News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่



ตอบคำถาม

Previous topic - Next topic

pall

สวัสดีค่ะป้าพอล  
 
 วันนี้มีโอกาสเลยรีบเข้ามาถามความขอ้งใจที่อยากจะรู้มานาน....ถ้าป้ามีเวลาก็ตอบส้มตำดว้ยนะคะ...แต่ไม่ต้องรีบร้อนหรอกค่ะ....ขอบคุณล่วงหน้ามากๆเลยนะคะ  
 
 คือส้มตำอยากจะรู้เรื่องภาษีของคนที่มีกิจการเป็นของตัวเอง...ไม่ได้เป็นลูกจ้างใคร...เอาง่ายๆนะคะน้องสาวสามีอายุสามสิบสาม....เรียนจบช่างภาพมา...แล้วเขาเดินสายหางานเองหาลูกค้าเองไม่ได้เป็นลูกจ้างใคร...มาสามปีแล้ว...ที่ส้มตำรู้มาก็บางทีมีงานก็มีมากจนรับไม่ใหว...บทจะไม่มีก็เกือบเดือนก็ยังไม่มี...ฉะนั้นรายได้เขาก็ไม่คงที่...แล้วถ้าเป็นแบบนี้เขาจะเรียกเก็บภาษีรายได้แบบใหน???บางคนอาจจะคิดว่าทำไมไม่ถามเขาโดยตรงว่าเขาโดนหักภาษีแบบใหน???อยากถามค่ะแต่สามีไม่ให้ถาม..เพราะเขาบอกเรื่องสว่นตัวของเขา....แต่เขาก็เป็นหว่งน้องสาวเขาเหมือนกันตอนไม่มีงานเข้ามา....เพราะเขาพึ่งจะเป็นมือไม่และยังไม่ดังมากเท่าที่ควร....เขาเป็นช่างถ่ายภาพโฆษณานะคะ...ที่รู้ๆเขาก็ได้รับว่าจ้างจากบริษัทดังๆหลายบริษัทเหมือนกัน...แต่งานถ่ายภาพโฆษณามันก็มีเป็นบางโอกาสที่เขาว่าจ้าง....ฉะนั้นส้มตำเลยอยากจะถามป้าว่า..เขาหักภาษีรายได้แบบใหน???เขาเฉลี่ยรายได้ของเราจากอะไร???ถ้าป้าไม่ยุ่งๆก็เข้ามาตอบดว้ยนะคะ..ขอบคุณล่วงหน้าคะ
 
 ส้มตำ

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0535 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

pall

 
 สวัสดีจ๊ะสัมตำ
 
 เพิ่งจะเข้ามาจับคอมจนเกือบจะตี1
 รอให้ว่างอีกนิดจะเข้ามาเขียนเกี่ยวกับ
 ธุรกิจส่วนตัว...ผลดี...และผลไม่ดี...
 ..หรือ...ประกันสังคมต่างๆที่ได้รับ
 รวมทั้งการจ่ายภาษี
 
 
 
 **งานส่วนตัว...กับการจ่ายภาษี**
 
 ขอบอกก่อนว่าการตอบนี่ยากมากๆและซับซ้อน
 เพราะกิจการส่วนตัว..แตกต่างกันหลายอย่าง
 และการประกอบอาชีพก็แตกต่างกันไป
 บางอาชีพไม่ซับซ้อนแต่บางอาชีพ...ยุ่งวุ่นวาย
 
 อาชีพส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นกิจการค้าพาณิชย์
 อาชีพรับเหมาก่อสร้าง
 อาชีพจิปาถะทั่วๆไป.......ฯลฯ  
 
 **ขอตอบแบบสั้นๆ....**
 
 
 ป้าขอตอบคำถามที่ถามมาสั้นๆแบบคุยกันธรรมดา
 ไม่ต้องใช้คำยุ่งยาก...ให้พอได้ใจความก่อนนะจ๊ะ
 
 
 
 **อาชีพทุกอาชีพที่นี่ไม่ว่าส่วนตัวหรืออาชีพอะไร...***
 
 ทุกคนที่อยู่ในSwitzerland
 ถ้าทำงานมีรายได้เมื่อไรต้องจ่ายภาษีกันทุกคน.
 ไม่ว่าจะทำธุรกิจส่วนตัวหรือเป็นลูกจ้าง
 หรือได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล
 หรือเงินอะไรที่ได้รับมาต้องแจ้ง
 เสียภาษีทั้งนั้น.
 
