News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่



<<<.SWITZERLAND .and..BETTLER...:>>>

Previous topic - Next topic

pall



**ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และขอทาน**
เคยเจอกันบ้างไหมขณะที่เราเดินในตัวเมือง  หรือหยุดดูของที่วางแสดงตามตู้กระจก  
ขณะที่ดูของที่จัดเพลินๆจะมีคนเข้ามาพูดพร้อมทั้งแบมือขอเงินเราด้วยภาษาที่เราเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง
ประโยคที่พูดจะคล้ายๆกันคือ
**I  ha ke Gaeld..!!..I ha aber no nuet gaesse**
ภาษาท้องถิ่นเขตBern ซึ่งคนที่มาขอเงินจะพูดว่า ไม่มีเงิน ยังไม่ได้กินอะไรเลย
 
**Entschuldigung,heit Dihr mir e Frankae?**
ขอโทษด้วย  คุณให้เงินผม1  แฟรงก์ได้ไหม
.......และอีกมากมายหลายประโยค...
 
การที่คนเข้ามาแบมือขอเงินเราแบบนี้เราเรียกกันว่าBettlerหรือขอทาน
แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าประเทศสวิตฯ ทีจัดว่าเป็นประเทศที่มีประกันสังคมดีมากประเทศหนึ่งในยุโรป
และเป็นประเทศที่ได้รับการยกย่องเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจดีคนมีรายได้สูงเข้าอยู่ในระดับต้นๆของโลกจะมีขอทานแบบนี้
เมื่อ30ปีที่ผ่านมาตอนที่ป้ามาอยู่ที่Bernครั้งแรกก็มีขอทานแบบนี้เหมือนกันแต่ขอทานที่เห็นน้อยมากแค่ไม่กี่คน


**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0053 ห้อง stories_life (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

pall




ถ้าใครก็ตามที่เข้าไปซื้อของหรือเดินเล่นในตัวเมือง
 จะเห็นคนหนุ่มหลายคนที่นั่งอยู่ข้างทาง
 ขณะที่เราเดินผ่านไปมาจะเห็นคนนั่งมีหมวก...มีภาชนะอยู่ข้างหน้า
 สำหรับให้คนโยนเหรียญใส่ลงไป
 บางคนจะเขียนเป็นตัวหนังสือบอกว่าป่วยติดโรคร้ายแรง
 บางคนจะมีหมาหลายตัวที่เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน
 หมอบนอนอยู่ข้างๆเจ้าของรอดูด้วยสายตาที่บอก
 ถึงความจงรักซื่อสัตย์ภักดีต่อเจ้าของ
 หมาเหล่านี้เป็นตัวช่วยที่ทำให้คนสวิสโยนเงิน
 เพื่อเป็นอาหารเลี้ยงดูหมาเหล่านี้เพราะคนสวิสมีจิตใจ
 อ่อนโยนรักสัตว์นั่นเอง  
 
 ปัจจุบันนี้ในBernถ้าใครมาเที่ยวหรืออยู่อาศัยอยู่ที่นี่
 จะรู้ว่าจำนวนของคนขอทานเพิ่มจำนวนมากมาย
 และจุดที่มีขอทานมากจะเป็นแถบMigros Markgasse
 หรือ Neuengasse
 มีคนสงสัยหรือไม่ว่าคนที่นั่งรอรับเศษเงินที่คนหยิบยื่นให้นี้
 เป็นพวกไร้ที่อยู่อาศัย  ตกงาน  ติดยา หางานทำไม่ได้
 ไม่มีเงิน หรือขี้เกลียดทำงาน...ฯลฯ....
 

