพูดคุยกับเค้าแล้วไม่เข้าใจเค้า แต่ทำเหมือนเข้าใจ การที่เราไม่รู้ว่าคนนั้นพูดอะไร แล้วเราตอบเค้าไปนะ มันจะทำให้เรามีปัญหาและไม่เข้าใจกันได้ ถ้าบางสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ กรุณาถามผมนะ ถามมากถามน้อยก็ถามนะ ผมไม่รำคาญหรอก และผมมีวิธีสามารถ อธิบายให้คุณเข้าใจได้ โอ้ยยยย ฟังเค้าพูดแล้ว กระโดดขี่คอเค้าเลยนะ แล้วเค้าก็หัวเราะเรา ไม่ว่า เราจะทำอะไร เค้าก็จะ ขำ ๆ แล้วหัวเราะเราตลอด แล้วเค้าก็จะชอบฟังเราพูด ฟังเข้าใจไม่เข้าใจเค้าก็ชอบฟังเรา ความคิดเข้าดีมาก  เข้าแฟร์ กับเราดีจัง

แฟนเป็นคนไม่หวานเลยค่ะ ส่งคำหวาน ไม่มี มีแต่มุขฝืด ๆแปลกๆ ฟังแล้วไม่รู้จะขำดีไหม แต่ ก็ขำทั้งวันแหล่ะ เราถามเค้าว่า เราสวยน่ารักไหม เค้าไม่ตอบ แต่ พูดว่า look nice   อ้าว!ไอ้นี่ แต่เราก็ดีใจที่เค้าตอบแบบนี้ เพราะเค้าไม่เสเสร้ง แกล้งชมเรา เค้าเป็นคนพูดจา ตรงๆ  แล้วเราก็แกล้งถามเค้าอีก ชอบไหมถ้าฉันแต่งตัว  sexy  เค้าก็บอกว่า ผมไม่อยากให้คุณแต่งตัวแบบนั้น มันมองดูไม่ดีหรอก  เราดีใจนะที่เค้าตอบเราแบบนี้มันทำให้เรารู้สึกว่า ฝรั่งไม่ได้เป็นคนแบบนั้นทั้งหมด แล้วเราก็ได้เรียนรู้สิ่งที่ดี ๆจากเค้าทั้งหมด

บางครั้งเราก็สงสัยนะคนสวิส และคนไทยการเลี้ยงดูเหมือนกันเหรอ ค่ะ ทำไมแฟน ถึงได้เป็นคนมีมารยาทดีจัง คำพูด และความคิดเค้า คล้ายกับคนไทยเลย อยากรู้จังเลยค่ะ ว่าที่พี่ๆตัดสินใจแต่งงาน แล้วมีแฟนเป็นคนสวิสนะ พี่ ๆ ตัดสินใจแล้วมองจากอะไรค่ะ ยอมรับค่ะว่า บางครั้ง เค้าเป็นเหมือนแม่เรา เป็นเหมือนเพื่อน และพี่ชายเราคนหนึ่ง อยู่ด้วยแล้วมีความสุขมาก ๆ อนาคตจะเป็นไงไม่รู้ แต่เราเรียนรู้แล้วเข้าใจกันและกันมาก เพราะแฟนเป็นคนใจเย็นมาก ๆ ค่ะ

นี่แหละค่ะคือ เรื่องราวความรักของหนูละ พอใช้ได้ไหมค่ะ ผู้ชายสวิสคนนี้ แสดงความคิดเห็นกันหน่อยนะคะ แฟนพี่ ๆและทุก ๆคน มีนิสัยหมือนกันรึเปล่าค่ะ

ต้องขอขอบคุณ เว็บ ของป้าพอลด้วยนะคะในบางกระทู้ที่ป้าได้เขียนไว้เกี่ยวกับผู้ชายสวิส ทำให้เรามีข้อมูลมากขึ้นแล้วรู้สึกว่า ใช่เลย ผู้ชายสวิสที่ป้าได้ให้ข้อมูลไว้