 
 หรือคนที่ไม่ได้ทำงานอะไร
 ได้รับเงินเลี้ยงดูจากรัฐบาล
 เมื่อมีรายได้เข้ามาเมื่อไรเราจะต้องแจ้งยอดเงิน
 รายรับที่เราได้รับมาต่อSteuerverwaltung des Kanton...
 เขตที่ตัวเองอยู่.....
 (การทำงานหักภาษี...กี่%...ทุกKanton จะแตกต่างกัน)
 และเขตที่อยู่Geminde ก็แตกต่างกันด้วย
 
 สมัยก่อนการจ่ายภาษีจะเป็นการรวบยอดรายรับที่หาได้มา
 2ปีรวมกัน....ปัจจุบันจะจ่ายภาษีย้อนหลังปีละครั้ง
 จากปีที่แล้วที่ผ่านมา
 
 ทุกๆปีทางSteuerverwaltung des Kanton...
 เขตที่ตัวเองอยู่.....
 ประมาณเดือนมกราคมทางSteuerverwaltung des  
 Kanton...เขตที่ตัวเองอยู่.....หรือเขตที่อยู่Geminde  
 จะส่ง Formula ให้เรากรอกข้อความ
 แจ้งรายรับที่ได้รับมาจากปีที่แล้วทั้งหมด
 และเราต้องคืนกลับไปประมาณเดือนมีนาคม
 ไม่ทราบว่าทุกKanton...เหมือนกันไหม
 ของป้าต้องส่งกลับคืนสิ้นเดือนมีนาคม
 ถ้าเลยกำหนดจะโดนปรับ.
 หลังจากนั้น
 ทางSteuerverwaltung des  
 Kanton...เขตที่ตัวเองอยู่.....
 ก็จะคิดภาษีว่าเราจะต้องจ่ายให้เท่าไร.
 
 
 เดือนมกราคม 2005ที่ผ่านมา
 ป้าคิดว่าทุกคนต้องได้รับ Formula
 ที่ทาง Steuerverwaltung des Kanton...
 เขตที่ตัวเองอยู่.....ส่งมา
 ให้กรอกรายได้ของปี2004เพื่อส่งคืน
 ไปยัง Steuerverwaltung des Kanton...
 เขตที่ตัวเองอยู่.....
 
 **ระหว่างรอ....การจ่ายภาษีจริง*
 แต่ละKanton จะมีการทำงานไม่เหมือนกัน
 การจ่ายเงินจากการประเมินรายได้คร่าวๆ
 
 เราจะต้องจ่ายภาษีประเมินจำนวน...3หน...
 เป็นการจ่ายภาษีประเมินของKanton
 ที่ให้เราจ่ายเช่น
 
 1Rate จะเป็นช่วง Juli-August
 
 
 2Rateจะเป็นช่วง Oktober
 
 
 3Rateจะเป็นช่วง December
 ซึ่งเป็นการคิดภาษีจริงๆที่เราต้องจ่ายให้
 Steuerverwaltung des Kanton...
 เขตที่ตัวเองอยู่.....
 
 **บางคนอาจจะได้รับเงินคืนหรือ
 บางคนอาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก**
 
 
 

pall

**คำตอบที่ถามมา**
 
 1.เรื่องการจ่ายภาษี
 
 ไม่ทราบว่าน้องทำการกรอกภาษีเองหรือให้ทาง
 Treuhandbüro ทำให้
 การหักภาษีของน้องก็เป็นการหักภาษีรายได้
 เหมือนคนอื่นๆทุกๆคนที่มีรายได้ทั่วๆไป
 
 เขาจะต้องแสดงรายรับ
 หรือแสดงรายจ่ายที่รวมยอดประจำปีให้ทาง
 Steuerverwaltung des Kanton...
 เขตที่ตัวเองอยู่......ให้เขาดู
 
 
 การกรอกภาษีสมัยนี้สบายมาก
 ทาง  
 เขาจะส่ง Formula
 พร้อมใบคู่มือเอกสารที่ช่วยในการกรอกข้อความ
 ที่เรียกว่า Allgemeine Wegleitung
 และ
 Zusatz-Wegleitung
 
 บางแห่งจะมีการแจกซีดีรอมให้เราเปิดดูตัวอย่าง
 ช่วยในการกรอกเอกสาร.
 **สำหรับคนที่ทำงานเป็นลูกจ้าง...การกรอกง่ายมาก**
 เพราะรายรับคงตัวทุกเดือน.
 ตอนสิ้นปีเขาจะได้รับ
 Lohnausweis
 รวมยอดประจำปีรายรับนำมาแสดงภาษี
 
 *****เป็นอันว่าน้องสาวของส้มตำต้องเสียภาษีเหมือนคนทั่วๆไป**
 หรือแสดงภาษีเหมือนคนทั่วๆไป
 
 ..............เพียงแต่จะมีบางอย่าง
 ที่น้องของส้มตำมีสิทธิพิเศษในการขอลดหย่อนภาษี
 ป้าจะยังไม่ขอเอ่ยถึงเพราะถ้าเขียนจะยาวกว่านี้.
 