pall




**รูปปั้นของAnna-Seiler**
 สนใจประวัติความเป็นมาอ่านได้ที่นี่
 http://www.europcronline.com/fo/centres/bern/
 
 
 เมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมามีขอทานในยุโรปจำนวนมากมาย
 สมัยนั้นยังไม่มีประกันสังคมหรือที่เราเรียกว่าSozialversicherung
 ซึ่งเป็นของBund, Länder, Gemeinden
 สมัยนั้นผู้ที่ยื่นมาเข้ามาให้ความช่วยเหลือคือกลุ่มของKirche
 กลุ่มคริสต์จักรซึ่งได้ช่วยเหลือคนตกทุกข์เดือดร้อน
 มีปัญหาต้องการความช่วยเหลือจนถึงปัจจุบันนี้
 ยอมรับเป็นการส่วนตัวว่ามีความรู้สึกลึกซึ้ง
 เกี่ยวกับการช่วยเหลือแบบนี้มากที่สุดกลุ่มคริสต์จักรเป็นกลุ่มที่
 ช่วยเหลือมนุษย์จริงๆ  
 และนอกจากนี้ยังมีคนร่ำรวยที่มีจิตใจเป็นกุศล
 ที่ให้ความช่วยเหลือจัดตั้งกองทุนด้านเงินทอง
 ซึ่งในประเทศสวิตฯมีจำนวนหลายคนที่เสียสละ
 และบริจาคด้านทรัพย์สินจนตัวเองล้มละลายมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว
 และยังมีคนร่ำรวยอยู่Bern
 ชื่อAnna-Seiler ที่ทุ่มเงินช่วยเหลือคนยากจน
 ตอนที่มีชีวิตอยู่และบริจาคทรัพย์สินเงินทองทั้งหมด
 ตอนเสียชีวิตแล้วเพื่อช่วยเหลือคนยากจนต่อไป
 

pall




**ภาพหญิงชรากำลังคุ้ยหาเศษอาหารในถังขยะ**
 
 
 คนที่อยู่ในสวิตฯถ้ามองแบบผิวเผินเหมือนกับอยู่ดีกินดี
 ไม่มีปัญหาหรือความเดือดร้อนใดๆ
 แต่จากการสำรวจเมื่อปี03จากองค์การช่วยเหลือต่างๆในสวิตฯ
 และจากCaritas ซึ่งเป็นองค์การกลุ่มคริสตจักร katholischen Kirche
 กลุ่มช่วยเหลือมนุษย์ผู้มีปัญหาความทุกข์ยากต้องการความช่วยเหลือ
 องค์การนี้จะยื่นมือให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อนด้วยความเต็มใจ
 ได้แจ้งยอดคนยากจนที่อาศัยอยู่ในสวิตฯมีจำนวนถึง850,000คน
 และ2ปีที่ผ่านมาจนถึงสิ้นปี05มียอดคนจนเดือดร้อน
 มาขอความช่วยเหลือมีจำนวนสูงถึง150,000คน
 และยังกะประมาณยอดคนที่จะเข้ามาขอความช่วยเหลือ
 ในอนาคตข้างหน้าจากกลุ่มคนที่มีอายุต่ำกว่า65ปี
 ที่มาขอความช่วยเหลืออีกประมาณ400000คน
 ที่ประสบปัญหารายได้ต่ำมากต่ำกว่าคนจนที่เราเรียกว่า
 Armutsgrenze
 
 ถ้าเราดูจำนวนยอดคนยากจนแล้วน่าตกใจมากที่ยอดคนยากจน
 มีจำนวนเป็นล้านคนเช่นนี้และจำนวนยอดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
 เป็นยอดที่น่าเป็นห่วงปละน่าวิตกกังวลมาก
 กับการแก้ปัญหาคนเดือดร้อนยากไร้ประสบปัญหาแบบนี้
 ถ้าเราดูภาพรวมๆอย่างผิวเผินจะไม่รู้สึกอะไรเลย
 เพราะเรายังไม่ได้ประสบปัญหาความเดือดร้อนอดอยากแบบนี้
 แต่ถ้าวันใดที่ตัวเราเองประสบปัญหาแบบนี้บ้างจึงจะเข้าใจ
 และรู้สึกดียิ่งขึ้นและคิดถึงคนที่สามารถช่วยบรรเทา
 ความเดือดร้อนต่างๆให้คลี่คลายลง
 Caritasมีความปารถนาอยากให้รัฐหรือผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย
 หาทางแก้ไขจัดการแก้ปัญหาเหล่านี้ในอนาคต
 ช่วยเหลือผู้ตกงาน คนพิการ และการประกันSozialversicherung
 ยังมีคนเดือดร้อนที่รอความช่วยเหลืออีกมากมาย
 
