News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่



** ประกันกับการย้ายบ้าน**

Previous topic - Next topic

pall




 
 
 **การย้ายบ้านกับปัญหาที่ตามมา**
 
 เราจะเหนื่อยเครียดตอนย้ายบ้าน
 หลังจากที่ขนของออกไปหมดแล้วไม่ใช่ว่าดีขึ้นนะ
 แต่เราก็ยังเครียดอยู่และบางคนอาจจะเครียดมากกว่าเดิม
 ความเครียดที่พูดถึงคือการชำรุดของสถานที่เราพักอาศัยอยู่
 เช่น พรมเปื้อนล้างไม่ออกเพราะแขกทำไวน์หกหรือกาแฟ
 อ่างล้างหน้า,อ่าง*เพราะทำของหล่นใส่
 เด็กขีดเขียนวาดรูปเล่นตามฝาผนัง
 
 ก่อนที่เราจะทำสัญญาย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านเช่า
 เราทุกคนต้องตรวจสอบความเรียบร้อยของสถานที่ว่า
 อยู่ในสภาพแบบไหนและถ้ามีอะไรชำรุดสึกหรอหรือไม่
 และอยู่ในสภาพที่ไม่น่าไว้วางใจเท่าไร
 เราต้องยื่นข้อเสนอให้คนดูแลหรือเจ้าของบ้าน
 เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรลงไว้ก่อนจะเซ็นชื่อ
 ทำสัญญาการเช่าเพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาภายหลัง
 เรียกว่ากันไว้ดีกว่าแก้
 
 การเช่าบ้านหรือห้องชุดที่อยู่อาศัย
 การทำสัญญาอาจจะแตกต่างกันออกไป
 บางแห่งอาจจะเรียกเก็บเงินวางมัดจำ
 หรือบางแห่งไม่เก็บแล้วแต่การตกลงการทำสัญญากัน
 
 
 **การทำประกัน( Privat Haftpflichtversicherung)**
 
 ประกันแบบนี้ไม่มีการบังคับแล้วแต่การสมัครใจของคนทำ
 ถ้าเราทำประกันไว้ตอนย้ายออกเราต้องแจ้งให้ประกันรับรู้
 และประกันจะมาตรวจสอบและจ่ายเงินให้
 ตอนที่เจ้าของบ้านเรียกร้องความเสียหาย
 คนที่แต่งงานมีลูกควรจะทำไว้
 การทำประกันแบบนี้ว่าไปถ้าทำได้จะดีมาก
 เพราะควบคุมไปได้แทบทุกอย่าง
 
 ประกันที่เราทำจะจ่ายเงินเราในกรณีย์ที่ของโดนขโมย
 รถจักรยานหาย,คนงัดบ้านขโมยของ,ลูกไปทำบ้านของคนอื่นเสียหาย
 ไฟไหม้บ้าน,ประกันจะจ่ายเงินเราในวงเงินที่เราทำไว้
 
 **ประกันจ่ายไม่หมดตอนย้ายบ้าน**
 
 การทำประกันแต่ละบริษัทจะไม่เหมือนกัน
 บริษัทบางเจ้าจะจ่ายหมดแต่บางเจ้าจะให้เราจ่ายจำนวนเงิน
 แล้วแต่ที่เขาระบุตอนเราทำสัญญากับเขา
 คือย้ายบ้านแต่ละครั้งเราจะต้องจ่ายเท่าไร
 บางบริษัทเขาให้เราจ่าย10%
 หรือ 100 หรือ200แล้วแต่
 แบบนี้เราเรียกว่า Selbstbehalt
 
 
 **ข้อควรรู้เล็กๆน้อยๆสำหรับของใช้ในบ้านเช่า***
 
 เจ้าของบ้านเช่าบางแห่งเขี้ยวมาก
 เรียกร้องให้เราจ่ายเงินค่าชำรุดเสียหายตอนย้ายออก
 ถ้าเรารู้ไว้จะได้ไม่เสียเปรียบ
 เพราะถ้าอายุของใช้หมดอายุตามกฎหมาย
 เขาจะมาเรียกร้องเราไม่ได้
 แต่ถ้ายังอายุอยู่ในเงื่อนไข
 ซึ่งเราจะต้องซ่อมแซมหรือทำตามที่เขายื่นข้อเสนอมา
 

