เรื่องเล่า Visitor Visa

Previous topic - Next topic

kurumi

สวัสดีครับ พี่ๆทุกๆคนในบอร์ดนี้ผมเป็นหนึ่งคนที่ชอบเข้ามาอ่านเพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในบอร์ดยอมรับว่า ได้ความรู้มากๆครับ
และพี่ๆ ทุกๆคนใจดีมาก อ่ะๆๆ มาเข้าเรื่องเลยละกันน่ะครับ

ตัวผมเองเพิ่งได้ไปยื่นขอวีซ่าเยี่ยมญาติ โดยญาติคือคุณแม่บังเกิดเก้าของผมเอง คิคิ ผมอายุ 19 ปีเศษๆ ตอนนี้เพิ่งเรียนจบ
ปวช.  แหละว่างเลยอยากไปเที่ยวหาคุณแม่ถ้าเอาจิงๆ โดยคุณคุณพ่อ<เลี้ยง>เป็นคนกระรันตีก่ะว่าจะ ทำวีซ่าเยี่ยมญาติไปก่อนแล้วจะไปต่อ วีซ่า เรียนภาษาที่นูน ตัวผมเองเคยไปสวิสเมื่อ 6 ปีที่แล้ว นานมั้ยเนี่ย -*-
ไม่รู้จะยากมั้ย T^T นี้คือแผนที่ผมวางไว้ เริ่มขั้นแรก ผม ได้ไปยื่นเรื่องขอวีซ่า เมื่อวัน 14 สิงหาคม 2551 ตอนแรกทำใจ
เรื่องบริการไว้แหละคับ พอไปเจอก่ะตัวจิงๆ นี้รู้เลยว่าแย่มากๆ การพูดจาเหมือนจะฆ่ากันชัดๆ รู้สึกไม่ดีเลย
เอกสาร ที่ผมยื่นไป

1. หนังสือเชิญ
2. ใบคำร้องขอวีซ่า
3. พาสปอร์ต พร้อมสำเนา
4. สำเนาบัตรประชาชน
5. สำเนาทะเบียนบ้าน
6. สำเนาพาสปอร์ตของผู้เชิญ ผมยื่นทั้ง ของคุณพ่อ และ คุณแม่ของผม เป็นพาสปอร์ตสวิสทั้งคู่
7. สำเนาทะเบียนบ้านของคุณแม่ที่สวิส   เป็นบ้านของตัวเองไม่ได้เช่าครับ
8. ตั๋วเครื่องบิน ของผมเป็นตั๋วจิงๆ  เป็นตั๋วปีของการบินไปเพราะก่ะไปแล้วจะขอวีซ่าต่อที่นูน

พอยื่นเอกสารเสร้จ โดนสอบถามเยอะมาก ที่หลักๆๆ เขาถามผมเกี่ยวกับพาสปอร์ต ผมปั้มว่าผมเคยออกไปเที่ยวที่
ปอยเปตบ่อยมาก เค้าถามไปก่ะใครแล้วไปทำไม ผมงงมากแล้วมันเกี่ยวอารายด้วยมันผิดด้วยเหรอที่จะไปเที่ยว
เฉยๆ ผมก็ตอบว่า ไปกับคุณพ่อทุกครั้ง เพราะคุณพ่อชอบไปเที่ยวที่นูน พอตอบอย่างงี้เค้าก็เลยขอเอกสารเพิ่มเติมอีก
เป็นพาสปอร์ตของคุณพ่อที่ออกไปเที่ยวพร้อมกัน และหน้าที่ปั้มออก เอาแล้วครับงานเข้าแล้วที่นี้เพราะพาสปอร์ต
ของคุณพ่อผมเพิ่งหายไปเดือนที่แล้ว เค้าก็เลยขอเป็นใบแจ้งความแทน และขอสำเนาการจบปวชอีกด้วย
ให้แฟกซ์ตามมาในวันต่อไป

