อีกครั้งกับ ขั้นตอนทำวีซ่าแต่งงานที่สวิสสำหรับหญิงไทย และนำโน๊ตบุ๊คมาใช้ที่สวิสฯ

Previous topic - Next topic

CONFUSING

ขอโทษค่ะ เผลอไปกดตั้งกระทู้เลยขาดช่วงไปเลย ต่อนะค่ะ

8.แบบฟอร์มกรอกวีซ่า (โดยกรอกข้อความให้สมบูรณ์) จำนวน 3 ชุด (รูปถ่าย 2 นิ้วจำนวน 4 ใบ)

ตัวดิฉันพลาดตรงที่ไม่ได้กรอกแบบฟอร์มวีซ่า (เพราะเข้าใจว่าต้องนัดกับแผนกวีซ่าเองภายหลัง หากอ่านข้อมูลของคุณนาให้ละเอียดก็จะทราบว่าสามารถนำไปยื่นที่แผนกแต่งงานได้เลยค่ะ) ซึ่งวันนี้ดิฉันต้องนั่งกรอกวีซ่าเองสด ๆ จำนวน 3 ชุด มีบางข้อที่ไม่ค่อยเข้าใจ ถามใครก็ไม่ได้ ถามเจ้าหน้าที่ก็บอกมาว่ากรอก ๆ ไปเหอะ ??? ซึ่งหากนำไปกรอกที่บ้านก่อนน่าจะกรอกข้อมูลได้สมบูรณ์กว่านี้ (บางข้อก็กรอกผิดเช่น type of visa ดันกรอกเป็น airport transit ซึ่งจริง ๆ ต้องป็น Long stay :'( วีซ่าจะผ่านมั๊ยเนี่ยะ) และน่าจะมีผิดอีกหลายข้อเลยค่ะ

ควรเตรียมเงินไปให้ครบถ้วนค่ะ ค่าใช้จ่ายที่ต้องยื่นให้แผนกแต่งงานสำหรับเดือนมีนาคือ 6,670 บาท หลังจากนั้นแผนกแต่งงานจะนำเอกสารเราทั้งหมดส่งต่อไปที่แผนกวีซ่าเลย เตรียมเงินให้แผนกวีซ่าอีก 2,970 บาท เจ้าหน้าที่แผนกวีซ่าก็จะแจ้งว่าอีกสองเดือนมารอฟังผล ส่วนการทำประกันและการบุ๊คตั๋วเครื่องบิน ยังไม่ได้ทำค่ะ

โชคดีค่ะ

angelii

ขอบคุณ คุณ CONFUSING มากเลยค่ะที่มาช่วยตอบให้หายสงสัย

แต่อีกเรื่องคือเอกสารที่ชื่อว่า GESUCH UM VORBERELTUNG DER EHESCHLIESSUNG
ต้องส่งตัวจริงไปให้เเฟนกรอกแล้วรอเค้าส่งตัวจิงนั้นกลับมาเหรอคะ  แล้วเอกสารนี่เราขอรับวันที่เราเอาเอกสารไปเช็คได้เลยใช่มั้ยคะ

วันที่ระบุว่าจะไป นี่นับล่วงหน้าไป2เดือนเลยใช่มั้ยคะ

แล้วคุณ CONFUSING แต่งงานที่เมืองไหนเหรอคะ  เผื่ออยู่ใกล้ๆกัน

ปรมัทร์ มณีกร

สวัสดีค่ะทุกๆท่าน
พอดีกำลังดำเนินเรื่องแฅ่งงานแต่ตอนนี้ยังอยู่สวิสด้วย visa B นักเรียนนะคะ

ขอถามคุณ confusing ได้ไหมคะว่า(ฟอร์มของแต่ละอำเภอหรือเขตที่ออกให้ไม่เหมือนกัน ส่วนของตัวเองต้องแก้ไขใหม่ทั้งใบรับรองโสดทั้งใบรับรองสถานที่เกิดเลยค่ะ เพราะข้อมูลที่อำเภอออกให้ไม่สมบูรณ์)มีรูปแบบหรือตัวอย่างให้ดูได้ไหมคะเพราะว่าตั๊กให้แม่ขอให้แฅ่กลัวแม่ไม่เข้าใจและทางอำเภอทำใหไม่สมบูรณ์นะคะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

Angelii : สบายดีไหมคะ ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับว่าที่เ้จ้าสาวนะคะ ขอให้มีความสุขมากๆคะ

แอบเข้ามาอ่านตั้งหลายรอบแล้วคะเป็นประโยชน์อย่างมากเลย ขอบคุณพี่ นา ป้าพอล คุณ confusing อีกหลายท่านที่โพสไว้ ขอให้ทุกท่านมีความสุขปราศจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง สาธุ!!!!!!!!



CONFUSING

สวัสดีค่ะคุณ angelii

เอกสารที่ชื่อ GESUCH UM VORBERELTUNG DER EHESCHLIESSUNG  (ไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นภาษาฝรั่งเศส จะยังใช้ชื่อนี้อยู่รึเปล่านะคะ) ที่ได้รับจากสถานฑูต ใช้สแกน หรือส่งแฟ็กซ์ให้แฟนกรอกเพิ่มเติมค่ะ(ไม่ต้องส่งตัวจริง) แล้วจึงนำเอกสารที่แฟนกรอกเสร็จ นำกลับไปให้สถานฑูตอีกทีค่ะ ทางสถานฑูตแผนกแต่งงานจะเป็นคนกรอกเพิ่มเติมให้เองค่ะ เอกสารดังกล่าวสามารถขอรับวันที่เราเอาเอกสารไปเช็คได้เลย อย่าลืมนำจดหมายเชิญแต่งงานไปให้สถานฑูตด้วยนะคะ อ๋อ อีกอย่างที่ลืมไม่ได้ตอนนำเอกสารไปเช็คคือ ขอแบบฟอร์มวีซ่าเปล่าไปกรอกที่บ้านเลยค่ะ จำนวน 3 ชุด หลังจากเอกสารทุกอย่างครบถ้วน ก็นำไปยื่นที่แผนกแต่งงานได้เลยค่ะแล้วรอประมาณ 2 เดือนหลังจากวันยื่น  โดยส่วนตัวค่อนข้างประทับใจกับแผนกแต่งงานค่ะ เพราะให้คำแนะนำ และบริการค่อนข้างดี  :) ดิฉันจะไปอยู่ BERN ค่ะ แล้วangelii อยู่เมืองไหนค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ taky

