น้องใหม่ จะทำวีซ่าค่ะ อยากทราบเรืองอายุของวีซ่าค่ะ

Previous topic - Next topic

เอ๋

สวัสดีค่ะ
 เอ๋ดีใจมากที่ได้รู้จักกับเวปนี้ เพราะตอนนี้เอ๋มีแฟน เป็นชาวสวิส รู้จักกันมาสองปีแล้ว เดือนหน้านี้เค้าก็จะมาเยี่ยมเอ๋อีกครั้ง กะว่าปลายปีหน้าอาจจะแต่ง ดังนั้น ประมาณปีหน้าเดือนพฤษภาคม (สอบซัมเมอร์เสร็จ) เอ๋อยากจะไปเยี่ยมเค้าบ้าง เพราะเราตกลงกันว่า เอ๋ควรที่จะรู้จักครอบครัวและประเทศของเค้าให้มากขึ้น ดังนั้นก่อนแต่งเอ๋ก็ว่าจะไปเที่ยวที่สวิสก่อน คำถามมีอยู่ว่า ถ้าเอ๋ไปยื่นเรื่องขอวีซ่าอาทิตย์นี้ 6/10/06 แต่ตั๋วใบจองตั๋วเครื่องบินประมาณ เดือนพฤษภาคม อยากทราบว่า จะเป็นไปได้มั้ย ในเรื่องของระยะเวลาของตั๋วเครื่องบิน ที่อาจจะดูนานไปหน่อย แล้วเอ๋ต้องมีเอกสารอะไรประกอบเพิ่มด้วยมั้ย นี่เป็นครั้งแรกที่เดินทางไปแถบยุโรป ขอบคุณมากนะคะ

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0120 ห้อง lifestyle (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

pall

สวัสดีค่ะคุณเอ๋
 คุณไม่จำเป็นต้องทำเรื่องยื่นขอวีซ่าเยี่ยมญาติ ( Visitor Visa )
 ตั้งแต่ตอนนี้หรอกค่ะต้นปีหน้าคุณก็เริ่มทำเรื่องได้เลย
 คุณลองเข้าไปอ่านที่คุณแม่แม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว ...ได้เขียน
 วิธีการขอวีซ่าเยี่ยมญาติ ( Visitor Visa )
 ไว้อย่างละเอียดซึ่งเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากสำหรับคนรุ่นหลัง
 ลองกดเข้าไปอ่านได้ที่นี่ค่ะ
 
 01  ห้องปัญหากฎหมาย,วีซ่า,ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย Webboard
 หน้า4..
 หัวข้อทู้ที่ 0041 การขอวีซ่าเยี่ยมญาติ ( Visitor Visa )
 
 จะได้คำตอบอย่างละเอียดตามที่คุณต้องการอยากรู้
 ถ้ายังสงสัยเข้ามาถามใหม่ผู้รู้อื่นๆที่มีประสบการณ์เข้ามาช่วยตอบ
 ให้ข้อมูลเพิ่มขึ้นค่ะ

เอ๋

ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำตอบ
 แต่เอ๋มีความจำเป็นในเรื่องของเวลา คือว่าอย่างนี้คะ
 เดือนหน้า เอ๋อาจจะถูกเลิกจ้าง ซึ่งเอ๋ก็ไม่แน่ใจว่าเอ๋จะหางานทำได้เมื่อไหร่ ซึ่งใบรับรองเงินเดือนนั้นสำคัญมากใช่มั้ยคะในการเดินทางไปต่างประเทศ เพราะมันต้องใช้ยื่นประกอบ ดังนั้น ตอนนี้เอ๋ยังสามารถใช้ได้อยู่ เอ๋ก็กะจะยื่นไว้ซะเลย เลยสงสัยข้างต้นว่า มันจะเป็นการขอล่วงหน้าที่นานเกินไปรึเปล่าค่ะ นี่แหล่ะปัญหาของเอ๋
 แล้วอีกเรื่องหนึ่ง ตกลงว่าเอ๋ ขอวีซ่าชนิดไหนดีค่ะ
 ระหว่าง visitor Visa and Tourists Visa...
 แต่อยากบอกความจริงว่า เอ๋ได้โทรนัดจองเวลายื่นวีซ่า ซึ่งเป็นวันที่ 6 ที่จะถึงนี้ (พรุ่งนี้) ในเรื่องของการขอยื่น Tourists Visa ไม่ทราบว่าต้องทำงัย ต้อง ยกเลิก หรือว่า ทำเรื่องยื่นต่อไป
 ปล. เอ๋ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยนะคะ ตอนนี้เอ๋เรียนราม อยู่ปีสาม ไม่ทราบว่าใบรับรองการเป็นนักศึกษา จะเป็นใบการันตีได้รึเปล่าคะ
 หวังว่าเอ๋คงได้รับคำตอบก่อนที่เอ๋จะตัดสินใจทำอะไรนะคะ
 ขอบพระคุณมากนะคะ
 เอ๋