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะ
จุ้ฟฟ จุ้ฟฟ :D


NA-SP

รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมชาติเดียวกัน จะต่างกันที่ใหนๆ ก็คนด้วยกัน!!!
เชื้อสายประเพณี ไม่มีกีดกัน จะต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม เราก็ต่างปรับตัว เข้าหากัน
การเรียนรู้  คิดแล้วคุยกัน ผิดถูกช่วยกันสอน ทะเลาะกันบ้างไม่เป็นไร (พี่ทะเลาะกันบ่อยๆ)ฮ่าๆๆๆ หนุกดีจ้า
แลกเปลี่ยนความคิดกัน คือการเริ่มต้น แล้วสักวันนึง จะซึ้งใจ และประทับใจ กับหนุ่มสวิสฯ (เฮะ!เหมือนกันทุกคนป่าวเนี่ย)

ก็โอเคนะจ้ะ ทุกๆอย่างก็ของให้สมหวังดังที่คิด และวางแผนไว้เน๊อะ
บายจ้า
พี่นา















Quote from: pinky on June 23, 2009, 08:26:13 PM
สวัสดีค่ะ พี่  Giadanan  และ พี่  Na ต้องขอขอบคุณมาก ๆ นะคะ สำหรับคำแนะนำดีๆ ค่ะ และทำให้เรามีความรู้เพิ่มมากขึ้น แต่ก่อนอื่น ต้องให้เกียรติเรียกว่าพี่แล้วนะคะ เพราะรู้ตัวว่าเราคงอายุน้อยกว่า ตอนนี้เรียนอยู่ค่ะ แล้วก็ใกล้จะจบแล้วในปีหน้าและ ยังไม่มีโครงการไปสวิสค่ะ เพียงแต่คบกับหนุ่มสวิสอยู่ค่ะ แฟนกลับไปได้ 2 เดือนแล้วค่ะ เหมือน 2 ปีเลย อิอิ คิดถึงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของแฟนนะคะ

จริงๆ ค่ะ ที่พี่ๆ บอกคนเราต้องมีความรักให้กัน ถ้าเรามีความรักให้กันทุกสิ่ง ก็ ถือว่าโอเคแล้ว แฟนพูดเสมอ บ้านเค้ากับบ้านเราแตกต่างกันมาก ๆ เพราะการใช้ชีวิตที่นั่นมันเหงามาก และถ้าเราไม่รู้ภาษา และไม่รู้จักใคร  แล้วไม่ปรับตัวเข้าหา เราก็คงเหมือนอยู่ตัวคนเดียว เพราะฉะนั้นสิ่งเดียวที่เราจะอยู่ได้ ก็ แฟนเรานี่แหล่ะ ต้องเข้าใจเราที่สุด  แฟนเป็นคนดีมาก ๆ ค่ะ ไม่ดื่มเหล้า  ไม่สูบบุหรี่ แล้วก็ไม่เที่ยวด้วย แค่นี้เค้าก็ชนะใจเราแล้ว 

ช่วงเวลาที่อยู่ กับแฟนยอมรับค่ะว่ามีความสุข หัวเราะทั้งวัน แฟนให้เกียรติเรามาก  เค้าเป็นผู้ชายเฉย  ๆ พูดน้อยค่ะ แต่การกระทำเค้าเยอะมากกว่าคำพูดซะอีก  เค้าดูเป็นผู้ชายที่เรียบร้อยมาก ค่ะ และเป็นคนมีมารยาท เวลาเราดูแลเค้า เค้าจะพูดคำว่า "ขอบคุณเราทุกครั้ง" จนบางครั้งเราอยากบอกเค้านะ ไม่ต้องพูดคำว่าขอบคุณหรอก เพราะบางสิ่งที่ทำให้นะ ฉันเต็มใจนะ แต่บางเวลาเราก็สงสัยเค้านะ เป็นเกย์อ่ะ เปล่า เนี่ย แต่ดูภาพรวมแล้วก็ ไม่มีอาการแต๋วออกนะ ก็ยอมเราว่าเราเป็นคนช่างสังเกตแล้วก็ลองใจเค้ามาก แฟนชอบเข้า  supermarket มากๆ ค่ะ เราแทบจะไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนกันเลย นอกจากจะไปหาของกินใน ห้างเอ็มโพเรียม แล้วตัวเราเองก็ชอบด้วย ชอบกินเหมือนกันอิอิ  มีบางครั้งเราก็สงสัยแล้วก็อยากรู้เค้าไม่ดื่มเหล้าเลยเหรอ เป็นไป ได้เหรอ