สำหรับใบรับรองโสด และใบรับรองสถานที่เกิด แบบฟอร์มของแต่ละอำเภอ หรือเขต ไม่เหมือนกันแต่สิ่งที่สถานฑูตสวิสต้องการทราบจากเราคือ
ใบรับรองสถานที่เกิด: ระบุชื่อ,นามสกุล,วันเดือนปีเกิด,อายุ,สัญชาติ,เลขที่บัตรประชาชน,ระบุชื่อพ่อแม่,บ้านเลขที่ พร้อมทั้งให้อำเภอรับรองว่าตัวเราเกิดที่ ตำบล...., อำเภอ...., จังหวัด..... ประเทศไทยจริง
ใบรับรองโสด: ระบุชื่อ,นามกุล,อายุ,สัญชาติ,เลขที่บัตรประชาชน,บ้านเลขที่,ระบุชื่อพ่อแม่, ระบุชื่อพยานจำนวน 2 คน พร้อมเลขที่บัตรประชาชนของพยาน (จะนำพ่อและแม่เป็นพยานก็ได้ค่ะ) พร้อมให้อำเภอรับรองว่านางสาว..... มีสถานภาพเป็นโสดไม่เคยจดทะเบียนสมรสกับผู้ใด (กรณีที่ไม่เคยสมรสนะคะ)

ขอให้โชคดีนะค่ะ

ปรมัทร์ มณีกร

ขอบคุณมากคะคุณ confusing สวยด้วยและน้ำใจงาม
ขอให้คุณมีคามสุขและโชคดีเช่นกันคะ

angelii

เพิ่งไปยื่นเอกสารขอวีซ่าแต่งงานมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 
หลังจากที่เอาเอกสารต่างๆเข้าไปเช็ควันจันทร์ก่อนหน้านั้น
แต่ขั้นตอนของเราแตกต่างจาก
คือว่าเอาเอกสารไปยื่นที่แผนกแต่งงานเรียบร้อย  หลังจากนั้นเค้าก็บอกว่าเราต้องไปเอใบรับรองความประพฤติมายื่นพร้อมกับขอวีซ่า  คือไม่สามารถยื่นขอวีซ่าได้เลยต้องแนบใบนั้นมาพร้อมกับแบบฟอร์มขอวีซ่า  เลยงงตรงที่บางท่านที่เขียนโพสไว้บอว่าให้ไปขอทีหลัง หลังจากที่เรายื่นเอกสารวีซ่าเรียบร้อย  ตกลงคือยังไงกันนี  แล้วตอนที่ไปขอใบรับรองก็ไปเจอผู้หญิงคนนึงเค้าไปขอใบรับรองเพื่อไปขอแต่งงานที่สวิสเหมือนกัน  เค้าบอกว่าเค้ายื่นเอกสารวีว่าไปแล้ว  แล้วทางสถานทูตให้มาขอใบรับรองนี้เพื่อไปยื่นตอนที่อยู่สวิสแล้ว  เลยงงว่าแล้วของเราทำไมไม่เหมือนเค้า  หรือว่าเจ้าหน้าที่เเต่ละคนจะพูดไม่เหมือนกัน  งงไปเลย
แต่มีแผนคือของเราได้นัดยื่นวีซ่าวันพุธนี้ กะว่าจะเอาเอกสารไปยื่นก่อนแล้วถ้าเค้าถามหากคงจะเอาไปให้เค้าอีกวันทีทีหลังดีมั้ยคะ  เพราะถ้าโทรนัดวันใหม่คงต้องรออีกนาน  เห้ออออ   เหนื่อยกะวีซ่าจริงๆ


aum

สวัสดีค่ะ คุณ angelii และทุกๆคน
      เรื่องเอกสารรับรองความประพฤติปกติแล้วต้องไปขอหลังจากได้วีซ่านี่คะ เพราะตอนที่อุ้มทำมาเมื่อปีที่แล้วอุ้มก้อไปขอก่อนบินแค่วันเดียวเอง คุณanllii ฟังผิดหรือว่าเค้าเปลี่ยนใหม่แล้วหรือว่าแต่ละกรณีไม่เหมือนกัน เพราะเท่าที่ทราบมาส่วนมากก้อขอหลังจากได้วีซ่าแล้ว อีกอย่างถ้าไปขอเอกสารรับรองความประพฤติก้อต้องรอประมาณสองอาทิตย์ ของอุ้มใช้วิธีให้ส่งไปรษณีย์มาให้ที่นี่แทนค่ะ อุ้มว่าคุณไปยืนวีซ่าแล้วแล้วถามเค้าอีกทีดีกว่าค่ะ จะได้ไม่เสียเวลารอนัดใหม่
           โชคดีนะคะ

panjaree

สวัสดีค่ะคุณ angelii
       กรณีของกุ้ง วันที่ยื่นเอกสารขอวีซ่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าให้ไปขอใบรับรองความประพฤติได้เลย แต่ไม่ได้ยื่นที่สถานฑูตนะคะ แต่ว่าก็ส่งให้แฟนทางไปรษณีย์อีกที(ค่าส่งตั้ง800) ทางแฟนบอกว่าทางจังหวัดต้องการดูเอกสารตัวนี้ค่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาเปลี่ยนระบบใหม่หรือปล่าว เอาใจช่วยนะคะ