จากตอนแรกมีความหมั้นใจจะได้ไปแน่นอน เพราะตัวเองเคยไปมาแล้วแล้วคนรับรองก็คนเดิม กลายหมดหายไปครึ่งนึง
เจอเรื่องที่ออกไปเที่ยวปอยเปรต ผมงงมากทำไมถึงต้องมาซักผมเรื่องนี้ ตอนนี้ขับรถผ่านศาลเจ้าที่ใหนก้อไหว้ขอพร
ให้ความฝันได้ไปถึง ฝั่ง จิงๆ  แล้วเรื่องที่เจ้าหน้าที่ถามผมอีกเรื่องที่ งง สุดๆ เคยไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว แล้วในระยะเวลา
6 ปีที่ผ่านมาทำไมไม่เคยไปอีกเลย ทำไมมาตอนนี้ถึงจะไปอีกมีเหตุผลอาราย ผมงง สุดๆกับคำถามนี้
ก้อเลยตอบไปว่า 6 ปีที่ผ่านมาคุณแม่บินกลับมาหาตลอด แล้วที่จะไปตอนนี้เพราะคุณแม่เห็นว่าผมว่างเลยจะชวนให้ผม
ไปหา ตอนนี้ท้อแท้มากเพราะ มันต่างกับไปรอบแรกมาก รอบแรกไม่มีอารายเลยพอมาเจอรอบนี้โดนเป็นชุดๆ
ถ้าไม่ไปได้ก็ หมดแรงที่จะทำอารายต่อไปเลย เพราะตั๋วเครื่องบินก้อซื้อไว้แล้วเป็นตั๋วปีสะด้วย T^T


อย่างไงก้อขอกำลังใจจากพี่ๆ ทุกๆคนด้วยน่ะงับ ผมไปรับผลวีซ่า วันจันทร์ที่ 18 นี้
แล้วอย่างไงผมก้อมาเล่าต่อน่ะคับ



พี่น้อย

เห็นด้วยเลยค่ะกับการสัมภาษณ์ที่แย่มากๆ เกิดมาเพิ่งเคยเจอการสัมภาษณ์อย่างนี้ พี่ก็ปลงกับ
ที่นี่เหมือนกัน ไม่ทราบว่าพวกเค้าถูกฝึกมาให้เป็นอย่างนี้หรืออย่างไร อย่างกับเราจะเข้าไปวางระเบิดในประเทศสวิสแน่ะ อีกใจก็สงสารชีวิตครอบครัวเค้าคงไม่มีความสุขน่ะ เลยมาระบายตอนทำงาน

สำหรับน้องพีว่าน้อง ได้วีซ่าค่ะ ถ้าเค้าขอเอกสารเพิ่มอย่างนี้ ขอให้โชคดีค่ะ

kurumi

ช่ายๆๆ. . .

ผมเราจะเข้าไปวางระเบิดประเทศ สวิตพูดจาแย่มาก
อีกแค่ 9 ชมเดียวผมก็รุ้ผลแหละวีซ่าแหละ ตื่นเต้นมาก

เดียวอย่างไง ผมจะมารายงานผลน่ะครับ

พี่น้อย

พี่จะไปที่เจนีวา วันที่ 31 นี้
ถ้าน้องได้ รวมเป็นระเบิด 2 ลูก ฮ่า ๆๆๆ

kurumi

โอ้ยๆๆๆ เหนื่อยมากเลยครับ

วันนี้ไปฟังผลด้วยความตื่นเต้น พอถึงยื่นใบขอรับผล แต่พนักงานบอกว่า เรื่องของผมยังไม่พิจารณาเนื่องจาก เอกสารที่ผมแฟกซ์
ไปเขาไม่ได้รับ ให้แฟกซ์มาใหม่และรออีก 2 วันผม งงมาก วันนั้นผมแฟกซ์ไปแล้วจิงๆ แต่เมื่อโทรไปเช็คแฟกซ์เค้าบอกเจ้าหน้าที่
ไม่อยู่ ผมก็คิดว่าไม่น่ามีปันหาเพราะผมโนตเอาไว้แล้วว่าถึงใคร