 http://www.caritas-luzern.ch/
 

pall

#4


**Alkistübli im Bahnhof Bern**
 
Alkistübli หรือที่เรียกชื่อใหม่ว่า"La Gare"
เป็นสถานที่ให้คนมีปัญหาเกี่ยวกับLakohol
หรือคนติดยาเสพติดเข้ามารับการบริการกินอาหาร
ที่ตั้งของสถานที่แห่งนี้อยู่ใน Bahnhof Bern
ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งของToilett(สร้วม)เก่า
**Projekt Pinto**
เป็นกลุ่มของBerns Sozialbehörde
กลุ่มที่ทำงานล้วนแต่มีประสบการณ์
ทำงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนการทำงานของกลุ่มนี้ทำงานมาประมาณ15ปีแล้ว
เงินทุนช่วยเหลือได้รับจากรัฐกลุ่มที่ทำงานจะทำกันหนักมาก
ทำกันตลอด7วันและวันละ12ชม.
ค่าใช้จ่ายในการบริการและดูแลกลุ่มคนเดือดร้อนนี้
ใช้เงินใช้จ่ายมากประมาณ 769'000 Franken
และใช้เงินจำนวน 60'000 Frankenสำหรับการให้การบริการ
เกี่ยวกับอาหารใน Alkistübli im Bahnhof Bern

pall




Alkistübli  เปิดให้การบริการตั้งแต่11.00น.-19.00น

pall

พูดถึงเรื่องนี้ถ้าคนไม่สนใจจะไม่รู้สึกอะไรกับข่าวที่ได้ยิน
 อย่างที่เราเรียกกันว่าถ้าไม่เกิดขึ้นกับตัวเองจะไม่รู้สึก
 กับความเดือดร้อนต่างๆ
 บางคนที่สนใจจะคิดว่าไม่มีคนหรือกลุ่มงานให้ความช่วยเหลือคนยากจน
 เหล่านี้เลยหรือ
 ถ้าพูดกันจริงๆแล้วมีหลายกลุ่มหลายหน่วยงาน
 ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคริสต์จักร,Heilsarme,ของรัฐSozialต่างๆ
 และโดยส่วนตัวที่ให้ความช่วยเหลือต่างๆเท่าที่จะทำได้
 มีร้านขายขนมปังบางแห่งที่ได้มอบขนมปังที่ขายเหลือ
 นำมาแจกจ่ายคนไม่มีที่อยู่อาศัยหรือพวกคนยากจน
 การช่วยเหลือ เพื่อนมนุษย์ที่ประสบปัญหาเดือดร้อน
 เป็นสิ่งที่ประเสริฐน่าทำที่สุด
 ไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือด้านเงินทองแค่น้ำใจและความรู้สึกถ่ายทอด
 เห็นอกเห็นใจกันแค่นี้ก็นับว่าเป็นสิ่งที่เราควรยื่นไมตรีมอบกัน
 ด้วยความรักและหวังดีต่อกันแค่นี้คงไม่ยากเกินไป
 และอยากให้ทุกคนระมัดระวังกับอนาคตข้างหน้า
 การมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเราต้องระมัดระวัง
 กับการประหยัดเกี่ยวกับเงินทองการใช้จ่าย
 และการเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดในอนาคตข้างหน้า
 ถ้าเราเตรียมพร้อมด้วยความไม่ประมาทถึงแม้จะมีอุปสรรคเกิดขึ้น
 ก็ไม่ทำให้เราต้องเดือดร้อนมากมาย
 และพร้อมที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้ต่อไป

นิด (แม่ลูกหมูสามตัว)

ป้าค่ะ  
              - สาเหตุของความยากจน ไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีอาหาร ของเค้ามาจากอะไร?
              - แล้วคนเหล่านี้เค้าไม่มี เงินประกันสังคม ( AHV ,IV หรือPensionskasse ) เหมือนคนอื่นๆหรือ แล้วถ้าไม่มีเพราะสาเหตุอะไร ในเมื่อที่สวิตบังคับให้คนทำงานทุกคนจะต้องจ่าย หรือเพราะเค้าไม่เคยทำงานจึงไม่มีเงินส่วนนี้ แล้วที่ผ่านมาอยู่ได้อย่างไร  
              - ถ้าเค้าพยายามดิ้นรนเพื่อช่วยให้ตัวเองดำรงชีวิตแล้ว แต่ไม่สามารถทำได้ แต่ในเมื่อไม่มีอาหาร ไม่มีบ้าน ไม่มีงาน ทำไมถึงไม่ขอให้Sozialช่วย  ทำไมต้องมาเป็นขอทาน มาอาศัยทางเท้านอน ถ้าจะบอกว่า หยิ่งในศักดิ์ศรีไม่ไปขอความช่วยเหลือจากหลวง การไปขอจากหลวงแบบนี้ คือการใช้สิทธิ์ที่เค้าพึ่งมี พึ่งได้รับ ไม่น่าอับอายเสียหาย    ถ้ามาเล่นดนตรี ร้องเพลง ก็ถือว่าคุณทำงานแลกเงิน อย่างนี้น่าให้ แต่ถ้ามาเดินแบมือขอ เฉยๆ สู้เดินไปที่ Sozial  ถึงจะรู้สึกอายยังดีกว่ามาขอเงินคนอื่นทั่วไป
 