angelii

สวัสดีค่ะป้าพอล คุณอุ้ม คุณกุ้ง คุณตั๊กกี้ และคุณคอนฟิวส์

ขอบคุณคุณกุ้งกับคุณอุ้ม มากๆเลยนะคะที่มาช่วยแชร์ประสบการณ์

เราคิดว่าจะเข้าไปตามนัดวันพุธนี้แหละ  ถ้าเค้าขอคงมายื่นทีหลัง

แล้วคุณคอนฟิวส์กับคุณตักกี้เรื่องไปถึงไหนกันแล้วคะ

ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรงสบายดีกันทุกคนนะคะ

angelii

สวัสดีค่ะทุกๆคน  สบายดีกันรึป่าวคะ
ช่วงนี้เมืองไทยร้อนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เราไปสถานทูตตามวันนัดมาแล้วค่ะ 
แต่ว่ายังไม่มีใบรับรองความประพฤติไปยื่นตามที่แผนกแต่งงานได้บอกไว้นะคะ
คือลองไปยื่นก่อนตามที่บอกน่ะค่ะ
แล้วก้ได้ความมาว่า  เพราะว่าเรายื่นเรื่องขอไปที่ซูริค
ที่ซูริคต้องยื่นใบรับรองความประพฤติเพื่อประกอบการขอวีซ่า
แต่ว่าเค้าให้เราเอาไปยื่นทีหลังได้  แต่ว่าทางสถานทูตที่ไทยจะยังส่งเรื่องไปทีสวิสไม่ได้
ต้องรอเอกสารตัวนี้ก่อน แต่ก็ดีที่ไม่ต้องนัดคิวมาใหม่

ตอนนี้ก้รอวันที่ 1 เมษาจะไปเอาใบรับรองมายื่น เห้อออ เหนื่อยค่ะ

panjaree

หวัดดีค่ะ คุณangellii
        คงต้องเหนื่อยหน่อยนะคะ ช่วงวิ่งทำเอกสาร ปีที่แล้วที่กุ้งทำมาก็ยังไม่รู้จักเวบป้าพอล วิ่งไปวิ่งมาหลายรอบมากเลย พักอยู่บางกะปิ ขึ้นรถมาก็หลายต่ออยู่ ลุงเจ้าหน้าที่ตัวเล็กเผอิญเป็นคนโคราชเหมือนกันแกแนะนำให้ขึ้นเรือกลับ แกเดินมาส่งแต่ตกลงไม่ได้ขึ้นค่ะ(กลัว) ทั้งกรอกเอกสารไม่ทัน/ทั้งรูปถ่ายไม่ถูกต้อง ก็ประมาณเกือบ5ครั้งได้มั้งคะเข้าสถานฑูตกว่าทุกอย่างจะโอเค เป็นกำลังใจให้นะคะ

angelii

k.panjaree เป็นคนโคราชเหรอคะ  เราก็เป็นคนโคราชเหมือนกัน
เต่เรามาเรียนต่อมหาลัยที่กรุงเทพ  แล้วก็อยู่ทำงานยาวมาเลย  ไม่ค่อยได้กลับบ้าน
แต่ก็เพิ่งย้ายของสมบัติบ้ากลับบ้านเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองค่ะ
ก็เลยมายุ่งยากตอนยื่นเอกสารเพิ่มเติมวันนี้นี่ล่ะค่ะ 
ไอ้ไกลน่ะไม่เท่าไหร่แต่ต้องตื่นเช้านี่ปวดใจจริงๆ

ว่าแต่ว่าk.panjaree มีเมล MSN รึป่าวคะ  เผื่อจะได้ไว้้คุยกันหลังไมค์

angelii

ขอถามอีกเรื่องนึงนะคะ  เรื่องประกันการเดินทางเราต้องทำรึป่าวคะ
หรือว่าให้ทางแฟนทำไว้รอที่โน่น  แฟนบอกให้ถามที่สถานทูตมาก็ลืมทุกทีเลย
ตื่นเช้าแล้วก้เบลออออ

NA-SP

ข้อมูลอัปเดทเพิ่มเติมใหม่ค่ะ

ข้อมูลดีจากนาค่ะ ขั้นตอนการทำวีซ่าแต่งงานที่สวิส ตั้งแต่ต้นจนจบค่ะ เผื่อจะมีประโยชน์สำหรับทุกๆคนที่กำลังจะมา ถ้าสนใจข้อมูลนี้ก็จัดการ Print แล้วเก็บเอาไปไว้อ่านนะค่ะ
ข้อมูลและเอกสาร ที่นาได้ยื่นเรื่องมาก่อนด้วยตัวเองค่ะ เกี่ยวกับทำวีซ่าแต่งงานหรือจดทะเบียนสมรสที่ประเทศสวิสค่ะ
(ส่วนนา ยังไม่เคยแต่งงาน และไม่เคยมีบุตร ไม่เคยจดทะเบียนสมรสค่ะ เลยเตรียมเอกสารได้ไม่ยาก)
-ไม่ต้องจ้างใคร หรือเอเย่นทำให้ค่ะ ถ้าคุณรู้ และสามารถกรอกข้อความเป็นภาษาอังกฤษได้ค่ะ โดยกรอก 3 ชุดค่ะ ที่สถานฑูตเลย)
สำหรับเราค่าเดินเรื่อง แปล และค่าวีซ่าแต่งงาน รวมแล้วทั้งหมดแค่ประมาณหมื่นกว่าบาทเองค่ะ
-ส่วนเราแฟนพูดภาษาเยอรมัน เลยต้องแปลเป็นภาษาเยอรมัน แพงค่ะ เพราะยากกว่าภาษาอังกฤษค่ะ
-และเรายังไม่เคยแต่งงานมาก่อน เลยแปลน้อยหน่อยแค่ 4 ใบค่ะ มี ใบเกิด/ทะเบียนบ้าน/ใบเปลี่ยนชื่อ/ใบรับรองการโสด รวม 3600 บาทค่ะ  (น่าจะแผ่นละ 900 บาท ไม่เกินนั้นนะคะ)
-โดยไปแปลที่ กทม. ค่ะ แถวสี่แยกเพลินจิต แต่ให้เอาเอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับการทำวีซ่า เข้าไปตรวจก่อน และถามพี่ๆ ในสถานฑูตสวิสดูก่อนค่ะที่ช่อง 5 ที่เรายื่นเรื่องช่องวีซ่าแต่งงานน่ะค่ะ พี่ๆเขาจะแนะนำเรื่องเอกสารทั้งหมดที่ต้องใช้ และสถานที่แปลให้ค่ะ แนะนำดีค่ะ
นาเคยทำวีซ่าเยี่ยมเยียนแฟน หรือ visa visit ทำถึง 2 ครั้ง ยื่นอุทรณ์ก็ไม่ผ่านค่ะ เสียเงินค่าวีซ่า 2 ครั้งน่ะค่ะ แล้วก็เลยรอจังหวะประมาณ 2 เดือนค่ะ ก็ตัดสินใจกับแฟนอีกทีว่า น่าจะยื่นวีซ่าแต่งงานดีกว่า เผื่อว่าจะผ่าน แต่ก็ไม่มีความหวังค่ะหรอกค่ะ
ถ้าไม่ผ่าน ก็คงรอให้แฟนลงมาประเทศไทย แล้วก็แต่งงานที่ประเทศไทย ค่อยไปสวิสทีหลังค่ะ
แต่อยู่ๆ สิ่งที่ไม่คาดหวังก็เกิดขึ้น โชคเข้าข้างนาค่ะ หลังจากยื่นวีซ่าแต่งงานเรียบร้อยแล้ว รอประมาณเดือนกว่าๆ เอง ทางแฟนเราที่อยู่สวิส ก็ส่งอีเมลล์มาบอกเราค่ะว่า วีซ่าแต่งงานอนุมัติแล้วนะ โอ๊ย ดีใจมาก ก็เลยได้มาแต่งงานที่สวิสนี่แหละค่ะ
(รวมทั้งหมดทำวีซ่าที่เข้าสวิส 3 ครั้งค่ะ เหนื่อยมากๆ กับการเดินเรื่องเอกสารต่างๆ แต่ก็ทำให้นาได้มีประสบการณ์เรื่องยื่นวีซ่ามากๆค่ะ)
********************************************
กฎหมายสมรส
เมื่อคุณต้องการจดทะเบียนสมรสในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยจะแต่งงานที่ใหน ก็แล้วแต่ตัวคุณและแฟนคุณค่ะ กลับมาที่ไทยก็ได้ค่ะ
ควรติดต่อสอบถามรายละเอียดเอกสาร ระบุสิ่งที่จะนำไปยื่น จากสำนักอำเภอ(เขตที่ผู้อาศัยอยู่)ที่ผู้ต้องการจดทะเบียนสมรสลงทะเบียนเข้าอยู่อาศัยในประเทศสวิตฯเพื่อป้องกันมิให้ล่าช้า หรือเพิ่มค่าใช้จ่ายที่ต้องจัดหาเร่งด่วนจากประเทศไทย ในกรณีที่ท่านเดินทางมายังประเทศสวิตฯแล้ว