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0257 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

pall

**อายุของใช้ภายในบ้านเช่า**  
 
 Lavabo (อ่างล้างหน้า) อายุประมาณ 40 ปี  
 
 Spiegel (กระจก)อายุประมาณ 20ปี  
 
 Elektrische Herdplatte (เตาหุงต้มไฟฟ้า)อายุประมาณ12ปี  
 
 Backofen(เตาอบ)อายุประมาณ15ปี  
 
 Parkett(พื้นไม้)ขึ้นอยู่กับไม้ที่ทำบางอย่างอายุถึง40ปี  
 
 บางอย่างไม่ถึง  
 Teppich(พรม)อายุประมาณ8ถึง15ปี  
 
 **ช่วงนี้เป็นช่วงที่คนย้ายบ้านกัน**
 
 ใครที่คิดจะย้ายบ้านหรือกำลังย้ายบ้านอยู่  
 ขออย่าให้มีปัญหาที่น่าปวดหัวแบบนี้เกิดขึ้น  
 ขนของเองตอนย้ายบ้านประหยัดได้มากที่สุดเลย  
 แต่ก็ปวดหัวและเครียดพอสมควร  
 ถ้าจ้างเขาเหนื่อยน้อยหน่อยแต่ก็กระเป๋าแฟ่บพอควร  
 การย้ายบ้านจ้างเขาค่อนข้างจะแพงพอสมควร  
 
 

miko

ตอนที่มาสวิสเมื่อตอนนั้นช่วงตึกที่อเมริกาถล่ม                            พอมาแฟนหลอกว่าเธอกับเมืองไทยไม่ได้หรอก                           แฟนเลยบอกว่าเราแต่งงานกันเถอะหนูก๊เลยแต่ง                          ตอนนั้นยอมรับฉุกเฉินมากใหนแฟนจะทํางาน                          ใหนจะหาบ้านเช่าเพราะแฟนทํางานอยู่ที่ลูชินร์                             และเช่าบ้านอยู่ที่นั้นด้วยแต่แค่ห้องครึ่งเพราะอยู่คนเดียว               ในที่สุด มาม่าแฟนเลยออกคาวมเห็นให้เช่าบ้านเพื่อนของแก อยู่        และติดกับบ้านแก ชึ่งเพื่อน มาม่า อยู่กันสองคนผัวเมียแต่อยู๋แบบไม่แต่งงานแล้วทางผู้ชายก๊มีลูกกับเมียเก่าของแกสองคนแต่โตแยกครอบครัวไปอยู่ที้อื่นหมดแล้วบ้านที่อยู่ก๊เก่ามากๆๆเลยพอมิโก๊ะอยู่กับแฟนครบสองปีลุงแกก๊ตายและสัญญาเช่า ก๊ทําสองปีพอดีๆๆแต่ทีนี้มีปัญหาเพราะว่าบ้านลุงแกตกไปเป็นของลูกชายแกสองคนคุณป้าไม่เกี่ยวเลยทีนี้ตอนทําสัญญาทํากับลุงและป้าแกก๊รู้ว่าบ้านแกนะเก่าแล้วไม่เป็นไรแต่พอตกไปเป็นของลูกชายแค่นั้นมีปัญหาทันทีจะขึ้นค่าเช่ามั้งอะไรต่ออะไรจิปาทะแฟนมิโก๊ะเลยไม่ต่อสัญญา  และตอนย้ายออกนะคะป้ามิโก๊ะกับแฟนทําคาวมสะอาดตั้งสามอาทิตย์ทาสีใหม่อีกทั้งสามห้องเลยโห ไม่งั้นไม่ยอมจะปรับเงินลูกเดียวงกจริงๆๆเลยอีตาคนนี้ทําคาวมสะอาดชะหูตูบเลย