 ............................
 
 2.ธุรกิจส่วนตัวบางครั้งก็มีงานล้นมือ
 บางครั้งก็ไม่มีงานทำเลย....
 อาชีพธุรกิจส่วนตัว
 บางเดือนก็มีเงินเข้ามาก
 บางเดือนไม่มีเลย...แบบนี้ต้องรู้จักการเก็บเงิน
 เพื่อใช้จ่ายยามไม่มีรายรับเข้ามา.
 
 **ประกันสังคม**
 คนที่ทำงานส่วนตัวตกงาน
 หรือไม่มีรายรับเข้ามาเลย
 แบบนี้ถ้าไม่มีเงินสำรองอดตายลูกเดียว
 
 เพราะไม่สามารถ
 ไปปั๊มแสตมป์คนตกงานเหมือนคนทำงานเป็นลูกจ้าง
 ทั่วๆไปได้.
 
 ไม่ทราบว่าน้องของส้มตำทำประกันตกงานหรือเปล่า
 การทำประกันแบบนี้แพงมาก
 ถ้าน้องส้มตำทำไว้ประกันจะจ่ายเงินในวงเงินที่ทำไว้
 หรือถ้าประสพอุบัติเหตุทำงานไม่ได้
 ประกันก็จะจ่ายเงินให้จนกว่าสามารถทำงานได้
 ซึ่งอยู่ในวินิจฉัยของแพทย์
 

pall

**สรุป**
 
 น้องของส้มตำต้องกรอกภาษีรายรับรายจ่าย
 ที่ต้องกรอกรวมยอดประจำปีเหมือนคนที่ทำงาน
 มีรายได้ทั่วๆไป
 
 เขาจะเฉลี่ยรายได้ทั้งหมดที่ได้รับมาตลอดทั้งปี
 จะนำมากรอกใน Formulaที่
 Steuerverwaltung des Kanton...
 เขตที่ตัวเองอยู่.....ให้มา
 
 **น้องของส้มตำต้องรู้จักสะสมเงิน**
 ตอนที่มีงานเข้ามาเพื่อใช้จ่ายยามไม่มีงานทำ
 จนกว่าจะมีรายได้เข้ามาอีก...
 
 **ถ้าส้มตำยังงงไม้เข้าใจเข้ามาถามใหม่ได้นะ**
 
 ป้าเขียนเองตอบเองยังงงเองเลย
 

ส้มตำ




สวัสดีค่ะป้า
 
 ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาให้รายละเอียด...ภาษีของครอบครัวส้มตำไม่มีอะไรยุ่งยาก..เพราะเรามีรายได้จากที่เดียวกันและไม่มีอหังสาริมทัพร์ให้หักลบ....แต่ของนอ้งสาวสามีเราก็มีความเกี่ยวข้องกันจนต้องน่าเป็นหว่ง...เปิดทำกิจการเองโดยที่ไม่มีทุนรอนมากอ่น....ทำเครดิตก็ดอกแพง....พี่นอ้งเลยให้เงินกันยืมไปทำก่อนโดยไม่มีดอก....และก็ขอให้ทยอยใช้คืนให้...คือพี่สาวคนโตที่ยังไม่มีครอบครัวเป็นคนให้ยืม...และพี่สาวเลยเสนอตัวเป็นบุคฮาลตุงให้....พี่แกก็เป็นหว่งเพราะรายได้ไม่คงที่ต้องประหยัดมากๆเลยถึงจะตั้งตัวได้และแกก็เป็นนายทุนให้แกเลยเข้มงวดเรื่องรายจ่ายรายรับ....พี่สาวกับน้องสาวมีความคิดที่แตกต่างกันเลยยมีเรื่องมาเล่าให้พวกเราฟัง....ส้มตำก็เลยได้มีสว่นรว่มในการรับรู้ของปัญหา....หลังจากนั้นเขาก็ให้ทรอยฮันบูโรทำรายรับรายจ่ายให้....แม่ของเขาที่แก่แล้วก็เทียวมาหารือบอกเป็นหว่งลูกสาวคนเล็กของเขา...สามีของส้มตำเลยบอกอยากจะลองทำบุคฮาลตุงให้นอ้งรองดูไม่รู้จะได้ใหม..เพราะเขาก็ไม่ได้เรียนบัญชีมาแต่เขาก็อยากลองทำเพื่อประหย้ดค่าใช้จ่ายให้นอ้งเขา....เพราะเขาสนิทสนมกับนอ้งสาวคนเล็กของเขามากกว่าพี่สาวคนโตของเขา....มันก็มีหลายเรื่องที่ต้องเคลียกัน..บางเรื่องมันก็เป็นสว่นตัวมากเกินไปน่ะค่ะป้า..เลยจะพูดกันตรงๆก็ไม่ได้....อย่างไรก็ขอขอบคุณป้ามากนะคะ..ทีเข้ามาคลายความในใจให้