เราก็เริ่มปฎิบัติการ ลองใจซะเลย "ดื่ม Hineken สักขวดไหม " เค้าทำส่ายหน้า แล้วก็ไม่สนใจ แล้วก็ ไปหยิบ ขวดนมดัชมิลค์แทน เค้าดื่มนมทุกวันเลยอ่ะ  เราก็ เอ้า ยังไม่อดนมนี่หว่า ขำ มาก แต่ก็อมยิ้มอยู่ในใจนะ แล้วคิดว่า เราชอบผู้ชายแบบนี้ ที่เค้าไม่ดื่มเหล้าแล้วก็ไม่สูบบุหรี่ บางสิ่ง บางอย่างเค้า เหมือนเรา แต่บางอย่างเค้าก็ ไม่เหมือน เราก็ต้องมีเรียนรู้กันไป แฟนพูดกับเราเสมอว่า กรุณาอย่าเปลี่ยนตัวเราเองเพื่อเค้า ตอนแรกเราฟังก็นึกว่า แหม๋ขี้คุย ทำ มาเป็นพูดจาดี แต่พอได้พูดคุยกับเค้าแล้ว รู้สึกว่าเค้าคือใช่ แล้วโดนใจเรา อย่างแรง  ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน เราเป็นตัวของตัวเองมาก ๆ  เราอยู่กับเค้ารู้สึกอบอุ่นมาก ๆ เค้าเอาใจใส่เราและก็แคร์เราเป็นอย่าง มาก ได้เรียนรู้เค้าแล้วรู้สึกว่าเราเหมือนอยู่กับแม่ ถึงแม้เค้าจะไม่เหมือน ทั้งหมด แต่ในบางมุมเค้าเหมือนแม่ของเรามาก ๆ

เค้าจะชอบให้เราออกความคิดเห็น แล้วเค้าก็ไม่เคยเอาความคิดเห็นของเค้าเป็นหลัก  หรือเป็นตัวกำหนดว่า เธอต้องเป็นแบบนี้ แบบนั้นนะ หรือแม้กระทั่งเวลากินก็ถามเราทุกครั้งจะกินอะไร แล้วฝรั่งเนี่ยส่วนใหญ่จะชอบกิน พิซซ่ามาก   แต่เราไม่ชอบกินอ่ะ แล้วมีอยู่วันหนึ่งเค้าก็ถามเราว่า  "กินพิซซ่าไหม" เราก็อ้ำอึ้ง ก็เราไม่ชอบนี่หน่า แต่เค้าคงมองจากสีหน้า เรา แล้ว เค้า ก็ ถามอีกว่า
"ที่รักคุณชอบกินพิซซ่าไหม" แล้วเราก็บอกเค้า ว่า คุณไปกินนะ ฉันจะนั่งมองคุณกินเอง มันโอเคนะ แล้วเค้าก็หัวเราะ แล้วก็พูดว่า อะไรที่คุณชอบกิน เราก็ตอบเค้าไปว่า อาหารไทย เค้าก็โอเค ไปกินกัน พูดง่าย ก็คือ อยู่กับเรากินแต่อาหารไทยนะ เค้าก็ตามใจเราดีจัง มีวันสุดท้ายนะที่ได้กินอาหาร Mexican เพราะนั่นเป็นวันสุดท้ายที่เราต้องจากกัน ก็ต้องจำใจไป

เค้าเป็นฝรั่ง แล้วกินอาหารไทย กินข้าวไทย แล้วเค้ากินอย่างอร่อยมาก ๆ กินข้าวไม่เหลือสักเม็ด แต่เรานี่สิ เหลือข้าวเต็มจาน ขนาดเราเป็นคนไทยแท้ ๆ บางครั้งก็รู้สึกอายเค้านะ มันไม่อร่อยเลย กินแล้วผะอืดผะอม แต่พอเราเห็นเค้ากิน อะไรหลาย ๆ อย่าง ความคิดเราก็เปลี่ยน จากที่กินข้าวไม่หมดก็ต้องหมดนะ อายเค้านะ เรากินข้าวเหลือ อิอิ แล้วแฟนเป็นคนรักสุขภาพมากเลยค่ะ เค้าจะสอนเราทุกครั้งว่า ควรจะเลือกกินอาหารให้ดี ๆ ผักผ่อนให้เพียงพอ ที่สำคัญต้องดื่มน้ำเยอะๆ ด้วย  จากที่เราดื่มน้ำน้อย ตอนนี้ ดื่มน้ำเป็นลิตรเลย  แล้วเค้าก็ไม่ชอบให้เราไปซื้อของที่แช่แข็ง แล้วอุ่นด้วยไมโครเวฟ เค้าจะบอกว่ามันไม่ดีกับสุขภาพนะ แต่เค้าก็ไม่ได้บังคับเรา แต่เค้าก็จะคอย บอกคอยสอนเรา อะไรดีไม่ดี แล้วให้เราได้ออกความคิดเห็นทุกครั้ง