ข้อมูลที่ควรทราบเกี่ยวกับการยื่นเรื่องจดทะเบียนสมรส
คุณสมบัติของคู่สมรส
- ทั้งสองฝ่ายต้องมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์
- มิได้เป็นพี่น้องหรือญาติร่วมสายโลหิตหรือเป็นบุตรบุญธรรมของอีกฝ่ายหนึ่ง
- ถ้ามีผู้ปกครอง(Vormund)ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน

เตรียมเอกสารของทั้งสองฝ่าย  ดังนี้
สำหรับชาวไทย หรือตัวคุณเองค่ะ  เอกสารที่ต้องยื่นเพื่อขอจดทะเบียนสมรสอาจมีข้อแตกต่างบ้างแล้วแต่เขตที่อยู่แต่ละรัฐ รวมถึงใบรับรองความประพฤติด้วย แต่ละเขตตรวจเช็คไม่เหมือนกันค่ะ
(เอกสารทั้งหมดที่เรามี ทั้งตัวจริง และสำเนา เตรียมไว้เลยค่ะ เผื่อเขาจะเรียกตรวจดูค่ะ)
- หนังสือเดินทาง Passport ของเราเอง
- บัตรประชาชน (สำเนา)
- ทะเบียนบ้าน(สำเนา)
- สูติบัตร หรือใบรับรองสถานที่เกิด วัน เดือน ปีที่เกิด ชื่อ บิดามารดา และนามสกุลเดิมของมารดาก่อนสมรส โดยมีการระบุว้าถือสัญชาติไทยด้วย
- ใบรับรองสถานภาพโสดสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยจดทะเบียนสมรสมาก่อน
(ให้ไปขอที่อำเภอแต่เนิ่นๆ แล้วก็อย่าลืมเอาผู้สอบพยานไปรับรองด้วยค่ะ ประมาณ 2 คน ขอบอกสำหรับอำเภอของเรา เราเอาผู้ใหญ่บ้าน และญาติ ไปค่ะ  เพราะเขาจะสอบประวัติเราว่ายังเป็นโสดอยู่จริง และยังไม่เคยแต่งงานมาก่อนค่ะ ) บางหมู่บ้านอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ โทรถามก่อนนะคะ
- หรือถ้าแต่งงานมาก่อนแล้ว กรณีหย่าแล้วต้องนำใบหย่าพร้อมบันทึกการหย่ามาแสดงด้วย
- รูปถ่าย 2"
เอกสารภาษาไทยทุกฉบับที่ระบุข้างต้นนี้(ยกเว้นหนังสือเดินทาง)ต้องแปลเป็นภาษาราชการของประเทศสวิตฯเพื่อประกอบในการยื่นขอจดทะเบียนสมรส
สำหรับชายชาวสวิส (แฟนของคุณจะทราบค่ะ ว่าเขาต้องเตรียมอะไรบ้างค่ะ)
-ใบรับรองการลงทะเบียนบ้าน(Wohnsitzbescheinigung)
-ใบรับรองสถานภาพทางการสมรส(Personalstandausweis/Zivistandsbestaetigung)
(แฟนคุณจะส่งหลักฐานตัวจริงไปให้คุณที่เมืองไทยค่ะ แล้วคุณก็เอาเอกสารประกบเข้าด้วยกัน เพื่อยื่นกับสถานฑูตค่ะ)
***************************************************
ขั้นตอนการเตรียมเอกสารการทำวีซ่าแต่งงานที่สวิส  มีดังนี้ค่ะ สำหรับนารวม 13 ขั้นตอนค่ะ
1. เช็คดูเอกสารของตัวเราเองก่อน ว่ามีอะไรบ้าง และอะไรที่ยังขาดอยู่ ที่ต้องกลับบ้านต่างจังหวัด เช่น
-ใบเกิด
-บัตรประชาชน 
-ทะเบียนบ้าน 
-ใบอย่า 
-ใบเปลี่ยนชื่อ
-ใบรับรองการโสด (ถ้าทำงานห่างจากบ้านเกิด ก็ให้กลับบ้านก่อน โดยไปขอใบรับรองโสดที่อำเภอ ประมาณวันเดียวก็ได้แล้วค่ะ)
-หนังสือเดินทางตัวจริง หรือ Passport.
-รูปถ่าย ขนาด 2"  รวม 3 ใบค่ะ โดยติดรูปลงในแบบฟอร์มวีซ่าทั้ง 3 ชุดค่ะ
2. หลังจากได้เตรียมเอกสารครบถ้วนแล้ว ให้นำเอกสารเข้ามาที่สถานฑูตค่ะ (บอกกับยามหน้าประตูว่ามาทำวีซ่านะคะ)
-แล้วเข้าไปที่ช่อง 5 เพื่อเข้าไปติดต่อสอบถาม หรือให้พี่ๆในสถานฑูต เขาตรวจเอกสารให้ ว่าที่เราเตรียมมาใช้ตัวใหนบ้างในการยื่นวีซ่าแต่งงาน พี่เขาก็จะขอดูเอกสาร แล้วจะแยกให้เราเองค่ะ ส่วนที่จะต้องแปลภาษา พี่เค๊าก็จะแยกให้เลยค่ะ
-และอย่าลืมถามพี่เค๊าด้วย ว่าเราต้องไปแปลเอกสารเหล่านี้ได้ที่ใหนบ้าง พี่เขาก็จะให้เบอร์โทรและที่อยู่มาค่ะ แล้วเราก็เอาไปแปล (รอเอกสารจากการแปล ประมาณ 2-3 วันค่ะ)
-สถานที่แปลภาษา เขาจะรู้ว่าต้องแปลเป็นภาษาอะไร เพียงแต่เราบอกว่าภาษาหลักของแฟนคืออะไร และอาศัยอยู่เขตใหนของสวิส 
(จากข้อที่ 2 หมายเหตุ กรณีที่ชัวร์เรื่องเอกสาร ก็ไม่ต้องเข้าไปถาม หรือไปเช็คเอกสารก่อนก็ได้ค่ะ)
3. หลังจากได้เอกสารจากการแปลแล้ว (แปลประมาณ 2-3 วัน)
-ก็รวบรวมเอกสารจากการแปลทั้งหมดไป Copy แบ่งเป็น 3 ชุดค่ะ (แนบเป็น 3 ชุดค่ะ)
-โดยเอาของแฟนที่ส่งมา แนบเข้าไปด้วยกันค่ะ ของแฟนก็มี 
       1.ใบรับรองการสมรสที่แฟนส่งมาให้ 1 ใบ (ตัวจริงสีเหลือง ถ้าจำไม่ผิดค่ะ)
       2.และสำเนาหนังสือเดินทางแฟน
       3.และสำเนาทะเบียนบ้านของแฟน
4. เข้าไปสถานฑูตอีกครั้งนึง ว่ามาทำวีซ่า
-เข้าไปช่อง 5 หาพี่คนเดิม หรือคนที่ดำเนินเรื่องวีซ่าแต่งงานให้เรา (แต่อย่าลืมกดบัตรคิวก่อนนะค่ะ)
-พี่เขาก็จะเช็คหลักฐานเราอีกครั้งนึง และก็สอบประวัติเราต่างๆ นาๆ เราก็ต้องตอบเป็นความจริงด้วยนะคะ อย่าโกหกเขาละ (พี่เขาจะสัมภาษณ์เป็นภาษาไทยค่ะ ไม่ต้องกลัว)
-หลังจากนั้น พี่เขาจะบอกว่าเราทำถึงขั้นตอนใหนแล้ว และต้องเตรียมอะไรอีกในขั้นต่อไป
-แล้วก็รอค่ะ ประมาณ  1-2 เดือน ทางสถานฑูตที่กรุงเบิรน์ (หรือเมืองนั้นๆ) เขาจะแจ้งเรื่องวีซ่ากลับไปที่บ้านของแฟนคุณค่ะ โดยคุณจะรู้ก็ต่อเมื่อแฟนคุณบอกค่ะ ว่าวีซ่า ผ่านหรือไม่ผ่านค่ะ
5. ถ้าวีซ่าผ่านหลังจากทราบเรื่องจากแฟนแล้ว  ขั้นตอนดังนี้ค่ะ
-เข้าไปสถานฑูตสวิสอีกครั้ง โดยนำหนังสือเดินทางตัวจริง(Passport)ของเราเอง
-เข้าไปยื่น Passport ได้ที่ช่อง 3 ว่าเรามาติดต่อเรื่องสอบถามวีซ่าแต่งงานที่ทำไว้แล้วประมาณ 2 เดือนก่อน ว่าผ่านหรือเปล่า
-หลังจากนั้นเขาก็จะเอา Passport ของเราไปเช็คดูค่ะ แล้วก็ให้ใบนัดเรามา ว่ามารับ Passport ได้วันใหน เวลาใด หรือประมาณสองวันถัดไปก็ได้ค่ะ (เหมือนกรณีของนาค่ะ)
-เมื่อมารับหนังสือเดินทางก็ให้ติดต่อที่หน้าป้อมยามเลยค่ะ เพราะเขาจะเอามารวมไว้ที่นั่นค่ะ รับกับยามได้เลยค่ะ (ไม่รู้ว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงให้ไปรับผลวีซ่าข้างในหรือเปล่านะ)
6. หลังจากเปิดดูในหนังสือเดินทางแล้ว ก็จะรู้ว่าเราได้เดินทางวันใหนบ้าง อยู่ได้กี่เดือน
-ก็อย่าเพิ่งกลับบ้านต่างจังหวัดนะคะ ต้องไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนค่ะ เพราะอยู่ใกล้สถานฑูต
-หลักฐานที่ต้องนำไปก็มีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ดังนี้ค่ะ
1.สำเนาทะเบียนบ้านเรา  2.สำเนาบัตรประชาชนเรา  3.สำเนาหนังสือเดินทางด้านที่มีชื่อเรา และด้านที่มีวีซ่าการการเข้าสวิสค่ะ
4.สำเนาหนังสือเดินทางของแฟน (เกี่ยวกับเอกสารของแฟนที่เราได้ Copy ไว้น่ะค่ะ)
-บอกกับ สนง.ตำรวจแห่งชาติ ว่าเรามาขอรับใบรับรองความประพฤติ เพื่อจะนำไปต่างประเทศด้วยค่ะ
-ก็จะทำการกรอกแบบฟอร์มก่อน และหลังจากทำเรื่องเสร็จแล้ว ก็รอเอาใบนัดให้มารับค่ะ ประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ ก็ให้นำไปสวิสด้วยนะคะ หรือจะให้ทางตำรวจแห่งชาติส่งไปให้เราทีหลังที่สวิสฯก็ได้นะคะ จ่ายเงินค่าส่งให้เขาค่ะ ฮ่าๆๆ