pall

อืมฟังที่ส้มตำบอกแล้วเข้าาใจและเห็นด้วย
 บางสิ่งบางอย่างเราพูดมากไปก็ไม่ดี
 
 พูดถึงการยื่นกรอกภาษีนั้นลุงไม่ได้ทำด้วยตนเอง
 เราให้Treuhandbüro
 ทำให้เพราะเขาชำนาญกว่าเรามาก
 และอีกอย่างเขารู้วิธีซิกแซกและช่วยเราลดหย่อนภาษีให้
 บางอย่างที่เราคาดไม่ถึงก็หักออก.
 ทุกๆเดือนลุงจะต้องทำรายรับรายจ่าย
 พอสิ้นปีก็นำยอดรายรับรายจ่ายทั้งหมด
 นำไปให้Treuhandbüro
 เพื่อสำรวจยอดเงินทั้งปี
 
 ทางTreuhandbüro  
 ก็จะหาทางช่วยเราคิดรายจ่ายหักออก
 และหาทางลดหย่อนภาษีเท่าที่จะทำได้
 และคิดภาษีให้เราเพื่อนำไปยื่นให้
 Steuerverwaltung des Kanton...  
 เขตที่ตัวเองอยู่...
 ซึ่งเขาจะสำรวจอีกทีว่าที่Treuhandbüro
 นำมายื่นนั้นถูกต้องใช้ได้ไหม.
 บางครั้งเราได้รับลดหย่อนมากกว่าเดิม
 บางครั้งก็น้อยกว่าเดิม
 เพราะบางอย่างที่Treuhandbüro
 เขาขอลดภาษีนั้นทางSteuerverwaltung des Kanton
 เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
 แต่ส่วนมากที่เขาทำให้ลุงนั้นจะโอเคทุกอย่าง
 เราเห็นว่าถ้าเราทำเองจะไม่ได้รับการลดหย่อนมากกว่านี้
 เรียกว่าคุ้มกับรายจ่ายที่เสียไป
 
 Treuhandbüro บางแห่งเขาทำงานดีมากเลย
 Treuhandbüroที่ลุงจ่ายให้เขานี่เราทำกันมา20กว่าปีแล้ว
 เขาช่วยลุงได้ลดหย่อนภาษีได้มากเลย
 เงินที่จ่ายให้Treuhandbüro
 เราก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
 
 ว่าไปนะเห็นจากของลุงที่เป็นตัวอย่างง่ายๆ
 เงินที่เราจ่ายไปทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต
 เจ็บป่วย,คนแก่
 หนี้สิน.หรือทุกอย่างที่จ่ายไปเรานำมายื่นลดภาษีได้
 เช่นค่าโทรศัพท์,น้ำมันรถ,ประกาศรับจ้างทำงาน
 เครื่องมือในการประกอบอาชีพ,เสื้อผ้าที่ใช้ทำงาน
 รถยนต์ที่ซื้อมาใช้เราจะถือว่าใช้สำหรับทำงาน
 ซึ่งคนทำงานทั่วๆไปนำมาขอยื่นลดหย่อนภาษีไม่ได้
 และมีอีกมากมายหลายอย่าง.
 การมีหนี้สินที่ใช้ในการลงทุนมากเท่าไร
 ยิ่งได้ลดหย่อนภาษีมาก.และถ้าได้เงินไม่ตรงเป้าหมาย
 หรือต่ำกว่ากำหนดก็ได้รับความช่วยเหลือ
 ทางด้านประกันเจ็บป่วย.
 เขาจะช่วยเราจ่ายประกันทุกเดือน.
 
 อืมTreuhandbüro นี่เขาชำนาญมากกว่าเรามาก
 ถ้าไม่ซับซ้อนยุ่งยากราคาที่จะต้องจ่ายก็ไม่แพงเท่าไร ต่อปี
 ว่าไปเรื่องเงินยืมที่น้องสามีของส้มตำ
 นำมาใช้ในรูปของเงินลงทุน
 เรานำมาหักภาษีได้นะ.
 