jang

โห  ฟังดูเป็นเรื่องยุ่งยากจริงๆนะคะ..แจงก็มีโครงการจะย้ายลงเขาแล้วค่ะ...แต่มองหาบ้านใหม่ก่อน..
 เพื่อนสามี มาชวนให้ไปอยู่ด้วย แต่ยังไม่มีบ้านนะคะ..แกกะลังหาซื้อบ้านซักแห่ง...แล้วให้เราเช่าบ้านแก อยู่ด้วยกัน 2 ครอบครัว...
 แต่แกจะอยู่ที่นี่ ครึ่งปี อีกครึ่งปีไปอยู่ คิวบากับภรรยาค่ะ
 เลยอยากได้เราไปคอยช่วยเหลือและดูแลบ้าน
 
 สามีแจงเจอโฆษณาขายบ้าน มีบึง มีสวนด้วย 5 ห้องครึ่ง ถูกใจทุกๆคนมาก แต่ตอนนี้ติดต่อคนขายยังไม่ได้เลยค่ะ...เหอๆ..ถ้าพลาดไป จะเสียดายมากเลย

miko

ดีใจด้วยนะจ๊ะ ที่น้องแจง กับแฟน  คิดจะชื้อบ้าน  ยังไงพี่ก็ขออวยพรให้ แฟนน้องแจง ติดต่อคนขายได้สําเร็จ นะจ๊ะ  ส่วนพี่คงต้องเช่า เค๊าอยู่ อีกนาน ไม่รู้ จะมีโอกาส  มีบ้านกับเค๊าหรือเปล่า

ดาว

สวัสดีค่ะ  ทุก ๆ คน  ดาวมีโครงการจะย้าย Wohnung เหมือนกัน  แต่ยังหาที่ถูกใจ (และถูกเงิน) ไม่ได้เลย
 
 เมื่อก่อนอยู่ที่นี่ชอบมากเลยนะ  เพื่อนบ้านน่ารักมาก  อยู่กันอย่างสงบ มีกันหกห้อง บ้านก็โอเค  พอคุณลุงคนหนึ่งเสียไป  ก็มีพวกอพยพ (พวกยูโกฯ) ย้ายเข้ามาครอบครัวหนึ่ง  แย่มาก ๆ เลยล่ะ  เขาทำเสียดังทั้งวัน  ให้ลูกกระทืบพื้นบ้านเล่น ๆ  วิ่งทั่วบ้านแรง ๆ  พาเพื่อนยูโกฯ มาทำเสียงดังที่ห้อง  ตึกเก่าทำข้างในใหม่  แต่เสียงยังดังถึงกันนะ  
 
 เขาขอจะเป็นคนดูแลทำบ้านสะอาดบ้านและตัดหญ้า  ดูแลสวนครัว  กวาดหิมะ  เงินจะหักจากค่าอพาตเม้นท์เลย  แต่เชื่อไหม  อยู่มาปีหนึ่ง  เขาทำความสะอาดครั้งเดียว  (เอาไม้กวาดมาเขี่ย ๆ)  ตัดหญ้าเดือนละครั้งมั๊งอย่างมาก  ไม่ยอมถอนวัชพืชออกจากพื้นที่สวนครัวด้วยล่ะ  ปล่อยให้เป็นป่าเลย  แล้วฤดูหนาวที่ผ่านมา  เราก็ต้องกวาดหิมะหน้า  Garage  เอง  เพราะเอารถออกไม่ได้  เซ็งมาก  ไม่มีคนมาตรวจด้วยว่าเขาไม่ทำงาน  แต่ได้เงินทุกเดือน  เมื่อก่อนคุณป้าอีกคนทำความสะอาด  Wohnung  สะอาดเอี่ยมมากเลย  แล้วสนามหญ้าก็จ้างคนมาตัด  คงคิดเงินเป็นชั่วโมง  เรียบร้อยดีเหมือนกัน  
 