7. ขั้นตอนสุดท้าย รู้ว่าทุกอย่างโอเค ก็จัดการซื้อตั๋วบินได้เลยค่ะ (แต่ขอบอกถ้าซื้อกับเอเย่นใน กทม. ก็ให้ดูหน้าบริษัทฯว่า มีสัญลักษณ์ ททท. หรือใบอนุญาติประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขทะเบียน ต้องติดไว้หน้าออฟฟิศนะคะ เพราะบางเอเยนเล็กๆเปิดบริษัทบังหน้า แต่เอาเงินเราไปหมุนใช้ที่อื่น โดยไม่ออกตั๋วให้เราค่ะ เพราะนาโดนโกงเงินมาแล้ว สี่หมื่นกว่าบาทค่ะ ยังเอาเงินคืนไม่ได้เลยค่ะ (แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้คืนแล้ว ถือซะว่าทำบุญซื้อโลงศพให้ตัวเขาละนะ ได้บุญด้วย) ให้ซื้อกับบริษัทของสายการบินโดยตรงก็ได้ค่ะ ชัวร์ดี แต่แพงหน่อยนึง แต่สำหรับการบินไทยนั้นถ้าเป็นตั๋วธรรมดาชั้นประหยัด (Economy)จะต้องซื้อตั๋ว ทั้งไปและกลับนะคะ (เฉพาะการบินไทยหรือเปล่าที่บังคับ ไม่แน่ใจ สายการบินอื่นก็ขาเดียวได้นะ) กรมการตรวจคนเข้าเมือง เขาจะตรวจดูคะ เขากลัวว่าถ้าเราทำวีซ่าแต่งงานที่โน่นไม่ผ่าน เราจะไม่กลับมาเมืองไทยค่ะ แต่ว่าที่แน่ๆ ต้องถามดูทุกสายการบินนะคะ วีซ่าไปแต่งงานซื้อขาเดียวดีกว่าค่ะ
ส่วนของนาเอง ซื้อตั๋วทั้งไป และกลับ กับการบินไทย เขาไม่ให้ซื้อขาเดียว กลัวเราไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศสวิสด้วยมั๊งคะ แต่มาถึงก็ไม่เห็นมีปัญหานะ สำหรับคนที่ซื้อขาเดียวน่ะค่ะ งงๆ
แต่นาก็ผิดหวังมากๆ กับการบินไทย เพราะนาซื้อทั้งไปกลับ แต่วันกลับไม่ตรงกับในตั๋ว เพราะทำเรื่องแต่งงานไม่เสร็จ ก็เลยโทรหาการบินไทย ว่าขอเลื่อนวันเดินทางกลับไทยออกไป แต่ทางการบินไทยไม่ให้เลื่อนออกค่ะ ให้เลื่อนเข้ามาอย่างเดียว เสียใจมากๆ ค่ะ ก็เลยตัดสินใจและยอมเสียเงินขากลับให้กับการบินไทยไปเลย เพราะเขาไม่คืนเงินให้เราค่ะ ก็เลยซื้อตั๋วใหม่เลยของสายการบินดุไบ หรือ อิมิเรด Emirat ราคาก็ถูกกว่าด้วยค่ะ ปลอดภัยเหมือนกัน ก็กลับถึงประเทศไทยอย่างสบายใจค่ะ
8. ของฝากต่างๆ ที่จะเอาไปสวิส จะต้องไม่เกิน SF$300 หรือไม่เกินสามร้อยสวิสฟรังค์ค่ะ ถ้าเกินต้องเสียภาษีเพิ่มนะคะ (ถ้ามีกฎออกมาใหม่ก็ไม่แน่ใจนะ คงต้อง Search ใน Google เองนะคะ)
8.1 ถ้าเอาของฝากไปเกินสามร้อยสวิสฟรังค์ ต้องเดินออกที่ช่องสีแดงนะคะ เพราะเขาจะตรวจค่ะ
8.2 ถ้าไมเกินสามร้อยสวิสฟรังค์ ก็ให้เดินเข้าที่ช่องสีเขียวได้เลยค่ะ  เขาจะไม่ตรวจ แต่อย่าทำให้เขาสงสัยนะคะ (แต่อย่าเลี่ยงภาษีนะคะ ถ้าเขาตรวจดู จะเสีย 2 เท่าเลยนะ จะบอกให้รู้ซะก่อน หรือที่แน่ๆ ไม่ต้องซื้ออะไรไปมากมายเลยดีกว่านะ)
9. หลังจากพบแฟนเรียบร้อยแล้ว ก็จัดการคุยกันเองค่ะ ว่าจะทำขั้นตอนอะไรต่อไป โดยแฟนคุณเขาจะทราบเองสำหรับขั้นตอนค่ะ
10. เมื่อมาถึงสวิส ฯ แล้ว ไม่ยากเลยค่ะ ขั้นตอนดังนี้ค่ะ
เพราะที่นี่เขาดำเนินเรื่องไปตามเอกสารที่เราได้ยื่นเรื่องแต่งงานที่สถานฑูติไทยไว้แล้วน่ะค่ะ
มาถึงที่นี่ก็ไม่ต้องใช้เอกสารอะไรเลยค่ะ ตัวเปล่าค่ะ เพราะทางนี้เขามีเอกสารของเราหมดแล้วค่ะ
แล้วเดี๋ยวเขาจะแจ้งทางแฟนพี่สาวคุณเอง สำหรับขั้นตอนแต่งงานที่นี่ค่ะ แต่สำหรับนา นาไม่ได้จัดงานแต่งที่นี่ค่ะ แค่ไปจดทะเบียนเฉยๆ แล้วก็จะกลับไปจัดงานแต่งที่บ้านเกิดค่ะ
แล้วก็มีคนแปลภาษาเยอรมันให้  1 คน นะคะ สำหรับการไปจดทะเบียนสมรส และก็มีพยานอีก 2 คน เป็นเพื่อนของแฟนก็ได้ค่ะ เวลาไปจดทะเบียนที่อำเภอ ต้องหาคนที่พูดดอยซ์ และแปลภาษาให้เราได้ คือจ้างค่ะ 260 สวิสฟรังค์ เพราะแรกๆ นายังพูดไม่เป็นค่ะ ฮ่าๆๆ)
ขั้นตอนคือ
10.1 เมื่อคุณมาถึงสวิส ก็ไปกับแฟนค่ะ ไปแจ้งที่ในตำบลที่แฟนคุณอาศัยอยู่น่ะค่ะ ว่าได้มาถึงแล้วที่สวิสฯ (ไปแจ้งและเซ็นต์ชื่อ รู้สึกว่าจะเป็นเหมือนที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หรืออิเมเกรชั่น ประมาณนี้ละค่ะ)
10.2 หลังจากนั้น รอประมาณ 1 อาทิตย์ เขาก็จะนัดคุณไปจดเอกสารทำสัญญาที่อำเภอ นัดวันที่ทำการแต่งงาน หรือจดทะเบียนสมรส และคุณต้องการใช้นามสกุลแฟน หรือของใคร
(สำหรับนา  นาใช้สกลุของนา และก็ตามด้วยสกุลของแฟนค่ะ)
10.3 หลังจากนั้น คุณนัดวันที่จดทะเบียนหรือแต่งงานกับทางเจ้าหน้าที่อำเภอเรียบร้อยแล้ว เขาก็จะให้กลับบ้านได้ค่ะ
10.4 และคุณก็ไปอีกทีตามวันนัดนะคะ เอาล่ามแปลไปด้วย เอาพยานไปด้วย ให้คุณแต่งตัวสวยๆ (เสมือนวันแต่งงานที่บ้านเราค่ะ แต่นานุ่งกางเกงยีนต์ธรรมดาไปละค่ะ ง่ายดี เพราะมันหนาวด้วย)
10.5 ทำเรื่องสัญญาตกลงกันระหว่างคนทั้งสองฝ่าย แล้วก็ถ่ายรูปนิดหน่อย ประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ เป็นอันว่าจบ กลับบ้านได้ค่ะ
10.6 หลังจากนั้นก็ได้ใบทะเบียนสมรสกลับบ้านด้วยค่ะ แต่ต้องเอาทะเบียนสมรสไปแปลเป็นภาษาไทยด้วยนะ ที่เมืองซูริกค่ะ ราคา 105 สวิสฟรังค์ค่ะ (กลับไปไทยจะได้ไม่ต้องยุ่งการแปลอีก)
10.7 อยู่สวิสฯ ครั้งแรกก่อนทำเรื่องแต่งงานจะได้ใบพำนัก Ausweis L : Kurzaufenthaltsbewilligung für Drittstaatsangehörige
เป็นใบอนุญาตพำนักช่วงสั้นให้คุณสามารถพำนักอยู่ในสวิสได้โดยถูกต้องตามกฎหมายก่อนที่คุณจะทำเรื่องการแต่งงานเรียบร้อย
10.8 และเมื่อคุณแต่งงานเรียบร้อยแล้วคุณถึงได้รับใบพำนัก AusweisB. หรือเต็มๆ คือAufenthaltsbewilligung ค่ะ
และใบพำนัก B คุณได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกเขตภูมิลำเนาที่พักอยู่ได้ประมาณ 3 เดือนต่อระยะเวลา 6 เดือน
เกี่ยวกับการถือหนังสือเดินทางสวิส หรือ Swiss Passport คุณกลับเมืองไทยคุณไม่สามารถถือพาสปอร์ตของสวิสค่ะ เพราะคุณยังไม่ได้ขอสัญชาติสวิสและเป็นคนสวิส แต่คุณจะถือใบพำนัก B
ถ้าคุณได้รับสัญชาติสวิสแล้วคุณสามารถถือได้ 2 สัญชาติ  ประเทศสวิสอนุญาตให้เราถือ 2 สัญชาติได้ค่ะและถ้าคุณใช้หนังสือเดินทางสวิสเล่มเดียวได้ไม่มีปัญหา
** สำหรับนาถือทั้งสองอย่างเวลากลับไทย คือ  AusweisB. Aufenthaltsbewilligung ต้องโชว์ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สวิสฯค่ะ  ส่วนพาสปอร์ตไทย (Thai passport) ต้องโชว์ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่เมืองไทยค่ะ**
และสำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้เป็นพลเมืองของกลุ่ม EU-/EFTAที่เข้ามาทำงานในสวิสโดยมีสัญญาว่าจ้างการทำงาน หรือนักเรียน นักศึกษาที่เข้ามาฝึกงาน จะได้รับใบพำนัก
Ausweis L: Kurzaufenthaltsbewilligung für Drittstaatsangehörige
http://www.bfm.admin.ch/bfm/en/home/themen/aufenthalt/die_verschiedenen/ausweis_l__kurzaufenthaltsbewilligung.html
http://www.pallswiss.com/boards/index.php?topic=2725.0