 
 

ตุ้ม

ถ้าไม่รังเกียจจะขอเพิ่มเติมอีกนะคะ
 1  การทำงานส่วนตัวนั้นเราต้องไปขอจดทะเบียนกับ Eidgenössische Steuerverwaltung เพื่อจะได้หมายเลขที่เราต้องใช้ในการเก็บ MWSt. จากลูกค้าและนำไปใช้ในการจ่ายภาษีที่เราเก็บมาจากลูกค้าด้วย  ใบเสร็จสำหรับลูกค้าต้องมีแสดงหมายเลขนี้อยู่ดัวย  ของใช้ที่เราซื้อมาใช้ในการทำงานก็นำมาคิดหัก MWSt. ในการแจ้งภาษีในแบบฟอร์มนี้ดัวย  ถ้าสินค้าส่งออกนอกประเทศเงินที่เราจ่าย MWSt. ของวัสดุจะได้รับกลับ
 2  AHV คิดจากรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายเช่นค่าวัสดุ ค่าเช่าสถาณที่(ถ้าทำจากบ้านที่อยู่อาศัยก็หักได้บางส่วน) ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำค่าไฟ  บางอาชีพหักค่าเลื้อผ้าและค่าอาหารที่เลี้ยงรับรองลูกค้าได้ดัวย  ใบเสร็จที่จะนำมาหักนี้ถ้าเกิน 200 ฟรังค์ต้องให้เค้าเขียนชื่อกิจการค้าของเราในใบเสร็จดัวย  ข้อสำคัญที่สุดผู้ที่ประกอบอาชีพส่วนตัวไม่มีสิทธิ์รับเงินคนว่างงานเมื่อหยุดกิจการ  จึงจำเป็นที่จะต้องหาประกันส่วนตัวที่จ่ายเวลาที่มีเหตุเกิดขึ้นทำให้ไม่สามารถทำงานได้ ค่าประกันหักจากรายได้ได้
 3 ภาษีรายได้คิดจากรายได้ลบรายจ่าย  ภาษีนี้หักเงินสะสมออกได้ การเสียภาษีมากน้อยนั้นขึ้นกับรัฐและเมืองที่เราอยู่และเมืองที่กิจการตั้งอยู่ดัวย  ถ้ากิจการใหญ่ควรตรวจดูว่าอัตราภาษีเมืองใดต่ำและตั้งกิจการที่เมืองนั้น
 นี่เป็นเพียงข้อเคร่าๆเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องศึกษากันเป็นปีๆและต้องคอยจับตาเวลารัฐเปลี่ยนแปลงกฎดัวย ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับกิจการที่ทำและความใหญ่โตเท่าใดดัวย  ในกรณีย์ที่ใหญ่โตเราอาจจะขอสิทธิ์พิเศษในเรื่องลดภาษีได้
 

ส้มตำ




สวัสดีค่ะป้าพอล...สวัสดีค่ะคุณ..ตุ้ม
 
 ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาช่วยคลายปัญหา....มันจะเป็นปัญหามากก็ไม่ใช่แต่ถ้าเรามีทางที่จะทำให้ดีขึ้นก็อยากจะชว่ยกัน..คือยังไงเราก็รู้จุดที่จะต้องแก้หลายอย่าง...เพราะน้องสาวสามียังไม่มีประสพการณ์ในการทำงานมากเท่าที่ควร...แต่เขาก็ไม่อยากเป็นลูกจ้างใคร...เลยเดินสายเอง..ก็อย่างที่ส้มตำบอกมาน่ะแหละค่ะคือไม่มีทุน....แล้วพี่สาวก็ให้ยืมเงินมาทำทุนโดยไม่คิดดอก..แต่เขาต้องเข้มงวดกับรายรับรายจ่าย...ซึ่งเขาบกพร่องในจุดนี้...พี่สาวก็อยากทำให้ความฝันของน้องเขาก้าวต่อไปโดยมีหนี้สินนอ้ยมากหรือแทบจะไม่มีหนี้สินเลย...แต่มันก็ยังไม่ลงตัว...ส้มตำก็คิดว่าทรอยฮานบูโรเขาก็คงทำให้ดีที่สุดนั่นแหละ....ยังไงส้มตำก็ขอขอบคุณทั้งป้าพอลล่า...และคุณตุ้มมากเลยนะคะ...ที่ทำให้ใด้เรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้..ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

pall

สวัสดีค่ะคุณตุ้ม
 
 ขอบคุณมากที่เข้ามาตอบเพิ่มเติม
 ทำให้ได้รับความรู้เพิ่มขึ้นอีกมาก
 อย่างที่บอกธุรกิจส่วนตัว
 มีมากมายซับซ้อนมากขึ้นอยู่ว่ากิจการใหญ่โตแค่ไหน
 ยอมรับว่าไม่ค่อยรู้มากมายนัก.
 และอีกอย่างธุรกิจกิจการทำมาหากินของสองเรา
 เป็นธุรกิจที่ไม่โต
 กิจการของเราเป็นกิจการเล็ก..
 .และขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเจ้านายและลูกน้อง
 