pall

สวัสดีค่ะคุณเอ๋
 
 คุณเข้าไปอ่านทู้ที่ป้าให้มาหรือยังคะทู้ของคุณแม่จิ๋วจิ้ว
 ที่เข้ามาเขียนบอกข้อมูลไว้
 
 **ข้อมูลเกี่ยวกับการขอวีซ่าเยี่ยมญาติ ( Visitor Visa )**
 แม่จิ๋วจิ้วเคยไปเที่ยวสวิสด้วยวีซ่าเยี่ยมญาติ
 หรือ Visitor Visa มาแล้ว 3 ครั้ง เลยอยากมาเขียนบอกไว้
 เผื่อว่าอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับใครบางคนบ้าง
 
 **ขั้นตอนที่ 1 :**
  ให้ผู้เชิญ Fax จดหมายเชิญมาที่สถานทูตสวิสที่กรุงเทพฯ
 คำพูดในจดหมายเชิญก็เขียนพอเป็นพิธี ไม่ต้องเยิ่นเย้อมาก เช่น "ข้าพเจ้าชื่อ...อยู่บ้านเลขที่...ถนน...เมือง...( ที่สวิส ) เบอร์โทร...ต้องการเชิญคุณ......บ้านอยู่ที่...ถนน...เมือง...ประเทศไทย
  มาพักที่บ้าน ระหว่างวันที่...ถึงวันที่...
 โดยข้าพเจ้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นทั้งหมด"
 
 **ขั้นตอนที่ 2 : **
 โทรไปถามสถานทูตสวิสว่าได้รับ Fax จดหมายเชิญ แล้วหรือยัง
  ( ถ้าไม่รู้จะพูดกับเจ้าหน้าที่ยังไง ลองใช้ "สวัสดีค่ะ
  ดิฉัน ( บอกชื่อ-นามสกุล ของเรา )
  ไม่ทราบว่าทางสถานทูตได้รับจดหมายเชิญ
 ที่คุณ ( ชื่อ-นามสกุล ผู้เชิญ ) แฟกส์มาให้แล้วหรือยังคะ"
  ถ้าทางสถานทูตได้รับแล้วจะตอบคุณประมาณว่า
 "ได้รับแล้วค่ะ เอาเอกสารมายื่นได้"
  ถ้าไม่รู้ว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้างก็ถามเจ้าหน้าที่ได้
 ไม่ต้องกลัวโดนกัด
 ถึงแม้น้ำเสียงเจ้าหน้าที่จะไม่ค่อยเป็นมิตรนักก็ตาม
  คิดเสียว่าเป็นธรรมดาของเจ้าหน้าที่สถานทูต ( เลวๆที่ชอบวางอำนาจเหนือผู้อื่น )
  อย่าไปเอามาเป็นอารมณ์ ครั้งนึงเคยเจอฝรั่งคนหนึ่ง
 พาเมียคนไทยไปขอวีซ่า แล้วเจ้าหน้าที่พูดจาไม่ดี น้ำเสียงห้วนๆ
 และแสดงสีหน้าแบบดูถูกคน
 ฝรั่งคนนั้นตะโกนด่าใส่ดังลั่นเลยว่า
 ทำไมพวกคุณบริการห่วยแตกอย่างนี้ ทำยังกะพวกฉันเป็นหมา
 ( why do you treat me like a dog like this !!! very bad service ) "
  และก็ด่าอีกยืดยาวมากแต่จำได้แค่นี้
 ตอนนั้นนึกขอบคุณฝรั่งในใจที่ด่าแทนให้ สะใจมาก
  เพราะคิดว่าหลายคนคงอยากจะพูดแบบนั้นเหมือนกัน
 แต่กลัวเขาไม่ออกวีซ่าให้
 