เวลาที่ไปไหนเค้าจะจับมือเราทุกครั้ง เลยอ่ะ จับแบบไม่ปล่อย เลย แต่บางครั้งเราเองก็แอบ ปล่อย เพราะมือ เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ อิอิ แล้วเวลาเดินเค้าก็กลัวเราจะโดนรถชนแล้วผลักให้เราเดินข้างใน ส่วนตัวเค้าเองเดินออกข้างนอก ตัวเราเองจะบี้ติดกับฝาผนังอยู่แล้ว ไอ้เราก็อยากจะบอกว่า จะบ้าเหรอเราไม่ใช่เด็กแล้ว ใครจะเดินให้รถวิ่งมาชน แต่ก็ไม่อยากพูด เพราต้องการรักษาน้ำใจเค้า เวลาที่เค้าถือของเยอะ ก็เหมือนกัน เราก็จะช่วยถือให้ เพราะเราอยากช่วย เค้าก็ไม่ให้เราถือ แล้วก็บอกเราว่า มันโอเคนะ

มีอยู่ครั้งหนึ่ง จำไม่ได้แล้ว ว่าแฟนพูดอะไร เพราะว่าเราไม่รู้ศัพท์ภาษาอังกฤษคำนั้นเลย แต่เราตอบเค้าไป ก่อน ว่า yes no ok   แล้วเค้าก็ย้อนถามเราอีกนะ ถามจริงเข้าใจไหมที่พูดนะ เราก็ตอบไปว่า ไม่เข้าใจ แล้ว เค้าก็ถามว่า ไม่เข้าใจแล้วทำไมถึงได้ตอบ  เค้า อมยิ้ม ด้วย เราก็ตอบเค้าไปว่าก็กลัวคุณจะรำคาญ อะไร ยัยนี่พูดหลายรอบแล้วไม่เข้า เราก็กลัวเค้าเกลียดแล้วก็เบื่อเรา  แล้วเค้าก็พูดมาคำเดียว ซึ้งใจสุด ๆ ว่า เค้าไม่ชอบนะถ้าใครพูดคุยกับเค้าแล้วไม่เข้าใจเค้า แต่ทำเหมือนเข้าใจ การที่เราไม่รู้ว่าคนนั้นพูดอะไร แล้วเราตอบเค้าไปนะ มันจะทำให้เรามีปัญหาและไม่เข้าใจกันได้ ถ้าบางสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ กรุณาถามผมนะ ถามมากถามน้อยก็ถามนะ ผมไม่รำคาญหรอก และผมมีวิธีสามารถ อธิบายให้คุณเข้าใจได้ โอ้ยยยย ฟังเค้าพูดแล้ว กระโดดขี่คอเค้าเลยนะ แล้วเค้าก็หัวเราะเรา ไม่ว่า เราจะทำอะไร เค้าก็จะ ขำ ๆ แล้วหัวเราะเราตลอด แล้วเค้าก็จะชอบฟังเราพูด ฟังเข้าใจไม่เข้าใจเค้าก็ชอบฟังเรา ความคิดเข้าดีมาก  เข้าแฟร์ กับเราดีจัง