 **ขอคุยด้วยคน**
 
 
 ข้อที่1....เกี่ยวกับ MWST(Mehrwertsteue)
 
  เราไม่เคยทำกันเลยไม่เคยแจ้ง
 กับDie Eidg. Steuerverwaltung (ESTV)
 เพราะกิจการไม่ใหญ่โตและเงินรายรับไม่ถึง
 ที่เขาระบุไว้ว่าถ้าเกิน CHF 75 000 ต้องแจ้ง
 
 และกิจการที่ทำมี2อย่างคือสวนและหลังคา
 ซึ่งแต่ละอย่างเรียกว่ากิจการของเราแบบตามใจฉัน
 หรือรักเธอเท่าฟ้า.....
 เลยได้อนุโลมรอดตัวไปเพราะไม่นำมารวมกัน
 เราไม่บวกระยะทางหรือบวกค่าใช้จ่ายระหว่างทาง....
 เราไม่คิดบวกเพิ่มได้แต่ลด.....
 เรียกว่าทำเท่าไรก็ให้เขาจ่ายเท่านั้น....
 นอกจากบางครั้งคิดค่าชม.เพิ่ม...เจอลูกค้าพูดถูกใจ
 จ่ายสดลดอีก10%
 ทำเกินเวลาฟรี.....ให้เขาเลี้ยงกาแฟ....
 
 .......อีกอย่าง...ถ้าเห็นอากาศดีก็โดดงานออกเที่ยว
 ปีนเขา....อาทิตย์หนึ่งทำแค่2หรือ3วัน...
 เหมาะๆเลื่อนนัดไม่ทำงานจนลูกค้าอ่อนใจ
 แต่ก็รอเรา....เรียกว่าลูกค้าที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้
 เป็นลูกค้าที่เก่าแก่ทำกันมาตั้งแต่หัวดำจนหัวหงอก....
 
 อิอิ...ถึงว่าไม่รวยสักที....
 
 นี่ลูกค้าเก่าแก่มากเดินเซแล้วเซอีก....
 ให้เราไปทาสีบนอลูมิเนียมบนหลังคา.
 ป้าบอกลุงกลับจากเที่ยวถึงจะทำให้เขาบอก...โอเช่ๆๆ..รอ
 ลูกค้าคนนนี้ขี้เหนียวมาก...แต่จ่ายให้เราเกินกว่าที่เขียนบิลให้.
 ซึ้งใจลูกค้าแบบนี้มากๆๆ.
 
 พูดถึง MWST  
 ตอนมาอยู่ที่สวิตฯใหม่ๆประมาณ2หรือ3%กว่าๆเอง
 ถ้าจำไม่ผิด  
 ตอนหลังมาลงคะแนนเสียงกันรู้สึกว่าจะเป็น2หน
 เลยจ่ายเพิ่มขึ้น.
 เมื่อปีคศ.1995รู้สึกจะประมาณ 6.5%
 ต่อมาปี1999ประมาณ7.5%
 และปีคศ.2001 จนถึงปัจจุบันประมาณ 7.6%
 ยอมรับว่าไม่ค่อยชอบ MWST
 เพราะทำให้เราต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น
 แต่ดีสำหรับการเก็บเงินเข้าคลัง
 รู้สึกว่าจะนำเงินส่วนนี้เข้าAHV, IV
 มากหน่อย
 
 พูดถึงเรื่อง MWSTแล้วซับซ้อนมาก
 ขอบอกก่อนว่าไม่ค่อยจะรู้เรื่องมากเท่าไร
 ถ้าใครรู้เรื่องนี้ดีเข้ามาช่วยบอกจะดีมากเลย
 

blacktea

ได้ความรู้ประดับสมองน้อยๆ อีกแล้ว
 ในฐานผู้สนใจประกอบกิจการส่วนตัว(อะ แฮ่ม) ในอนาคต
 ขอยกตำแหน่งที่ประธานที่ปรึกษา(ส่วนตัว)ให้ท่านป้าทั้งสอง
 ตอนนี้ตามล่าหาความรู้ใส่สมองให้มีรอยหยักเพิ่มไปก่อนค่ะ