 **ขั้นตอนที่ 3 : **
 เตรียมเอกสารไปยื่นดังนี้
 1. จดหมายเชิญ :
 จะเป็นจดหมายจริงๆหรือเป็นกระดาษที่ปริ้นท์จากอีเมลก็ได้
  ( กรณีที่ผู้เชิญเขียนอีเมลมาเชิญ )
 2. พาสปอร์ตและสำเนา 1 ใบ
 3. รูปถ่ายขนาด 1.5 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว 1 ใบ
 4. ใบทะเบียนพานิชย์และสำเนา 1 ใบ
 ( ถ้าประกอบอาชีพส่วนตัว ) หรือ จดหมายยืนยันจากที่ทำงาน
 ( ถ้าเป็นลูกจ้างหรือพนักงานบริษัท )
 5. สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ใบ
 6. สำเนาบัตรประชาชน 1 ใบ
 7. สมุดบัญชีธนาคารไม่ต้องใช้
  เพราะมีผู้เชิญเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่ายให้อยุ่แล้ว
 
 **ขั้นตอนที่ 4 :**
  กรอกใบคำร้องขอวีซ่า
 ( ขอใบคำร้องได้ที่สถานทูต หรือ ปริ้นท์เอาจากเวบไซต์ของสถานทูตก็ได้ )
 จะมีเจ้าหน้าที่ผู้ชายคนหนึ่งคอยช่วยเหลือในการกรอกข้อมูล
  เสียดายลืมจดชื่อลุงแกไว้ แต่แกบริการดีมาก
 ไม่มีการชักสีหน้าดูถูกคน หลังจากแกตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว
 ก็จะแจกบัตรคิว คอยคิวเข้าไปนั่งในห้องแอร์
 
 **ขั้นตอนที่ 5 :**
  ถึงคิวแล้วก็เอาใบคำร้องและเอกสารต่างๆไปยื่นที่เค้าเตอร์
 ที่มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงหน้าบูดตลอดเวลานั่งอยู่ 2-3 คน
  เจ้าหน้าที่อาจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
 เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับผู้เชิญ เช่น รู้จักกันได้ยังไง ที่ไหน
  คุยกันด้วยภาษาอะไร บางทีก็ถามเราเป็นภาษาอังกฤษ
 เพื่อดูว่าเราพอจะโต้ตอบได้บ้างไหม
 ถ้าไม่มีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่ก็จะให้ใบการันตีมา
 แล้วบอกให้เราส่งไปให้ผู้เชิญกรอก
 ( ส่งทางไปรษณีย์เท่านั้น ขอแนะนำให้ใช้บริการ DHL )
 ค่าส่งประมาณ 1 พันบาทเศษ
 ถึงมือผู้เชิญภายใน 1-2 วัน เร็วดี
 แถมตรวจสอบสถานะของเอกสารได้ว่าถึงไหนแล้ว
  จากทางเวบไซต์ของ DHL ) แล้วเจ้าหน้าที่จะบอกว่า อีก 1 เดือนให้เราโทรมาถามผล ซึ่งจริงๆแล้วไม่ต้องรอถึง 1 เดือนหรอกค่ะ
 โทรไปก่อนได้ ถ้าผู้เชิญได้รับเอกสารที่เราส่งไปให้
 และกรอกข้อมูลครบถ้วน
  พร้อมทั้งเตรียมเอกสารเพิ่มเติมตามที่ระบุไว้ในใบการันตี (Declaration of Guarantee )
 ส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เมืองนั้นตรวจสอบ
 และไม่มีปัญหาอะไร ปกติพอทราบว่า
 ผู้เชิญยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่แล้ว อีก 1-2 วัน
  แม่จิ๋วจิ้วก็โทรไปสถานทูตแล้วล่ะค่ะ
 
 **ขั้นตอนที่ 6 : **
 หลังจากโทรไปถามสถานทูต และสถานทูตตอบว่า
 ได้รับเรื่องจากทางการที่สวิสแล้ว
 สถานทูตจะบอกให้นำตั๋วเครื่องบินพร้อมสำเนา 1 ใบมาแสดง
 ( ซึ่งต้องเป็นตั๋วตัวจริงเท่านั้น ห้ามนำใบจองตั๋วไปแทน
 ตอนแรกแม่จิ๋วจิ้วก็สงสัยว่า ถ้าเสียตังค์ซื้อตั๋วแล้ว
 ปรากฏว่าวีซ่าไม่ผ่านล่ะจะทำยังไง
 แต่คิดดูดีๆแล้ว เมื่อสถานทูตให้นำตั๋วเครื่องบินไปแสดง
 นั่นแสดงว่า ได้รับวีซ่าแล้วล่ะค่ะ
 จุดประสงค์ที่สถานทูตต้องการดูตั๋วเครื่องบิน
 ก็เพื่อดูวันเดินทางในตั๋ว เมื่อกำหนดวันเริ่มต้นของวีซ่า
  แม่จิ๋วจิ้วคิดไปถึงว่า ถ้าซื้อตั๋วของสวิสแอร์ไลน์
 จะได้วีซ่าง่ายขึ้นกว่าซื้อของสายการบินอื่นหรือเปล่า
 ซึ่งจริงๆไม่เกี่ยวกันเลยค่ะ ครั้งแรกแม่จิ๋วจิ้วไปของการบินไทย
 ครั้งที่สองของสายการบินเอมิเรตส์ ครั้งที่สามของสายการบินมาเลเซีย ปรากฏว่าก็ได้วีซ่าทุกครั้งค่ะ )
 