 ถ้าย้ายก็อยากได้ห้องที่ใหญ่กว่านี้สักห้องหนึ่ง  อาจจะหาที่มีเครื่องซักผ้าส่วนตัว  หรือซักผ้าได้สะดวกกว่านี้น่ะ  แต่ก็อยากอยู่เมืองนี้  หรือเมืองติดกัน  เลยหายากหน่อย  เพราะมันชนบทน่ะ
 
 กระทู้นี้มีประโยชน์มากเลย  ก่อนย้ายจะได้ดูดี ๆ ไม่ให้ถูกปรับเงิน
 

pall

สวัสดีจ๊ะดาว
 ป้านึกว่าดาวซื้อบ้านใหม่เรียบร้อยไปแล้ว
 ตอนนี้บ้านและดอกบี้ยถูกมากเลย
 คนประกาศขายมาก
 
 อืมเรื่องที่ดาวบ่นมาป้าเข้าใจดี
 คนสวิสส่วนมากจะไม่คอ่ยชอบคนยูโกเท่าไร
 น่าจะทำเรื่องร้องเรียนกันนะเพราะเราต้องเสียเงินจ่าย
 คนพวกนี้ไม่ค่อยมีความเกรงใจคนสักเท่าไร
 คนยูโกดีๆก็มีแต่เท่าที่เจอจะแย่ส่วนมากเลย
 
 ดาวกำลังจะมีลูกถ้าได้ห้องพักหรือบ้านที่เราสามารถซักผ้า
 ได้ตลอดเวลาจะดีมากเลยเพราะผ้าที่ให้เด็กอ่อนใช้จะเปื้อน
 และต้องซักบ่อย
 
 อืมย้ายบ้านทีเหนือยมากและเซ็งด้วยนะ
 ดาวต้องระวังให้มากถ้าได้บ้านใหม่ตอ้งตรวจดูให้ดี
 ว่ามีอะไรชำรุดสึกหรอหรือเปล่า
 ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาตอนเราย้ายบ้าน
 และอีกอย่างฝรั่งนี่แย่มากๆเลย
 อย่างบ้านป้าให้คนเช่าและเขาย้ายไป
 พอเราย้ายเข้ามาเขาทำความสะอาดแย่มากๆ
 ป้าต้องมานั่งทำใหม่ของใช้ที่เสียก็ไม่บอกเรา
 ทำความสะอาดอยากจะอวกแตกกับเครื่องซักผ้า
 เขาแค่ทำความสะอาดข้างบนแต่ข้างในสกปรกมาก
 และเครื่องล้างจานก็เป็นเมือก
 
 เตาอบเพิ่งซื้อใหม่ก็เป็นรอยเรามาเห็นตอนหลังตอนเขามอบ
 กุญแจให้เเล้วเลยทำอะไรไม่ได้
 เขานัดเรามาเจอตอนเย็นจะมืดแล้วไฟก็ไม่มีเลยไม่เห็น
 เป็นบทเรียนไป
 เสียดายเตาอบราคาร่วม4พันสวิสใบประกันก็ไม่มี
 เพราะป้านึกว่าทางร้านมอบให้แก่เขา
 
 ช่วงนั้นยุ่งอยู่กับลุงเพราะลุงเข้ารพ.เรื่องโรคหัวใจ
 พูดแล้วเซ็งมากเลย
 

ดาว

ฟังเรื่องป้าให้เช่าบ้านแล้วน่าโมโหเนอะ  คนเช่าแย่ ๆ ก็มีเยอะ  แต่คนให้เช่าแย่ ๆ ก็อย่างเช่าของ  Wohnung  นี่ก็ไม่ชอบด้วยค่ะ  แบบว่าไม่รับผิดชอบอะไรเลย  เคยเถียงกันมาทีหนึ่งแล้ว  เรื่องเขาเสียความร้อนของท่อน้ำผ่านในห้องจอดรถ  แล้วมาเก็บเป็นค่า  Heizung  เราโดยไม่บอกล่วงหน้า  (มากกว่าครึ่งหนึ่งของค่า  Heizug ใน  Wohnung ที่ใช้ทั้งปีเลย)  ใครอยากได้  Heizung  ในห้องจอดรถกัน  บอกให้เขาหาอะไรมาหุ้มเพื่อไม่เสียความร้อน  เขาไม่ยอมทำค่ะ  บอกจะทำเอง  เขาก็ไม่ยอม  
 