ตุ้ม

สวัสดีค่ะคุณ Pall จริงค่ะเรื่อง MWSt. เป็นเรื่องมากและอัตราไม่เท่ากันด้วยค่ะ อย่างพวกหนังสือก็จะเป็นอีกคนละอัตรากับสินค้าทั่วไป  ไม่ค่อยชำนาญเรื่องนี้ค่ะ  พอรู้บ้างงูๆปลาๆค่ะ  ไม่เคยมีกิจการเองเคยเป็นแต่ลูกจ้างบริษัทค่ะ  ถ้ามีกิจการเองป่านนี้ยาโกรกผมคงไม่ยอมทำงานแน่ๆเลย  ขนาดเป็นแค่ลูกจ้างยังต้องโกรกบ่อยๆเลยค่ะ  พอจะรู้เรื่องบ้างค่ะเรื่องนี้แต่ไม่มีปัญญาอธิบายค่ะ  ถ้าถามมาตรงๆก็พอตอบได้ค่ะ  เป็นนักประพันธ์ไส้แห้งแน่นอนค่ะ
 คุณ Pall กับคุณลุงทำหลังคาแล้วทำกระจกบนหลังคาที่ให้แสงส่องเข้ามาด้วยหรือเปล่าคะ  คุณลุงเก่งนะคะท่าทางยังแข็งแรงจึงเต้นรำเก่งและยังปีนหลังคาไหว  ลุงที่บ้านหลังไม่ดีค่ะผ่าตัดกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทมาสองครั้งแล้วค่ะอีกทั้งมีโรคหัวใจแบบพระเอกของคุณ Pall ด้วยค่ะมี stents 3 ตัวค่ะ  ขนาดไม่เคยหักอกเค้านะคะยังต้องซ่อมแซมเลย  เอาอกเอาใจสามีบังเกิดกล้าอย่างที่สู้ดเลย  ถึงเวลากินก็ให้กินถึงเวลานอนก็ให้นอนค่ะ

pall

สวัสดีจ๊ะบี
 รวยเมื่อไรจะล้มทับ.
 
 สวัสดีค่ะคุณตุ้ม
 
 โหเพิ่งรู้ว่าลุงของคุณตุ้มเหมือนลุงบ๊อบ.
 ว่าไปลุงของพี่หลังก็ไม่ดีนะ..ต้องทำเทราปีทุกเดือน
 ว่าไปอายุแกก็น่าจะเลิกทำงานได้แล้ว.
 แต่เพราะเงินคนแก่ได้น้อยและแกอยากทำงานต่อ
 ไม่อยากไปขอเงิน ELแบบทำงานแล้วได้เงินมากกว่า
 และได้ออกกำลังกายด้วย...พี่จะไปช่วยทำหลังคา
 ก็ช่วงหน้าร้อน.
 
 อืมงานหลังคาเราจะทำแค่ซ่อมแซมกระเบื้อง
 หลังคาส่วนไหนชำรุด...หรือทาสีขอบLukane
 กวาดใบไม้รางน้ำ...เรียกว่าทำกระจุกกระจิกไม่ใหญ่
 บางทีเจ้านายกับลูกน้องก็จะตีกันตายบนหลังคา
 เพราะวิจัยงานกันคนละมุม5555
 
 พี่จะรับทำหน้าที่เป็นเลขาพิมพ์ใบจ่ายให้ลูกค้า
 ดูแลเงิน..และช่วยทำงานบางครั้งถ้างานแกล้นมือ.
 
 งานทำสวน...ลุงจะทำคนเดียวเพราะเรียนมาทางนี้.
 แค่งานเดียวก็ทำไม่ไหวเพราะงานที่Schloss  
 มีงานทำมาก.พี่ไม่เคยช่วยงานสวนด้านนี้
 เพราะถ้าช่วยกิจการแกคงเจ๊งแน่ๆๆ
 ขนาดสวนที่บ้านพี่ยังทำตายหลายต้น5555
 
 เห็นไหมกิจการขของ2เราระทดระทวยสุดๆๆ.
 ลุงของน้องเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้
 หัวใจลุงของพี่กล้ามเนื้อตาย30%
 แต่ไม่ต้องกลัวแกตายไวหรอก
 เห็นหมอดูบอกอายุแกยืนถึง90ปี.
 

ตุ้ม

สวัสดีค่ะคุณ Pall ลุงแกทำเทราปิสบ่อยค่ะเพราะเกิดมาก็กระดูกสันหลังโค้งอยู่แล้(เกือบเหมือนเต่า)  พอมาประสบอุบัติเหตุ 2 ครั้งและผ่าตัดทั้งสองครั้งก็แย่  ไปอยู่ทีศูนย์ 8 อาทิตย์ที่เค้าให้ออกกำลังกายและช่วยทุกอย่างก็ไม่ดีขึ้นค่ะ  สุดท้ายหยุดงานไป 3 ปีกว่าเพิ่งกลับไปทำอีกเมื่อเดือนที่แล้วแต่แค่ 80 % ทางบริษัทจะให้ทำเต็มแต่ลุงอยากทำแค่ 3 วันเลยต่อรองลงมาเป็น 4 วัน  แต่ไม่ได้ทำตำแหน่งเดิมเพราะต้องใช้แรงงานหนักและเดินทางด้วย  เดี๋ยวนี้เวลาไปซื้อของกันเราก็เป็นแจ๋วเพราะลุงไม่หิ้ว  เดินเร็วก็เจ็บหัวใจทั้งๆที่เราก็รักที่สุดแล้วก็ยังเจ็บอีก  ตัดหญ้าก็ต้องทำเองหมดจะคลานแล้วค่ะ งานนอกก็ทำงานบ้านก็ทำอีก ดีว่าทำแค่หอมปากหอมคอเพราะไม่กะเอาคะแนนแบบคนสวิสค่ะ  แกคงตายทีหลังแกแน่เพราะแจ๋วตายก่อน