แฟนเป็นคนไม่หวานเลยค่ะ ส่งคำหวาน ไม่มี มีแต่มุขฝืด ๆแปลกๆ ฟังแล้วไม่รู้จะขำดีไหม แต่ ก็ขำทั้งวันแหล่ะ เราถามเค้าว่า เราสวยน่ารักไหม เค้าไม่ตอบ แต่ พูดว่า look nice   อ้าว!ไอ้นี่ แต่เราก็ดีใจที่เค้าตอบแบบนี้ เพราะเค้าไม่เสเสร้ง แกล้งชมเรา เค้าเป็นคนพูดจา ตรงๆ  แล้วเราก็แกล้งถามเค้าอีก ชอบไหมถ้าฉันแต่งตัว  sexy  เค้าก็บอกว่า ผมไม่อยากให้คุณแต่งตัวแบบนั้น มันมองดูไม่ดีหรอก  เราดีใจนะที่เค้าตอบเราแบบนี้มันทำให้เรารู้สึกว่า ฝรั่งไม่ได้เป็นคนแบบนั้นทั้งหมด แล้วเราก็ได้เรียนรู้สิ่งที่ดี ๆจากเค้าทั้งหมด

บางครั้งเราก็สงสัยนะคนสวิส และคนไทยการเลี้ยงดูเหมือนกันเหรอ ค่ะ ทำไมแฟน ถึงได้เป็นคนมีมารยาทดีจัง คำพูด และความคิดเค้า คล้ายกับคนไทยเลย อยากรู้จังเลยค่ะ ว่าที่พี่ๆตัดสินใจแต่งงาน แล้วมีแฟนเป็นคนสวิสนะ พี่ ๆ ตัดสินใจแล้วมองจากอะไรค่ะ ยอมรับค่ะว่า บางครั้ง เค้าเป็นเหมือนแม่เรา เป็นเหมือนเพื่อน และพี่ชายเราคนหนึ่ง อยู่ด้วยแล้วมีความสุขมาก ๆ อนาคตจะเป็นไงไม่รู้ แต่เราเรียนรู้แล้วเข้าใจกันและกันมาก เพราะแฟนเป็นคนใจเย็นมาก ๆ ค่ะ

นี่แหละค่ะคือ เรื่องราวความรักของหนูละ พอใช้ได้ไหมค่ะ ผู้ชายสวิสคนนี้ แสดงความคิดเห็นกันหน่อยนะคะ แฟนพี่ ๆและทุก ๆคน มีนิสัยหมือนกันรึเปล่าค่ะ

ต้องขอขอบคุณ เว็บ ของป้าพอลด้วยนะคะในบางกระทู้ที่ป้าได้เขียนไว้เกี่ยวกับผู้ชายสวิส ทำให้เรามีข้อมูลมากขึ้นแล้วรู้สึกว่า ใช่เลย ผู้ชายสวิสที่ป้าได้ให้ข้อมูลไว้

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะ
จุ้ฟฟ จุ้ฟฟ :D



Giadanan

หวัดดีจ๊ะหนูพิ้งกี้ 

ถูกต้องแล้วที่เรียกว่าพี่ถ้ายังเรียนอยู่  เพราะว่าพี่จบมาสิบปีแล้ว  แต่ห้าเรียกป้าเด็ดขาด   สามีพี่ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่  ดื่มเบียร์บางครั้งเวลาที่อยู่กับเรานะ  นิสัยก็คล้ายกับแฟนหนูนั่นแหละ  ค่อนข้างเรียบร้อย  พูดน้อย เรื่องนิสัยนี่ก็เหมือนกับคนไทยนั่นแหละ  ถ้าครอบครัวเขาอบรมมาดี เขาก็นิสัยดี  ถ้าพ่อแม่ไม่สั่งสอนก็เหมือนคนไทย  นั่นแหละ  อย่าลืมว่าทุกคนมีข้อดีและข้อเสียทั้งนั้น No one Perfect in the world พี่ยึดหลักข้อนี้เวลาที่เจอข้อเสียของสามี   ของพี่ข้อเสียก้มีเหมือนกัน  เอาเป้นว่าหนูเพิ่งเริ่มต้น  ก็ขอให้ศึกษากันดีๆ เข้าใจกันมากๆ  ไม่ต้องเสแสร้ง  พี่คบกับสามี  ๔ ปีถึงตัดสินใจแต่งงาน  ตอนนี้หนุอาจยังไม่คิดเรื่องแต่งงานแต่ก็คบหาดูใจกันก่อนแล้วกันนะ  พี่เป็นกำลังใจให้นะ  ว่าแต่ตอนนี้เรียนอะไรอยู่จ๊ะ