 **เอกสารที่ต้องนำไปยื่นครั้งนี้ คือ **
 
 1. พาสปอร์ต
 ( เจ้าหน้าที่จะเก็บพาสพอร์ตไว้ 1 คืนเพื่อเอาไปแสตมป์วีซ่าให้
  โดยจะมอบกระดาษแผ่นเล็กๆพร้อมหมายเลขประจำตัว
  เพื่อให้เรานำมาแสดงเพื่อรับพาสปอร์ตคืน
 ที่ป้อมยาม เวลา 9:30-11:30 น. ของวันรุ่งขึ้นค่ะ )
 
 2. ตั๋วเครื่องบินตัวจริงพร้อมสำเนา 1 ใบ
 ( เจ้าหน้าที่จะเอาตัวจริงไปเช็คดูแป๊บนึงแล้วคืนให้
  ส่วนสำเนาตั๋วเครื่องบินเจ้าหน้าที่จะเก็บเอาไว้ )
 
 **ขั้นตอนที่ 7 :**
  เช้าวันรุ่งขึ้น ก็นำกระดาษใบเล็กๆนั้น
 ไปยื่นที่ป้อมยามของสถานทูตเพื่อรับพาสปอร์ตคืน
  เปิดพาสปอร์ตดูจะเห็นสติกเกอร์วีซ่าแปะอยู่ด้านใน
 ซึ่งจะระบุวันเริ่มต้นและวันหมดอายุของวีซ่าไว้ค่ะ
  อย่าลืมเช็ควันเดินทางกลับกับวันหมดอายุของวีซ่าให้ดีนะคะ
 
 ขอให้โชคดีทุกคนนะคะ
 
 โดย แม่จิ๋วจิ้ว สยิวกิ้ว   เมื่อ วันจันทร์ที่ 27  กุมภาพันธ์ 2549, 13:36:20 น.
 
 
 **อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่**
 01 ห้องปัญหากฎหมาย,วีซ่า,ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย Webboard
 หน้า4..
 หัวข้อทู้ที่ 0041 การขอวีซ่าเยี่ยมญาติ ( Visitor Visa )
 
 http://www.pallswiss.com/cgi-bin/webboard/generate.cgi?content=0041&board=lifestyle
 
 

pall

**ขอตอบคำถามที่คุณถามมา**
  ตกลงว่าเอ๋ ขอวีซ่าชนิดไหนดีค่ะ
 ระหว่าง visitor Visa and Tourists Visa...
 **คำตอบ**
 Visitor Visa ..ค่ะ
 
 โดยให้แฟนของคุณเป็นคนเชิญคุณมา
 ทำตามขั้นตอนที่คุณแม่จิ๋วจิ้ว ได้เขียนบอกรายละเอียด
 ขั้นตอนเอาไว้อย่างชัดเจนทุกอย่าง
 **พยายามอ่านให้ละเอียดช้าๆนะคะตั้งใจอ่าน**
 อย่ากังวลใจเกี่ยวกับการออกจากงาน
 และใบเงินเดือนหรือเงินในธนาคาร
 เพราะถ้าแฟนเชิญคุณมาเที่ยวเขาจะออกค่าใช้จ่าย
 หรือการประกันให้คุณทุกอย่างที่นี่
 ซึ่งอาจจะทำในรูปประกันเจ็บป่วย(Krankenkasse)
 หรือเงินในธนาคารจำนวนCHF20000
 แฟนคุณจะเลือกเอาเอง...แต่เท่าที่เห็นคนที่เชิญมา
 จะทำประกันเจ็บป่วยค่ะ
 