blacktea

สวัสดีค่ะป้าจ๋า
 สวัสดีคะป้าตุ้ม
 
 สองบ้านนี้คล้ายๆ กันจังค่ะ
 คุณลุงทั้งสองก็ไม่สบาย
 ก็อย่างงี้แหละนะคะ พออายุมากขึ้น
 รายกายสังขารก็ร่วงโรย
 ชิ้นส่วนอุปกรณ์ประกอบเป็นร่างกาย
 ก็เลยพลอยหลุดร่วง เสียหาย จนต้องซ่อมแซม
 
 ขนาดชาดำเองอายุยังน้อยๆ อยู่เลย
 ก็มีปัญหาเรื่องกระดูกสันหลังค่ะป้า
 เคยยกของหนักๆ ตอนย้ายบ้านหลายปีมาแล้ว
 ทีนี้ก็ทำให้ปวดและชาไปครึ่งซีก คือซีกซ้ายทั้งแถบ
 ชาจนไม่อยากจะขยับเขยื้อนเลยแหละค่ะ
 ไปหาหมอหลายที่ หมอแต่ละที่บอกไม่เหมือนกันอีกแน่ะ
 สุดท้ายไปเจอหมอหนุ่มถูกใจ พูดเหมือนหมอดูเลย
 เขาว่าชาดำไปยกของหนักๆ มาแน่ๆ  
 ทีนี้กระดูกสันหลังไปทับเส้นประสาท
 เลยทำให้ชาไปทั้งแถบ
 หมอสั่งยามาให้กิน อาการชาหายไปเลยค่ะ
 แต่ต้องไม่ไปกระแดะยกของหนักอีกนะคะ
 ก็มีบางครั้งกระแดะอยากเป็นนางเอกจอมอึด
 ยกโน่นยกนี่ อาการปวดก็กลับมาอีกค่ะ
 ชาดำจะปวดเฉพาะซีกซ้ายค่ะ แต่อาการชาหายไปแล้ว
 
 มาอยู่นี่ดีหน่อย มีพระเอกคอยดูแล อิอิ
 ของหนักๆ ก็ละไว้ให้เขาทำ
 แต่ก็มีบางครั้งเวลาไปข้างนอกคนเดียว
 แล้วซื้อของกลับมาหนักๆ หิ้วหนักๆ แล้วอาการปวดก็กลับมาอีกค่ะ
 
 เลยกะว่ากิจการอะไรก็แล้วแต่ที่ต้องทำงานหนักๆ ก็จะไม่เอา
 อย่างร้านอาหาร ทำแล้วรายได้ดี แต่ก็ไม่เอาค่ะ
 รวยจริง แต่ทำแล้วต้องมาคอยซ่อมแซมร่ายกายก็ไม่เอาค่ะ
 ก็มองๆ อยู่ว่า นางเอกแบบบางอย่างเราจะทำอะไรได้เนี่ย
 หรือจะเป็นนางแจ๋วให้คุณผู้ชายอย่างเดียวก็ยังไม่รู้เลยค่ะ
 
 
 

ตุ้ม

สวัสดีจ้าชาดำ  มีปัญหาเรื่องหลังเหมือนกันหรือจ๊ะ  ควรระวังอย่าหลวมตัวไปยกของหนักหรือเอี้ยวตัวผิดที่เชียวนา  ลุงแกเป็นครั้งแรกเป็นอัมพาตชั่วคราวไปครึ่งตัว  และไม่ได้อยู่ที่ในสวิสต้องมากับเครื่องบินและต่อด้วยรถพยาบาล  ป้าเลยเป็นแจ๋วคอยหิ้วของเดินตามคุณผู้ชาย  ฝรั่งที่ไม่รู้จักเค้าคงคิดว่าลุงแกฝึกแจ๋วไว้ดี  ชาดำหาทำงานที่ไม่ต้องใช้แรงก็ได้มีหลายอย่างค่อยมองหาไปจนกว่าจะถูกใจนะ  ออกกำลังกายเฉพาะแบบที่หมอเค้าแนะนำมาก็จะช่วยบ้าง  เรื่องหลังสำคัญนะจ๊ะ