News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่



แนะนำตัวเองค้า ทิรามิสุเอง

Previous topic - Next topic

ทิรามิสุ

คุณบอมย์ มีสูตรทีรามสุ แบบไม่อ้วนทานด้วยละ แต่มันไม่อร่อยเท่าต้นตำหรับนะค้า

เกตุ

โอ้โหหหหห พี่ปุ๊ยนั่งรถม้าไปคนข้างทางไม่มองกันใหญ่เลยป่าวค่ะ น่าหนุกดีจังเลย สวยด้วยค่ะ ป๊าวๆๆ จะบอกว่างามขึ้นจริ๊งๆๆ

ทิรามิสุ




คนก้อมองกันใหญ่เลย เพราะเอาลูกอมไปแจกตามรายทาง เหมือนคนสมัยก่อนเลยอ่ะ สนุกดี แล้วในงานแต่งงานยังมีเอาการ์ดให้แขกที่มาในงานเลี้ยง เขียนว่าจะให้อะไรเรา เอาไปผูกที่ลูกโป่งเสี่ยงโชคอีก ถ้าโชคดีมีคนเก็บได้ ส่งกลับมาให้ เราก้อจะได้รับของขวัญในการ์ดที่เขียนไว้

ทิรามิสุ




ได้การ์ดกลับมาตั้ง 3 ใบนะ ลูกโป่งลอยไปตกที่ประเทศออสเตรียโน้น เขาติดแสตมป์ส่งมาให้ละ  
 ถึงได้ไปกินอาหารญี่ปุ่นมา เพราะในการ์ดเพื่อนเฮียเขียนว่า เลี้ยงอาหารเย็น 1 มื้อ กิกิ เสร็จเรา กินของแพงเลย

ทิรามิสุ




กินเทมปุระ ระหว่างรอซูซิของโปรดค้า กุ้ง 2 ตัวกับ ปลา 1 ชิ้น นอกนั้นเป็นผัก ราคา 25 ฟรัง ถ้าให้ควักกระเป๋าเอง เห็นจะไม่มีวัน ดีที่คนอื่นออกให้ เง่อ

เกตุ




พี่ปุ๊ยขอบอกว่าเอามาแลกกับส้มตำปูปลาร้าก็ไม่ย๊อมมมมม ว่าแต่
 หร่อยเหมือนบ้านเราป่าวคะซูชิ แหะๆๆ เอาสีมือห่วยมาโชว์มั้งได้ป่าว
 เอิ้กๆๆ  
 
 ว่าแต่พี่ปุ๊ยน่าจะบอกรถม้าขับหลงทางมาี่ที่นี่หน่อยง่ะ อยากเก็บหน
 มมั้ง งานแต่งสวยดีค่ะ เจ้าสาวก็งาม เจ้าบ่าวก็หล่อ ครีเอทมากเลยค่ะ
 ที่เอาการ์ดมาติดลูกโปร่งให้ลอยไป จะมาตกแถวบ้านเกตุมั้งป่าวเน้อ  
 แล้วตอนนี้มีการ์ดส่งมาอีกมั้งป่าวค่ะ

ทิรามิสุ




เกตุมันไปตกประเทศออสเตรียโน้นค้า มีคนส่งกลับมาให้ 3 ใบค้า เลยไปกินอาหารญี่ปุ่นนั้นละ

วนาลี

สวัสดีพี่บอมย์  นู๋เกต และ ทีรามิสุ (TIRAMISU)  จ๊ะ  ท้ายสุดๆก็ต้องสวัสดีป้าพรค่ะ วนาลีคนเดิม ผลุบๆโผล่ๆตามประสาคนอยู่ไม่สุข พอดีเห็นนู๋เกตพูดถึงป้าพร เลยต้องรีบเข้ามาสวัสดีป้าก่อนป้าลืมวนาลีคนนี้ ......  มาพร้อมกับเอาทีรามิสุมาให้ด้วยค่ะ ขอบอกว่า ทีรามิสุที่ลูกาโนอร่อยที่สุด มีเวลาเมือไหร่ จะไปขออ้อนพี่บอมย์ให้อ้อนสามีให้ทำให้กินอีก  ข้อความข้างล่างนี้ก๊อปเขามาอีกทีจ๊ะ  
 
 ทีรามิสุ (TIRAMISU)  เป็นขนมหวานสัญชาติอิตาเลียน ราคาน่าตกใจ แต่รสอร่อยลิ้น ละมุนปาก ขนมที่ดูเหมือนจะทำยากนี้ ที่จริง ทำง่ายแสนง่าย และใช้เวลาไม่นาน อ้อ ! คำว่า “TIRAMISU” ถอดความเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า “Carry me up” นะจ๊ะ (มีใครบางคนอำไว้ว่า ที่จริงน่าจะถอดความว่า “Carry my weight up” เสียมากกว่า )  
 