ตอนนี้เหนื่อยมากนั่งรถไปนั่งรถมา  เรื่องของผมก็ยังไม่เดินเลยเหนื่อยๆ
ก็คงเป็นวันพุธอ่ะคร้าบ ไม่รู้จะทันไปวันที่ 30 หรือป่าว

แหละจะมีโอกาสได้ไปวางระเบิดกับพี่น้อย มั้ยเนี่ย
T^T

พี่น้อย

น้องชายจายเย็นๆ

ลองส่งไปให้เค้าใหม่ เวลาส่งให้เครื่อง fax copy สิ่งที่เราส่งมาด้วย มันจะมี time stamp
ว่าเราส่งไปวันเวลาเมื่อไหร่ เอาไว้เป็นหลักฐาน อย่าลืม ต้อง att ถึงใครตัวโตๆ นะจะได้ชัด
ตอนนี้ก็ไหว้พระ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซะ
พี่ว่าได้ไปแน่ เพราะถ้าเค้าไม่ให้เค้าจะปฏิเสธ ทันที

โชคดีค่ะ ทำใจให้สบาย

kurumi

โอ้ยๆๆๆ

เหนื่อยมาก กับการขอวีซ่า ของผมสรุปว่า ไม่ผ่านน่ะงับ ด้วยเหตุ เหตุผลไม่น่าเชื่อ ผมก็ไม่รู้แล้วว่าจะ เอาเหตุอารายแล้วเนี่ย
กับการขอไปเยี่ยมแม่ เนี่ยมันไม่เพียงพอเหรอ

เซงๆ
แต่ไม่เปงไร อย่าไงผมจะยื่อุธร เสียเงินอีกรอบก้อม่ายเปงไร ถึงตีลูกให้ถึงดวงจันทร์ถ้าพราดก็อยู่ทามกลางดวงดาว

แต่เหนื่อย ท้อแท้มาก แต่ยังไม่เลิกล้มความพยายามครับ

พี่น้อย

อะไรกันเนี่ย reject ด้วยเหตุผลไม่น่าเชื่อถือ น่ะนะ ความเชื่อของคนเอาอะไรมาวัดฟะ
เอกสารที่เค้าขอเพิ่มก็ให้ไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ เฮ้อเหนื่อยแทนเลย

เห็นด้วยค่ะ ยื่นอุธทรณ์ไปเลยให้ได้รู้เหตุผลที่แน่ชัดว่าอะไรกันแน่ ว่าไม่น่าเชื่อถือตรงไหน

ถ้าพอมีเวลา ลองเตรียมเอกสารดังนี้ไปด้วย

-เอกสารการเสียภาษีของคุณพ่อ คุณแม่ ที่สวิส ให้ท่านแฟกซ์ หรือ mail มาก็ได้
-statement ที่เป็นสำเนาหรือตัวจริงก็ได้ให้เค้าส่งมาให้

ทั้งนี้เพื่อยืนยันฐานะการเงินของผู้เชิญว่าสามารถดูแลเราได้ในระหว่างอยู่ที่นั่น

พี่จะคอยเอาใจช่วยนะคะ ลองดู แต่อย่าเครียดนะ เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ
ได้ผลอย่างไรส่งข่าวด้วยเน้อ รอลุ้นด้วยคน
ขอให้โชคดีค่ะ