11. นำเอกสารทุกอย่าง เช่นทะเบียนสมรสที่แปลเป็นไทยแล้วจากสวิสฯ กลับบ้านเรา (ไทย) เพื่อเอาไปประทับตราที่กรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศ ที่ กทม.  ค่ะ
12. เมื่อจะไปกรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศ นั้น จะต้องไปแต่เช้าๆ ให้ถึงประมาณก่อน 8โมงเช้านะคะ (นาไปถึง 7 โมงเช้า คนเพียบเลยค่ะ) เพราะเราต้องไปกำบัตรคิวค่ะ เอาเอกสารชุดที่แปลจากสวิสฯเป็นภาษาไทยแล้วให้เจ้าหน้าที่ตรวจ เขาจะนั่งอยู่ใกล้ๆ กับที่กดบัตรคิวนั่นละค่ะ เจ้าหน้าที่จะถามคุณว่า ต้องการด่วนวันนี้ หรือมารับทีหลัง ให้เอาด่วนเลยนะคะ เพราะจ่ายเพิ่มอีกแค่ 200 บาทเอง (รวมเป็น 400 บาท) ไม่มากใช่ใหมละคะ ใครก็จ่ายได้น่ะ แหมก็จะมารับอีกทำไมให้เสียเวลา เหนื่อยเปล่าๆ รถก็ติด คนก็เยอะ ร้อนก็ร้อน ก็ยอมจ่ายไปซะ ช่วงที่เรารอเอกสาร เพราะจะได้ประมาณบ่ายๆนะ
คิวมันยาว เราก็พาแฟนไปเดินเล่นตามสวน รอบๆ นั้นละค่ะ จะได้ไม่ต้องนั่งรอ บ่ายๆก็แวะมาดูว่าถึงคิวของเราหรือยัง แค่นั้นก็จบ
13. หลังจากประทับตราที่กระทรวงการต่างประเทศเสร็จแล้ว ก็เอาเอกสารกลับไปบ้านเกิดที่อำเภอเราค่ะ เพื่อไปเปลี่ยนนามสกุล ทำบัตรประชาชนใหม่
สำหรับการทำพาสปอร์ตไทยเล่มใหม่นั้น จะทำทีหลัง เป็นขั้นตอนสุดท้ายเลยนะคะ คือหลังจากเปลี่ยนบัตรประชาชนใหม่ เปลี่ยนชื่อ สกุล (ของเรา หรือใช้สกุลของแฟน) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเท่านั้นนะคะ ถึงจะเปลี่ยนได้
(สำหรับนา เพิ่งจะไปเปลี่ยนมาหลังจากอยู่สวิสฯ มาได้ 1 ปี หรือเสร็จเรื่องทุกอย่างแล้วค่ะ )
ก็เป็นอันว่าจบขั้นตอนการทำเรื่องเอกสารแต่งงาน ขอให้โชคดีทุกๆ คนนะคะ บ๊าย ค่ะ