 

วนาลี

ส่วนผสมที่จะต้องใช้ในการทำ ทีรามิสุ (Tiramisu) ก็จะมี
 1. ชิฟฟอนเค้ก (Chiffon Cake) : ไม่ต้องขยันถึงขนาดลงมือทำเองก็ได้ แค่เดินออกไปขอซื้อตัว Cake Roll (เค้กที่จะใช้ทำแยมโรลนั่นแหละค่ะ) จากร้านขายขนมอบมาเสียก่อน บอกคนขายว่า ขอซื้อแบบยังไม่ม้วน และยังไม่ต้องทาครีมใดๆ  
 2. เนยแข็งมาส์คาร์โปเน (Mascarpone) หนึ่งไหใหญ่ (ขนาดประมาณ 500 กรัม) จะใช้ของไทย (ตรา Caroline ตราวัวยิ้ม) หรือใช้ของนำเข้า (สารพัดยี่ห้อ) ก็ได้ เจ้าเนยแข็งมาส์คาร์โปเน (Mascarpone) นี้เป็นเนยแข็งชนิดสดที่ทำจากนมวัว เป็นเนยแข็งที่ขึ้นชื่อของเขต ลอมบาร์ดี ประเทศอิตาลี มาส์คาร์โปเน จะไม่จับตัวเป็นก้อนแข็ง แต่เหมือนครีมข้นที่ตีขึ้นฟู เนื้อละเอียด สี งาช้าง มีรสหวานจากน้ำตาลแล็กโทสในน้ำนม จึงนิยมนำมาทำของหวานหรือผสมกับผลไม้ แต่ในเขต Friuli จะผสมเนยแข็งมาส์คาร์โปเนกับแอนโชวีหรือปลาเค็ม มัสตาร์ด และเครื่องเทศ เป็นอาหารจานเด่น ของเขตนี้ แต่คนส่วนใหญ่ ชอบมาส์คาร์โปเนในรูปของขนมหวานมากกว่า เนยแข็งมาส์คาร์โปเนที่จะนำมาใช้ ควรจะมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับในห้อง หรือเย็นกว่านิดหน่อย  
 3. วิปปิ้งครีม (Whipping Cream) ชนิดยูเอชที หนึ่งกล่องเล็ก (ขนาด 225 - 250 ML.) เราจะใช้เพียงแค่ ครึ่งเดียวเท่านั้น  
 4. กาแฟ Esspresso ที่ชงแบบเข้ม ๆ แล้วตั้งไว้ให้เย็น ไม่ใส่น้ำตาล
 5. น้ำตาลทราย 5 — 7 ช้อนชา (ถ้าชอบหวานมากกว่านี้ อาจใส่เพิ่มได้ แต่อย่าใส่มากเกินไป เพราะจะทำให้เลี่ยน)  
 6. ชอกโกแลต ผง หรือโกโก้ผง ตามแต่จะชอบหรือหาซื้อได้  
 7. ลิเคียวร์กาแฟ (Coffee Liqure) ที่เรียกว่า คาลัว (Kahlua) ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ หรือถ้าชอบมากก็ใส่มาก ชอบน้อยก็ใส่น้อยได้ อันนี้ไม่ว่ากัน เพราะตัวกัสซี่เองชอบกลิ่นเหล้าชนิดนี้มาก เวลาทำทิรามสุ จึงใส่ประมาณ 1/ 4 ถ้วย !!! แต่หากว่าคุณผู้อ่านหาซื้อเหล้าชนิดนี้ไม่ได้ ก็อาจจะหันไปใช้เหล้า Rum หรือ Grappa แทนก็ได้เหมือนกัน
 
 
   
 
 8. ไข่ไก่ 4 ฟอง (ใช้ทั้งไข่ขาว และ ไข่แดง)
 
 