 ข้อความข้างล่างแค่อยากเขียนไม่เกี่ยวกับกระทู้นะค่ะ
 
      "  มนุษษย์เราเมื่อถึงคราวที่สุดอับจนของชีวิต ก็ย่อมดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อให้ชีวิตอยู่รอด เพียงแต่  แต่ละคนจะคำนึงไหมว่าทางที่เลือกมันผิดต่อจิตสำนึกตัวเองไหม หรือเพียงเพื่อความอยู่รอดของตนแล้ว ไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งใด ไม่ต้องนึกถึงคนอื่น "

นิด (แม่ลูกหมูสามตัว)

โหป้า อ่านความคิดเห็นที่1แล้วสงสัยเลยว่า ตรงลง สงสารคนหรือหมา กันแน่5555555

pall

**เกี่ยวกับขอทานในสวิตฯก่อน**
 คนขอทานที่เราเห็นจะมีทั้งคนสวิสและคนต่างด้าว
 ที่เข้ามาและมาขอทานบางทีเราจะเห็นแม่นำลูกมานั่งด้วยซึ่งเคยมีคน
 ร้องเรียนและตำรวจมาจัดการไปแล้ว
 คนต่างด้าวที่เห็นจะเป็นคนยุโรปตะวันออก
 หลังจากนั้นไม่เคยเห็นภาพเหล่านี้อีกเลย
 คิดว่าทางโซเชี่ยวคงยื่นมือเข้ามาช่วยไปแล้ว
 เพราะเกี่ยวกับการนำเด็กมาทำแบบนี้ซึ่งที่นี่เข้มงวดมาก
 พูดถึงขอทานยอมรับโดยส่วนตัวว่าไม่เคยให้เงินคนเหล่านี้
 การแบมือขอเงินเป็นการลงทุนที่ง่ายที่สุด
 ไม่ต้องทำงานเหนื่อย และได้เงินมากด้วย
 แต่ละวันเป็นจำนวนที่สูงมาก  ดังนั้นการมาเป็นขอทาน
 จึงเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด  และการให้เงินคนเหล่านี้เป็นการสอนให้
 เป็นคนเห็นแก่ตัวและไม่สู้ชีวิตงอมืองอเท้าไม่ยอมทำงาน
 ว่าไปแล้วตำรวจก็กวดขันเกี่ยวกับการมานั่งขอทานเหมือนกันนะ
 แต่ก็ยอมให้มานั่งขอทานแบบนี้
 ขอทานที่นี่ก็มีการแย่งที่นั่งขอทานกันนะเคยเห็นทะเลาะกันมาแล้ว
 และขอทานที่เห็นยังอายุไม่มากและส่วนมากจะเป็นพวกติดยาเสพติด
 บางกลุ่มติดAlkohol  ติดเอสด์
 สำหรับการไปขอความช่วยเหลือจากSozialไม่ใช่ว่าจะได้กันทุกคนนะ
 มีการตรวจสอบละเอียดมากตรวจถึงพ่อแม่ญาติพี่น้อง
 ถ้าพ่อแม่พี่น้องมีรายได้ดีเขาจะให้เป็นหน้าที่ของครอบครัวดูแลเอง
 ถึงแม้อายุจะ18ครบบรรลุนิติภาวะแล้ว
 แต่ตราบใดที่อายุยังไม่ถึง30ยังตอ้งเกี่ยวข้องกับรายได้ของพ่อแม่
 (ข้อนี้รู้ดีเพราะได้จากลูกชายตัวเอง...ใครห้ามมาเถียง...ว่าไม่จริง
 เพราะทะเลาะกับSozialและการให้ความช่วยเหลิอจากรัฐด้านอื่นๆมาแล้ว)
 และการไปขอรับเงินจากSozialเขาตรวจละอียดมาก
 เหมือนเขาให้เราแก้ผ้าตรวจเลย....ตรวจทุกอย่าง
 โชคช่วยที่ไม่ได้มาแก้ผ้าลุงตรวจ....ไปด้วยไม่งั้นคนตรวจตากุ้งยิงแน่ๆๆ
 