 **คำถาม**
 แต่เอ๋มีความจำเป็นในเรื่องของเวลา คือว่าอย่างนี้คะ
 เดือนหน้า เอ๋อาจจะถูกเลิกจ้าง ซึ่งเอ๋ก็ไม่แน่ใจว่าเอ๋จะหางานทำได้เมื่อไหร่ ซึ่งใบรับรองเงินเดือนนั้นสำคัญมากใช่มั้ยคะในการเดินทางไปต่างประเทศ เพราะมันต้องใช้ยื่นประกอบ ดังนั้น ตอนนี้เอ๋ยังสามารถใช้ได้อยู่ เอ๋ก็กะจะยื่นไว้ซะเลย เลยสงสัยข้างต้นว่า มันจะเป็นการขอล่วงหน้าที่นานเกินไปรึเปล่าค่ะ นี่แหล่ะปัญหาของเอ๋
 
 **คำตอบ**
 แฟนคุณเชิญคุณมาแบบVisitor Visa
 ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลเกี่ยวกับงานหรือเงินอีกต่อไป
 แฟนคุณจะเป็นคนดูแลออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้คุณ
 ตอนที่เชิอญคุณมาเที่ยวที่สวิตฯค่ะ
 ความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้คุณตัดทิ้งไปได้เลย
 
 **คำถาม**
 แต่อยากบอกความจริงว่า เอ๋ได้โทรนัดจองเวลายื่นวีซ่า ซึ่งเป็นวันที่ 6 ที่จะถึงนี้ (พรุ่งนี้) ในเรื่องของการขอยื่น Tourists Visa ไม่ทราบว่าต้องทำงัย ต้อง ยกเลิก หรือว่า ทำเรื่องยื่นต่อไป
 ปล. เอ๋ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยนะคะ ตอนนี้เอ๋เรียนราม อยู่ปีสาม ไม่ทราบว่าใบรับรองการเป็นนักศึกษา จะเป็นใบการันตีได้รึเปล่าคะ
 
 **คำตอบ**
 โทรไปยกเลิกไม่มีปัญหาค่ะ
 พอปีหน้าคุณคิดจะมาตอนไหนก็จัดการทำตามขั้นตอนที่
 คุณแม่จิ้วจิ้วเขียนไว้..โทรนัดใหม่ได้..
 ตอนที่คุณคิดว่าจะมาเมื่อไร
 
 **เกี่ยวกับใบรับรองการเป็นนักศึกษา**
 ลองอ่านคำตอบของคุณตุ้มนะนะ
 
 สวัสดีทุกๆคนค่ะ
 เมื่ออาทิตย์ที่แล้วหลานสาว 2 คนไปขอวีซ่าเพื่อจะมาเที่ยวที่สวิตฯได้นำเอกสารต่อไปนี้ไปยื่นค่ะ
 
 - จดหมายจากญาติที่ทางสวิสแจ้งว่าจะมาเยี่ยมเยียน
 - จดหมายจากทางมหาวิทยาลัย(คนโต)และทางโรงเรียน(คนเล็ก)ว่าเป็นนักศึกษา/นักเรียนปัจจุบัน
 - รูปถ่าย
 - ใบจองตั๋วเครื่องบิน
 - พาสปอร์ต
 
 หลังจากที่ได้คอยคิวประมาณ 3 ช.ม. ทางสถาณฑูตนัดให้มารับวีซ่าในวันรุ่งขึ้นแต่ขอเอกสารเพิ่มเติมคือ
 
 - สำเนาทะเบียนสมรสของผู้เชิญเพราะมีชื่อบิดามารดาของผู้เชิญ (ส่งแฟค Family Book ไปที่สถาณฑูตในวันเดียวกัน)
 - สำเนาทะเบียนบ้านเพราะต้องการดูชื่อบิดามารดาของบิดามารดาของหลาน เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นญาติกันจริงเนื่องจากหลานคนเล็กยังไม่บรรลุนุติภาวะ
 - ตั๋วจริงของเครื่องบินที่จองไว้
 - ใบรับรองประกันสุขภาพ
 
 ในวันรุ่งขึ้นวีซ่าก็ออกเรียบร้อยทุกอย่างค่ะ รวดเร็วมากๆ
 
 โดย ตุ้ม   เมื่อ วันจันทร์ที่ 27  มีนาคม 2549, 03:27:36 น.
 