วนาลี

วิธีทำ  
 1. เริ่มต้นด้วยการตีไข่ 4 ใบทั้งไข่ขาวและแดงรวมกันไปเลย ตีด้วยเครื่องตีความเร็วสูง จนไข่ฟูเป็นสีครีมอ่อน ๆ ตั้งยอด ระหว่างตีก็ค่อย ๆ เติมน้ำตาลทรายทีละช้อน จนหมด  
 2. เมื่อตีไข่เสร็จ ก็เอา Mascapone Cheese มาคนผสมกับ Whipping Cream ให้เข้ากัน อัตราส่วนแบบมวยวัด เราใช้ Whipping Cream สัก หนึ่งในสามของ Mascapone Cheese พอเข้ากันดีก็ค่อยๆเทไข่ใส่ลงไปตะล่อมๆให้เข้ากัน ขั้นตอนนี้ ห้ามใช้เครื่องผสมอาหารตีด้วยความเร็วสูงเป็นเด็ดขาด เพราะเนยแข็งจะแยกตัว จากนั้นให้สังเกตดู หากว่า ครีมชีสที่ผสมนี้เหลวมากไปก็เอาพักไว้ในตู้เย็นก่อน  
 3. ระหว่างนั้นก็เอากาแฟที่ชงไว้มา มาผสมด้วยเหล้าที่ชอบ การใส่เหล้าลงในกาแฟนี้ ต้องทิ้งกาแฟไว้ให้เย็นเสียก่อนใส่ลิเคียวร์กาแฟลงไป เพราะถ้าใส่ลิเคียวร์กาแฟตอนน้ำกาแฟร้อน แอลกอฮอล์และกลิ่นจะระเหยไปหมด
 4. เตรียมขนมเค้ก ตัดให้เท่ากับภาชนะก้นลึก ที่จะนำมาใช้ ภาชนะนี้อาจจะเป็นถาด หรือ ชามกลม ชามเหลี่ยมก็ใช้ได้ทั้งนั้น จากนั้นเอาเค้กที่ตัดแล้ววางเรียงลงไป แต่อย่าลืมว่า ก่อนนะนำเค้กใส่ลงไปในชามนั้น จะต้องเทน้ำกาแฟ Espresso ที่เตรียมไว้ลงไปก่อน ถ้าหากกลัวว่าจะกะปริมาณของน้ำกาแฟไม่ถูก ก็อาจใช้แปรง จุ่มน้ำกาแฟ ทาให้ทั่วแผ่นเค้กก็ได้
 5. จากนั้นเอาเค้กชั้นแรกวางลงไปให้ซับน้ำกาแฟ เมื่อวางเค้กเสร็จอย่าลืมโรยน้ำกาแฟลงไปบนเค้กอีกให้ชุ่ม ตามด้วยครีมชีสที่ผสมไว้โปะลงไปให้หนาตามใจชอบ จากนั้นวางเค้กชั้นที่สองลงไป ตามด้วยน้ำกาแฟ แต่ชั้นนี้ต้องโรยให้มากหน่อยเพราะไม่มีน้ำกาแฟอยู่ด้านล่าง แล้วก็ตามด้วยครีมชีสอีกที แบบหนาๆเลย จบด้วยการเอาผงชอคโกแลตมาโรยผ่านตะแกรงเล็กๆ ให้ทั่วหน้าเค้ก ตกแต่งชั้นสุดท้ายด้วยชอคโกแลตหวานขูดเป็นลิ่มเล็ก ๆ โรยให้ทั่ว เอาเข้าตู้เย็นสักสามชั่วโมงก่อนเสิร์ฟ แต่ถ้าจะให้อร่อยควรทำขนมนี้ล่วงหน้าหนึ่งวันก่อนรับประทาน

วนาลี

มาแล้วไปแล้วค่ะ ก่อนจากก็ขอแสดงความยินดีกับทีรามีสุ แต่งงานน่ารักมากเลยค่ะ ขอให้เรียนเยอรมันได้เร็วๆนะค่ะ  
 
 พี่บอย์ม ขอให้เดินทางปลอดภัย เที่ยวให้สนุกนะ อย่ากินเยอะนะพี่ เด๋วอ้วนนะจ๊ะ แต่จริงๆกลัวอาหารหมด ไม่เหลือให้ตอนเราจะกลับมั่งนะจ๊ะ

เกตุ




อ่ะแฮ่มเจ๊โลแปลว่าอยู่หน้าจอดิเนี่ย วันนี้ไปเก็บเชอร์รี่อีกป่าว  
 
 พี่ปุ๊ยขอให้มีโปสการ์ดมาอีกนะจ้ะ เผื่อจะได้ไปกินซูชิอีกอิๆๆ
 
 วันนี้เกตุไปทะเลสาบซูริคอีกแล้วก๊าบบบบบบ ไปนั่งเรือ แต่ก่อนขึ้นเรือเกตุเห็น*นี้เอิ้กๆๆ

เกตุ




กลับมาเลยแวะไปดูสักกะหน่อย ลืมๆๆ ขอแปะด้วยคนน๊าพี่ปุ๊ย  
 
 เป็นเรือให้เช่าปั่นเล่นในทะเลสาบค่ะ ราคาตามนี้เลย

เกตุ




เลยขอเล่นครึ่งชั่วโมง ปั่นไปคนเดียว ตาอ้วนอยู่กับลูกบนฝั่ง

เกตุ




สนุกดีอิๆๆ เห็นน้ำใสๆๆ ไหนลองเอาเท้าแหย่ๆดูดิ๊