สำหรับการนำโน๊ตบุ๊คมาใช้ค่ะ
สำหรับนา นาก็เอาโน๊ตบุ๊คมาใช้ที่นี่เหมือนกันจ๊ะ สำหรับปลั๊กไฟหัวแบน แฟนก็จัดการดัดแปลงเป็นปลั๊กหัวกลมให้  (ปลั๊กเมืองสวิสฯ มันไม่เหมือนบ้านเรา ไม่หลากหลายว่างั๊นเถอะ ต้องดัดแปลงเอง)
แล้วเสียบเข้าใช้กับปลั๊กที่บ้านได้เลย (เพราะแฟนทำงานด้านวิศวะค่ะ เขาก็เลยดัดแปลงหลายๆอย่างในบ้านเองได้ค่ะ) แล้วค่าอินเตอร์เน็ตแฟนก็เหมาจ่ายเป็นรายเดือนค่ะ เดือนนึงก็ไม่เกิน 45-50 ฟรังค์หรอกค่ะ เปิดใช้ได้ทั้งวันทั้งคืนค่ะ แล้วอีกอย่างระบบก็เร็วมากๆ โหลดอะไรก็ได้เร็วค่ะ ไม่ช้าเหมือนบ้านเรานะ แล้วอีกอย่างก็ดูละครไทยช่อง 5 TGN หรือถ้าอยากฟังพระเทศก็ช่อง DMC เลยคะ 
ส่วนค่าโทรศัพท์ที่โทรกลับบ้านที่ประเทศไทย ก็จัดการโหลดเวปไซด์ที่โทรถูกๆ นี้เลยค่ะ http://www.10787.ch/index2.php
ลองดูนะคะ เพราะว่าโทรเป็นชั่วโมงจ่ายแค่ไม่ถึง 2 สวิสฟรังค์ค่ะ
ก็ลองทำวีซ่าดูด้วยตัวเองนะคะ เรื่องวีซ่า ไม่ยาก ถ้าเรามีเอกสารครบถ้วน และหนักแน่นทุกอย่างค่ะ
หรือเขียนเมลล์มาถามนาก็ได้ค่ะ ที่นี่นะคะเพราะการช่วยเหลือกัน เป็นสิ่งที่ดีค่ะ
โชคดี บายจ๊ะ  "นา