 คนเหล่านี้เป็นกลุ่มมีปัญหาหางานไม่ได้หรือตกงาน
 การหางานทำสมัยนี้ยากมากขนาดล้างส้วมยังแย่งกันทำงานเลย
 เมื่อหางานทำไม่ได้ตัวเองกำลังจะอดตายไม่มีที่อยู่
 ไปขอรับเงินจากSozialก็ไม่ใช่ว่าได้มาง่ายๆ
 ได้เงินเขามาแล้วก็ต้องอยู่ในความควบคุมดังนั้น
 ป้าเชื่อเลยว่าทำไมคนสวิสถึงไม่ยอมไปขอรับความช่วยเหลือกันเท่าไร
 ดังนั้นการมานั่งขอทานจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด
 
 **สรุปเกี่ยวกับขอทาน**
 กลุ่มนี้มีปัญหาเกี่ยวกับการเข้าไปขอเงินจากSozial
 ซึ่งไม่ใช่ว่าSozialช่วยทุกคนอย่างที่บอกมา
 หรือSozialช่วยมาบ้างแต่เงินไม่พอใช้เพราะ
 นำไปจ่ายอย่างอื่นที่ไม่เป็นประโยชน์
 และSozialไม่รู้ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง(แค่คิดเองนะไม่เคยคุยกับกลุ่มนี้)
 และคนกลุ่มนี้ไม่มีเงินประกันสังคมเงินคนแก่(อายุยังไม่ถึงกำหนด65ปี)
 จึงไปขอรับไม่ได้เพราะยังไม่แก่
 และเงินคนตกงานก็ไปขอไม่ได้เพราะไม่ไปทำงานตามกำหนดที่เขาตั้งไว้
 และอีกย่างป้าคิดว่าการเป็นขอทานได้เงินมาง่าย
 ไม่ต้องทำงานหนักให้เหนื่อย เคยมีคนสอบถามขอทานมาแล้ว
 ว่าขอทานถัวเฉลี่ยได้วันละเท่าไร
 คำตอบคือแล้วแต่เทศกาลและอารมณ์คนแต่ได้ไม่ต่ำกว่า100ต่อวัน
 

pall

ลืมบอกไปว่ากลุ่มคนกลุ่มนี้ไม่มีความอายเท่าไร
 ถ้าอายคงไม่มานั่งขอทานหรอก
 แลเงินที่ได้มามากพอประมาณ

pall

***สาเหตุความยากจนถ้าเราจะพูดกันจริงๆมีหลายสาเหตุ**  
 1.เกี่ยวกับการตกงาน  
 อย่าลืมว่าคนตกงานไปปั๊มแสตมป์คนตกงานได้ไม่นานนะ  
 พอหมดเขตที่เขากำหนดมาก็ไปปั๊มรับเงินคนตกงานต่อไม่ได้แล้ว  
 หลังจากนั้นก็ต้องหางานทำต่อถ้ายังไม่ได้ก็หมายถึงต้องกินเงินเก่า  
 ไปเรื่อยๆและระหว่างที่หางานและกินของเก่า  
 จะไปขอรับเงินจากSozialไม่ได้ถ้าตราบใดที่ยังมีเงินและสมบัติ  
 อยู่ และการเข้าไปรับเงินช่วยเหลือจากSozialบอกไงว่าไม่ใช่ได้มาง่ายๆ  
 ต้องมีการตรวจสอบ  
 และคนกลุ่มนี้ถ้าไม่เดือดร้อนมากจริงๆถ้ามีครอบครัวจะไม่ไปยื่น  
 ขอรับความช่วยเหลือจากSozial  
 ถ้าคนที่ยังโสดไม่มีภาระก็จะคิดว่าปากเดียวท้องเดียว  
 นอนที่ไหนใต้สะพานก็ทำได้และเดินหางานทำใหม่จนกว่าจะได้  
 