 เรื่องพวกยูโกฯ  ก็ไปบอกเขาตรง ๆ ว่าเด็กเสียงดังมาก  ถ้าเป็นไปได้  ขอให้อย่าทำเป็นประจำ  นาน ๆ ครั้งหรือชั่วครั้งชั่วคราว  เด็กจะเฮฮาไม่ว่ากัน  เขาก็บอกว่า  เขาจะพยายาม  (แต่ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนเลย)
 
 เมืองที่ดาวอยู่เล็กมากค่ะป้า  ไม่มี  Wohnung  ใหม่เลย  พี่คริสทำงานที่นี่  เลยไม่อยากไปอยู่ไกล  เรื่องซื้อบ้านดาวก็ดูอยู่ค่ะ  เพราะดอกเบี้ยถูกนี่แหล่ะ  แต่ว่ายังไม่ถูกใจ  แล้วก็คิดว่า  บางทีถ้าย้ายที่ทำงาน  ย้ายเมือง  ก็ต้องวุ่นวายขายบ้านอีก  ก็เลยคิดว่า  เช่า  Wohnung  ต่อดีกว่า  อิสระดี  เอาไว้อายุเราสองคนมากอีกสักหน่อย  (ตอนนี้เราสองคนรวมกันยังไม่หกสิบปีเลยค่ะ)  แน่ใจอีกสักนิดว่าจะลงหลักปักฐานที่ไหน  ค่อยซื้อ  เพราะดอกเบี้ยลงได้  เดี๋ยวก็ขึ้นได้  ต้องแน่ใจว่าเวลาขึ้น  จ่ายไหวด้วยด้วยค่ะ  เวลาซื้อบ้านก็มีค่าภาษีโอนอีก  แพงจัง  เสียเปล่า ๆ เลย  แต่ถ้าหา  Wohnug  อีก  ก็จะหาที่มีเครื่องซักผ้าส่วนตัวค่ะ  หรือใช้ด้วยกันไม่เยอะ  แต่ดาวไม่รีบหรอกค่ะ  ค่อย ๆ หา  เพราะขี้เกียจเก็บของย้ายบ้านเหมือนกัน  ถ้าลูกออกมาก่อนย้าย  ก็ไม่เป็นไรค่ะ  ค่อย ๆ ดูกันไป

ดาว

แถมอีกนิดค่ะป้า  เรื่องคนเช่างี่เง่า  พวกยูโกฯ  ข้างล่าง  บ้ามากค่ะ  เอารองเท้า (ผ้าใบ)  ใส่เครื่องซักผ้า  เสียเลยค่ะป้า  ต้องเรียกช่าง  ซึ่งต้องจ่ายค่าซ่อมกันทุกคนถ้วนหน้า  เพราะเขาทำเสีย  แต่เขาไม่สนค่ะ  พวกคุณป้าชาวสวิสที่เช่าอยู่  ก็คุยกับดาวบ้าง  ว่าพวกนี้เข้ามาก่อปัญหา  ทำเสียงดัง  ไม่ทำงาน  แล้วก็ทำของเสีย  ไม่รู้ว่าเป็นคนแบบไหนกัน  แต่พวกคุณป้าขี้เกรงใจมากค่ะ  ไม่กล้าไปบ่นกับเขาตรง ๆ ได้แต่นั่งกลุ้มใจ  ส่วนดาวพอไปคุยกับพวกยูโกฯ  เอาแค่เรื่องเสียงดังอย่างเดียว  ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยค่ะ  ดาวไปคุยกับคนเป็นเมีย  เขาว่าเขาไม่คุยกับดาวหรอก  เขาจะคุยกับสามีดาว  พี่คริสบอกว่า  สงสัยพวกนี้เป็นมุสลิมหรือเปล่าไม่รู้  อาจจะค่อนข้างดูถูกผู้หญิงก็ได้  แต่พี่คริสบอกว่า  เราอยู่สวิส  ผู้หญิงผู้ชายเท่าเทียมกัน  เขาจะมาทำเหมือนดาวเป็นตัวอะไรไม่รู้ได้ไง  พี่คริสเขาก็คุยค่ะ  บ่นไปซะตั้งเยอะ  เมียคนยูโกฯ  ก็ขอโทษมาค่ะ  แต่เขาบอกว่า  เขาทำอะไรไม่ได้  (ลูกเขา 3 - 4  ขวบแล้วนะคะ  พูดรู้เรื่องแล้ว)  ดาวก็เลยเบื่อค่ะ  เรื่องไม่ทำงาน  เรื่องงี่เง่าอะไรก็ช่างมัน  เดี่ยวเราก็ย้ายออกแล้ว  คิดซะแบบนี้ค่ะ  ไม่อยากเครียด