ดวงเด่น

อ่านแล้วเข้าใจถึงความรู้สึกเลยคะ เพราะ ยื่นอุทรณ์ก็ไม่ผ่านเหมือนด้วย ทุกอย่างไม่มีมาตรฐานให้การตัดสินหลอกคะ เรื่องแบบนี้แล้วแต่ดวงว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน ที่ขอไว้ก็ทำเรื่อง เยี่ยมญาติ แต่แฟนทำให้ มีญาติ Refer เค้าอยู่สวิสกว่า 10 ปีแล้ว ยังไม่ผ่านเลย และหน้าที่การงาน บริษัทก็ใหญ่มาตรฐานสากล  เงินเดือนที่โชว์ที่เมืองไทยก็มั่นคง  เค้ายังไม่สน แล้วทำไมบางคน ไม่มีงานที่แน่นอน หรือตกงานไรแบบนี้ ยังผ่านเลย. . แปลก คะ ถึงบอกว่าแล้วแต่ดวง มีเคสหนึ่งพี่คนหนึ่งที่รู้จัก มีวงเงินโชว์เป็นล้าน เข้าประเทศอังกฤษ อเมริกามาแล้ว แต่ทำของสวิส ไม่ผ่าน งงงงคะ . . . .  เรื่องแบบนี้แล้วแต่ดวงคะ  ทำได้อย่างเดียว. . . .  ทำจายยยยยยยยยยย . . . . . . . . . 

kurumi

สวัสดีครับ  พี่พี่ทุกๆคนขอบคุณสำหรับความเห็นแหละกำลังใจ


วันนี้ผมไปยื่นอุธรมา เค้าก้อไม่ถามอารายรับแต่เอกสารแหละบอกให้รออีก 2 เดือน
ง่ายจังเนาะ -*-

ผมว่ามันแล้วแต่ดวงจิงๆ เพราะบ้างคน ทำเล่นๆดันผ่าน ตอบก้อไม่คอ่ยได้อำๆอึงๆ แต่ก้อดันผ่าน
เหตุผลของผมคือไปหาแม่ ผมไม่ได้ไปหาแฟน มันน่าจะเป็นไปได้มากแต่มันก้อไม่ผ่าน
ภาษาอังกฤษผมก้อพอได้ งงไปหมดแล้วมาตรฐานมันหายไปใหนก้อม่ายรู้ไม่เหมือนก่อน

ขึ้นอยุ่กับคนเชิญจะมีสถานะภาพทางการเงินเพียงพอที่จะรับรองเข้าประเทศได้หรือป่าว
เดียวนี้อารายก็ไม่รู้ เน้นแต่ดวง หรือป่าว

BUAKAO

ไม่รู้จะแนะนำยังไงนะค่ะ เพราะเอกสารที่ยื่นไปก็สุด สุดแล้วค่ะ ที่เราขอเมื่อหกปีก่อนไม่เห็นยากแบบนี้ค่ะ ยื่นพาสปอร์ต รูปถ่ายเท่านั้น แล้วเขาจะเอาแบบฟอร์มให้ ให้ส่งมาให้แฟนที่สวิส ให้แฟนไปเดินเรื่องเอง สำหรับเราก็กลับไปรอที่บ้าน ประมาณเดือนหนึ่งเขาก็โทรศัพท์บอกว่าให้มารับวีซ่าได้ ไม่มีการสัมภาษณ์เลย ที่ได้เป็นวีซ่าสามเดือน พอมาถึงก็มาแต่งงานที่นี้ แล้วก็อยู่มาจนถึงทุกวันนี้ เขาใจว่าการขอวีซ่ามันน่าเบื่อ ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม หนึ่งเสียเวลามานั่งรอ เสียเงิน

แต่เท่าที่อ่านดูตอนนี้ท่าทางขอยากมากเลย ขนาดว่ายื่นเอกสารขนาดนี้ยังไม่ได้ ก็ไม่รู้เข้าใจเหมือนกันว่าเขาใช้หลักการพิจารณาอะไรยังไง งง เช่นกัน ???

kurumi

เมื่อวานก่อน

แม่ผม ได้ไปถามเพื่อนๆ ที่นูนเกี่ยวกับการทำวีซ่า มาสวิตเดียวนี้เค้าเปลี่ยนให้ยากขึ้น 80 % จะขอไม่วีซ่า
สว่นคนที่ผ่านส่วนใหญ่จะเคยไปแล้วหลายๆครั้งแล้วกลับตามกำหนดตลอด

ตอนนี้เปลี่ยนใหม่การยื่นอุธรจะให้คนรับรองไปเดินเรื่องเอง แล้วถ้ารับรองคนจากเมืองไทยมาแล้ว กลับไม่ตามกำหนด
คนรับรองให้มาจะมีความผิดด้วย ไมสามารถรับรองใครได้อีก