ปล. ส่วนภาษาดอยซ์ (เยอรมัน) นาเรียนที่ มิโกร (Migro klubschule) ค่ะ
http://www.klubschule.ch/de/sparten/angebote/sprachen/deutsch/kursliste.aspx?spartenselection=alle&mid=b798a9f1-122d-4c32-9891-503304489670
:D    ;)

angelii

คุณนาคะ สรุปว่าเราไม่ต้องทำประกันการเดินทางจากที่ไทยไปใช่มั้ยคะ

คือเพิ่งยื่นเรื่องทั้งหมดเสร็จไปเมื่อวันที่ 1 เมษา นี้เองค่ะ

แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับประกันเหมือนตอนที่วีซ่าเยี่ยยมเยียนเลย

แล้วที่คุณนาเรียนที่มิโกรเค้าสอนเป็นยังไงบ้างคะ  สอนโดยใช้ภาษาอังกฤษหรือเยอรมัน

ตอนนี้ฟางเรียนภาษาเยอรมันรอไปพลางๆในไทยอยู่น่ะค่ะ

แต่คิดว่าคงไปลงเรียนซ้ำที่โน่นอีก  เพราะอยากเรียนกับครูเจ้าของภาษา

ครูไทยจะได้สำเนียงไทยกลับมาตลอด  รู้สึกเหมือนตอนเด็กๆที่เรียนอังกฤษแบบสำเนียงไทย

เวลาคุยกะฝรั่งจะไม่ค่อยรู้เรื่องอ่ะ 555++