pall

 
 สวัสดีจ๊ะดาว
 ป้าเข้าใจถึงความรู้สึกของดาวและคนสวิสมาก
 พูดถึงการเถียงกันเหมือนกับจะทะเลาะกัน
 ป้าก็เคยได้รับมาแล้ว
 ไม่ใช่แต่กับคนสวิสที่ทะเลาะกันมา
 
 ป้าก็เคยทะเลาะกับคนพวกนี้มาแล้ว
 ป้าเป็นคนใจร้อนมากและชอบการต่อสู้เพื่อสิทธิของเรา
 ป้าไม่ยอมถ้าป้าไม่ผิด....ถ้าผิดจะขอโทษ...
 ยอมรับจ๊ะคนดีก็มีแต่เท่าที่เจอพวกมีเขี้ยวทั้งนั้น
 มีแต่คนเห็นแก่ตัวและมักง่ายมาก
 
 เชื่อไหมขนาดของอยู่ในตะกร้าเรามันหยิบไปเฉยเลย
 ต้องตามไปด่าเอาของคืนไม่มีแม้แต่คำขอโทษ
 มันอ้างแต่ว่านึกว่าของที่นี่วางขาย
 ป้าเลยด่าว่า.....M...หลับหูหลับตาหยิบเหรอ...
 ไม่เห็นกระเป๋าซื้อของเหรอไง.......
 
 เวลาหยิบของที่ลดครึ่งราคา
 มันหยิบของข้ามหัวกดหัวเราลงเลยป้าแทบจะตีกับมัน
 คนสวิสทั่วๆไปไม่คอ่ยชอบคนเหล่านี้
 ป้าเองไม่แอนตี้หรอกแต่ต่อสู้เพื่อสิทธิของเรามากกว่า
 ไม่ชอบให้คนมากดขี่ดูถูกเรา.......
 ไม่ว่าคนสวิสหรือที่ไหนชอบพูดแต่คำว่า...
 ชั้นพูดกับเธอก็ไม่รู้เรื่องหรอก...รอพูดกับผัวเธอดีกว่า...
 ป้าเกลียดมากคำนี้...
 
 อืมเรื่องเอารองเท้าผ้าใบมาซักแล้วทำเสีย
 ยอมรับว่าป้าไม่ยอมเสียเงินหรอก
 เพราะอย่าลืมว่าเขาก็มีประกันนะ
 ประกันน่าจะจ่าย...ไม่ว่าที่ไหนๆเขาก็ทำกันแบบนี้
 
 ฟังเรื่องที่ดาวเล่าแล้วเครียดแทน
 แต่ป้าคงทะเลาะกับเขาทุกวันแน่ๆๆ
 อืมคิดแบบดาวนี่ก็ดีไปอย่างเดี๋ยวก็ย้ายออกแล้ว