ผม งงๆ ไปเลยทำไมเดียวนี้มันเป็นอย่างงี้ไปหมด

ตุ้ม

ผู้เชื้อเชิญคุณเคยเชื้อเชิญใครที่ไม่ทำตามเงื่อนไขของวีซ่าที่ขอมาหรือเปล่าคะ อาทิเช่นอยู่เลยกำหนดของวีซ่าที่ขอมาหรือไม่กลับประเทศ ฯลฯ

เมื่อตอนที่ขอวีซ่าเชิญให้เพื่อนมาเที่ยวเมื่อเดือนที่แล้วและเดือนนี้ก็ต้องเขียนจดหมายเล่ารายละเอียดให้สถาณฑูตว่าได้เคยเชิญใครมาบ้างและเมื่อไรและมีความสัมพันธ์กับผู้รับเชิญอย่างไรเพื่อสถาณฑูตจะได้ตรวจประวัติของผู้เชื้อเชิญค่ะ  คุณลองขอคำตอบจากสถาณฑูตดูซิคะว่าทำไมจึงปฎิเสธ  เห็นใจคุณจริงๆ  ขอให้โชคดีในการขอครั้งใหม่นะคะ

Api

ขอแชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าค่ะ ได้ยื่นวีซ่าเยี่ยมเยือน ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมค่ะ กระบวนการไม่ยุ่งยาก แต่ว่าตอนสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่ที่ว่าดุๆ ได้สัมภาษณ์ระเอียดยิบ สัมภาษณ์เป็นภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เราก็ตอบ ตอบ ตอบ เจ้าหน้าที่บอกเราว่าที่ถามละเอียด เป็นหน้าที่และต้องการทราบให้แน่ใจถึงความสัมพันธ์ เราและผู้เชิญ เราก็เข้าใจ เป็นหน้าที่ เหมือนเราทำงานฝ่ายบุคคล เวลาที่เราสัมภาษณ์ เราก็อยากได้ข้อเท็จจริง  เรา ไม่ต้องโชว์ Book bank เพราะว่ามีจดหมายเชิญ พร้อมกับรับรองค่าใช้จ่าย 30,000 ฟรังก์สวิส แต่ว่าจดหมายเชิญไม่ได้ระบุว่าเคยเชิญใครที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงให้ส่งมาให้ใหม่ เราจึงโทรให้ผู้เชิญ Fax มาให้เจ้าหน้าที่ ต้องระบุชื่อเจ้าหน้าที่คนที่สัมภาษณ์เรา ส่งภายในวันนั้น เพราะเจ้าหน้าที่สถานทูตดันบอกว่า ให้มารับผลภายใน 2วันทำการ แต่จะต้องได้เอกสารครบภายในวันนี้ เราก็ทำตามทุกอย่าง 2 วันต่อมาเราก็มารับผล ก็ได้ passport และมีซองจดหมายพร้อมเอกสารให้เราส่งไปให้ผู้เชิญดำเนินการที่สวิส ประมาณ 10 วัน (อันนี้ขึ้นอยู่กับการทำงานของแต่ท้องถิ่น และผู้เขิญเสียภาษีครบหรือไม่)  หลังจากนั้นก็ไปยื่นpassportอีกครั้ง และ 2 วันทำการก็มารับผล ปรากฎว่า ได้รับวีซ่าให้อยู่ได้ประมาณ 40 วัน เราจึงซื้อตั๋วเครื่องบิน  รวมระยะเวลาการขอวีซ่า 6-7 สัปดาห์ไปสถานฑูตทั้งหมด 4 ครั้งค่ะ ไม่ยุ่งยาก แต่เหนื่อยที่ขับรถเข้ากรุงเทพค่ะ

สำหรับคุณ kurumi อย่างไรก็ขอให้ได้วีซ่านะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

Kasemsri

I have not much knowledge about the visitor visa, but...anyway wish you luck and get sucess to visit your mommy naka