 2.กลุ่มพวกคนแก่หรือคนIV  
 ได้เงินประกันสังคมRenteAHVและIVน้อยมากไม่พอค่าครองชีพ  
 บอกก่อนว่าเงินคนแก่ได้น้อยมาก  
 อย่างลุงได้รับเงินคนแก่แค่1000กว่าเองและไม่มีเงิน Pensionskasse เพราะทำงานส่วนตัว  
 โชคดีที่ลุงยังทำงานได้อยู่จึงไม่เดือดร้อน  
 ถ้าไม่ทำงานอดตายแน่ๆ  
 จะไปขอรับเงินELจากรัฐก็ไมได้  
 ตราบใดที่ลุงยังไม่ใช้เงินไม่หมดจากธนาคาร  
 ดังนั้นเรียกว่าลุงเป็นคนแก่ที่ยากจนคนหนึ่งถ้าไม่ทำงานอยู่  
 
 หรือแม่ที่ต้องเลี้ยงดูลูกตามลำพัง  
 ได้รับเงินช่วยเหลือจากSozialไม่พอกับค่าใช้จ่าย  
 ต้องอยู่อย่างมัธยัสถ์และท้องกิ่ว  
 3.ค่าครองชีพที่สูงมาก ค่าประกันเจ็บป่วย  
 และอีกหลายสาเหตุที่ทำให้คนที่นี่ต้องต่อสู้กับการใช้จ่าย  
 ซึ่งทำให้ไม่มีเงินเหลือเก็บ  
 และการใช้จ่ายในครอบครัวต่ำกว่ามาตราฐานของคนทั่วๆไป  
 ต้องยื่นมือไปขอรับความช่วยเหลือจากรัฐ  
 
 4.เรื่องหนี้สินที่สร้างขึ้นมา
 ถ้าจะพูดกันแล้วคนที่อยู่ที่นี่จะต้องพยายามช่วยตัวเองด้วย
 สังคมคนที่ที่ถึงจะมีพี่น้องพ่อแม่แต่ถ้าพูดตามความเป็นจริง
 ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือกันหรอกนะทุกคนที่ประสบปัญหา
 ต้องดูแลช่วยเหลือตัวเองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะมีปัญหาใดๆ
 การวิ่งไปขอความช่วยเหลือด้านเงินทองหรือด้านอื่นๆ
 มีส่วนน้อยที่คนในครอบครัว
 จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือกัน  อาจจะมีบางครอบครัว
 ที่ใกล้ชิดและช่วยเหลือกันบ้างแต่ไม่ได้ทุ่มเทแบบครอบครัวไทยเรา
 คนที่อยู่ที่นี่จะเข้าใจที่ป้าพูดดี  บางครั้งการออกความเห็น
 ที่เป็นความจริงคนเรารับกันไม่ได้
 
 **เงินที่ถามมา**  
 เงินAHV หรือPensionskasse  
 ถ้ายังไม่ครบกำหนดไม่สามารถไปรับเงินส่วนนี้ได้  
 
 **อาหารและความช่วยเหลือ**  
 จะมีกลุ่มของคริสตจักรและกลุ่มอื่นๆ  
 และคนที่มีจิตใจเป็นกุศล  
 จะทำอาหารแจกฟรี  
 ให้คนไม่มีที่อยู่ คนมีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดหรือติดเหล้า  
 หรือกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือ  
 เพียงแต่คนจะรู้หรือไม่เท่านั้น  
 หวังว่าคงพอเข้าใจนะจ๊ะ...ตอบจนเหนื่อย  
 อยากตอบมากกว่านี้แต่จะกลายเป็นปัญหาทางด้านการเมืองไปจ้า
 
 

เกตุ

คนสวิตฯ รักสัตว์จริงๆด้วยล่ะค่ะ เกตุเคยหาห้องอยู่นะคะ เขาบอกว่ามี
 แมวยังดีกว่ามีเด็กอ่ะ คิดดูดิ รักเกินไปป่าวเด๋วคลอดลูกเป็นแมวเลยเน๊