เอ๋

เอ๋ขอขอบคุณป้าพอลมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยนะคะ ไม่นึกว่าป้าพอลจะใส่ใจกับคำถามเอ๋ได้ขนาดนี้ ตอนนี้เอ๋สบายใจขึ้นแล้ว แต่ก่อนคิดว่าการทำวีซ่าไปต่างประเทศเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะจากที่มีหญิงไทยบางส่วนทำเรื่องไม่ดีไว้ มันเลยทำให้เอ๋กังวล
 เมื่อวานเอ๋ได้ตัดสินใจยกเลิกนัดส่งเอกสารกับทางสถานทูตเรียบร้อยแล้วคะ เพราะมันนานไปอย่างที่ป้าพอลบอก และอีกอย่างถ้าเรื่องใบรับรองเงินเดือนที่ไม่สำคัญและจำเป็นด้วยที่เอ๋กังวล เอ๋คงจะยื่นเรื่องปีหน้าหรือรู้เวลาเดินทางก่อนล่วงหน้า สักเดือน (คงดีใช่มั้ยคะ)
 เอ๋ก็ได้ยินแฟนบอกเหมือนกัน ทางเค้าต้องมีเงินโชว์ให้ดูประมาณ หกแสนบาท เพื่อรับรองค่าใช้จ่ายในการเดินทางของเอ๋ ประกันภัย ฯลฯ
 เอ๋จะพยายามอ่านในส่วนที่ป้าพอลส่งมาให้ ให้ละเอียดอีกครั้ง
 ถ้าเอ๋สงสัยอะไร คงต้องพึ่งป้าพอลอีกนะคะ
 และก็ดีใจมากๆๆๆ ที่ ได้รู้จักกับเวปนี้ เพราะคงช่วยเอ๋ได้เยอะในการรู้จักประเทศสวิส เพราะเอ๋คงต้องย้ายไปอยู่ที่นั้น ไม่นานเกินรอ หลังจากแต่งงาน ถ้ามีโอกาสก็อยากรู้จักป้าพอลดัวย (:
  แถมท้าย  เรื่องภาษา ถ้าเอ๋ต้องไปอยู่ที่นั้น เอ๋น่าจะเรียนภาษาจากที่นี่ประเทศไทย หรือไปเริ่มที่นั้นคะ
 วันนี้พอแค่นี้นะคะ ยังงัยคงต้องรบกวนป้าพอลอีกแน่ๆ
 ขอบคุณค่ะ
 เอ๋

pall

สวัสดีค่ะคุณเอ๋
 ดีใจค่ะที่คุณสบายใจดีขึ้น
 เกี่ยวกับการทำเรื่องยื่นขอวีซ่าแบบVisitor Visa
 ที่ให้แฟนเชิญคุณมาเที่ยวนั้น
 คุณควรโดยใช้เวลาพอสมควรหน่อยนะคะ
 เพราะคุณไม่เคยมาเที่ยวสวิตฯเลย
 ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่รับเชิญมาเที่ยว
 ทางสถานฑูตอาจจะต้องใช้ระยะเวลานานหน่อยในการตัดสินใจ
 คุณคิดกะระยะเวลาประมาณ3เดือน(อาจจะนานนิดหน่อย)
 เกี่ยวกับวีซ่าที่แต่ละคนได้รับมาระยะเวลาที่ได้รับจะไม่เหมือนกัน
 บางคนได้ไวบางคนได้ช้า
 **ตัวอย่าง**
 แม่ของป้าตอนนี้ยังอยู่ที่สวิตฯอยู่
 มาเที่ยว2ปีติดๆกัน...ตอนที่ทำเรื่องขอวีซ่าแบบเชิญมา
 ขนาดแสดงใบยื่นว่าเคยมาเที่ยวสวิตฯหลายครั้งแล้ว
 ยังได้รับใบอนุมัติออกวีซ่า...นานร่วม3เดือน
 คุณก็กะระยะเวลาสัก3เดือนทำเรื่องยื่นขอวีซ่ามาดีกว่า
 
 สำหรับการเรียนภาษาตอนนี้คุณมีเวลา
 เรียนมาจากเมืองไทยก็ไม่เลวนัก
 จะได้พอมีพื้นฐานบ้างเล็กน้อย
 และพอแต่งงานมาอยู่ที่นี่ก็เริ่มเรียนได้จะช่วยได้มาก
 
 อย่างไรก็ตามรอคนอื่นๆที่มีความรู้หรือมีประสบการณ์เกี่ยวกับ
 เรื่องการขอวีซ่าหรือการเรียนมาบอกข้อมูลเพิ่มเติม
 ขอขอบคุณมากค่ะ